บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด นโยบายหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองส่วนใหญ่ชูนโยบายลดแลกแจกแถมกันอย่างหนัก ซึ่งก็เรียกว่าเป็น นโยบายประชานิยม แต่ที่สุดโต่งที่สุดคือนโยบาย แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป โดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยประกาศออกมา ทั้งที่ตัวเองก็เคยวิจารณ์การแจกเงินช่วงโควิดของรัฐบาลนี้ว่าไม่มีประโยชน์ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ด่าว่า "ปัญญาอ่อน" แต่กลับมาทำเสียเอง เพียงเพราะหวังจะได้คะแนนแลนด์สไลด์ และจ้องทุบ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับแอป "เป๋าตัง" ของรัฐบาลชุดนี้ ท่ามกลางข้อกังขามากมาย กระทั่งมีการยื่น กกต.ให้ตรวจสอบแล้ว ล่าสุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. บอกว่า "กกต.ก็มีหน้าที่พิจารณา เราก็มีหน้าที่ชี้แจง รอเราเป็นรัฐบาล เราจะเข้าไปทำให้เกิดขึ้นเป็นจริง ไม่ต้องกลัวว่าเราจะพูดลอยแล้วเราไม่ทำ" ประเด็นทำได้หรือไม่ได้ ไม่สำคัญเท่ากับว่าการแจกเงินจำนวนมากกว่า 5 แสนล้านบาท หลังวิกฤตโควิดผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว จึงไม่มีความจำเป็นและไม่มีเหตุผลที่ต้องแจกทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีฐานะและไม่เดือดร้อน!...0

นอกจากนักวิชาการที่ออกมาท้วงติงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอแนะของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังว่า "ขอให้ระมัดระวังเรื่องความมีเสถียรภาพของสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในระดับต้นๆ ที่รักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ได้" นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เปิดเผยว่า "งบประมาณปี 67 กำลังออก ยังเหลือวงเงินที่มาบริหารจัดการโครงการใดก็ได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท เว้นแต่ว่าถ้าเก็บภาษีได้เพิ่มโดยอัศจรรย์" ก่อนหน้านี้ นายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. บอกว่า "นโยบายดังกล่าวไม่เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้" นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โต้กลับว่า "เลขาธิการ กกต.ไม่มีสิทธิมาพูดก่อนล่วงหน้า ควรเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณา ส่วนพรรคการเมืองที่มีนโยบายใช้จ่ายเงินงบประมาณและต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 57 ที่กำหนดให้มีการชี้แจงที่มาของเงิน วงเงินที่จะใช้ และวิเคราะห์ความคุ้มค่าและความเสี่ยงของนโยบายดังกล่าวนั้น" เรื่องนี้หาก กกต.ไฟเขียวว่าทำได้ พรรคการเมืองอื่นเกทับ แจกคนละ 1.5 หมื่นบาทบ้าง คงจะบรรลัยแน่!...0

ไม่ต้องแปลกใจเมื่อ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศว่าจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) และก้าวไกล (ก.ก.) หลังการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าไม่สบายใจที่ ก.ก.ประกาศนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และ พท.ก็ไม่ได้แสดงจุดยืนว่าไม่เห็นชอบ ส่วนที่แกนนำพรรค พปชร.บางคนบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ นายไพบูลย์ ยืนยันว่า บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ เห็นชอบก่อนที่ตนจะออกมาพูด ก็คงจะเป็นจริงอย่างที่นายไพบูลย์บอก เนื่องจาก พท.ปฏิเสธว่าไม่มีดีลลับ และจะไม่ร่วมกับ พปชร. ทำเป็นไม่แคร์พรรคอื่น พปชร.ก็ต้องโก่งราคาตัวเองเหมือนกัน จึงต้องเททับบลัฟกันไปบ้าง งานนี้ บิ๊กป้อม จึงไฟเขียวให้ไพบูลย์ออกมาข่ม พท.และหวด ก.ก.ไปด้วย ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรก็ค่อยว่ากันใหม่...0

ที่ประชุม ครม.มีการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญฯ ครั้งที่ 18 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2565) จากการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สรุปผลการดำเนินการของแผนการปฏิรูปประเทศทั้ง 13 ด้าน มีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม แต่ดูแล้วมีแต่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ไม่ได้ปฏิรูปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรเลย การเมืองจึงยังวนอยู่ลูปเดิม ใช้เงินซื้อ ส.ส.หนักกว่าเดิม กระบวนการยุติธรรมล้าหลัง เกิดวิกฤตกว่าเดิม ระบบเศรษฐกิจก็ยังเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ผูกขาดทรัพยากรของรัฐ คนที่เคยเรียกร้องการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ จึงเบื่อหน่ายระบบเก่าๆ และอยากเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมใหม่ หากยังตีโจทย์ไม่แตก แก้ไขไม่ทันการณ์ สังคมไทยก็จะยังมีความขัดแย้งระหว่างกลุ่มอำนาจเก่ากับพลังคนรุ่นใหม่อยู่ร่ำไป!...0.

แซมซาย

บันทึกหน้า-4 แซมซาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง