Trump จะตกม้าตายเหรอ?

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมบังเอิญได้เจอแฟนคอลัมน์ท่านหนึ่งถามผมขึ้นมาว่า ผมได้พาลูกไปกระโดดลงน้ำคลองหรือยัง (ที่ผมเขียนเมื่อสัปดาห์ก่อน) ผมตอบเขาว่ายังยากอยู่ครับ ไม่ยากเพราะพวกเราไฮโซหรืออำมาตย์ แต่ยากเพราะอยู่ๆ คนนอกที่บ้านไม่ได้อยู่แถวนั้น จะหาที่จอดรถ ต้องเดินผ่านวัดใส่ชุดว่ายน้ำกัน เพื่อปีนขึ้นสะพานกระโดดลงน้ำคลอง มันดูยากมาก แล้วดูเป็นเรื่องใหญ่

มีวิธีเดียวคือ ต้องหาซื้อบ้านแถวนั้น จะได้กระโดดลงน้ำคลองแบบธรรมชาติ

ไม่แน่ครับ ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 11 เมษายน วันที่ครบรอบเสียชีวิตของคุณพ่อ (ปีนี้ครบปีที่ 27)

ในวันทำบุญที่บ้านผมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น ผมอาจตระเวนหาที่ให้ลูกเล่นน้ำคลองหรือเล่นน้ำแม่น้ำก็ได้ แต่ก็แล้วอีก มันต้องเป็นช่วงที่เจอเด็กกำลังกระโดดเล่นน้ำจริงๆ ถึงจะให้ลูกผมกระโดด เล่นกับเขาแบบเนียนๆ

เอาล่ะครับ ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวผมครับ ดีไม่ดี อาจตระเวนไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณพ่อผม เพื่อหาแม่น้ำหรือคลองให้หลานคุณปู่ไปเล่น เหมือนสมัยคุณปู่ (ของหลานๆ) อายุเท่าพวกเขา เข้าเรื่องดีกว่าครับ ในวันนี้เพื่อรำลึกถึงคุณพ่อ (คุณปู่ของหลานๆ) ผมจะสวมหมวก ฟุดฟิดฟอไฟ อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับใครที่ติดตามข่าวคราวจะเห็นว่า Trump มีการขึ้นศาล มีหมายจับ และอาจถูกปรับหรือติดคุก ถ้าเผื่อศาลตัดสินว่าผิดในข้อกล่าวหาต่างๆ หลายคนอาจไม่ทราบว่าเรื่องมีอะไรบ้าง และคำที่เขาใช้กัน มีความแตกต่างอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าวันนี้จะเกริ่นข้อกล่าวหา จะอธิบายคำศัพท์ที่เขาใช้กัน เพื่อให้แฟนคอลัมน์ทุกท่านได้เข้าใจง่ายๆ เมื่อเห็นข่าวนี้ต่อๆ ไปครับ

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจกันนิดนึงว่า ข้อกล่าวหาที่ Trump โดนในรอบนี้ เป็นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นก่อนเขาเป็นประธานาธิบดี เป็นช่วงก่อนเลือกตั้งไม่นานด้วยซ้ำ ข้อกล่าวหาหลักๆ คือ Trump จ่ายเงินปิดปาก ผู้หญิงสองคนที่เขา (Trump) ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์ด้วย

ประเด็นจ่ายเงินปิดปากไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้ Trump อาจตกม้าตาย เพราะการจ่ายเงินปิดปากไม่ผิดกฎหมายครับ อันนี้เราต้องแยกแยะประเด็น แต่วิธีการจ่ายเงินปิดปากที่ Trump มอบหมายให้ทนายความของเขาชื่อ Michael Cohen อีกต่างหาก คือหัวใจของประเด็น เพราะ Trump เอาเงินจำนวนหนึ่งให้ Cohen จ่ายปิดปากให้ แต่ตอนลงบัญชีดันแจ้งว่าเป็น “ค่าทนายความ” ทางอัยการจึงมีความเห็นว่า ทาง Trump มีเจตนารมณ์ปิดบังและหลบเลี่ยงพูดความจริงต่อสาธารณชน เพราะอาจมีผลต่อการลงคะแนนของเขา

ซึ่งผมอยากรู้มากๆ ว่า เมื่อ Trump โดนข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้ว บรรดาผู้รักประชาธิปไตยไทย บรรดา “มือปืน” นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญไทยที่ยังชอบพูดว่า อดีตนายกรัฐมนตรีต้องถูกโค่นล้มจากตำแหน่งเพราะทำรายการกับข้าว จะว่าอย่างไร? เห็นพวกนี้ชอบพูดให้ตัวเองดูฉลาด เพราะคนฟังคล้อยตามไปด้วย แต่เขาพูดไม่หมดว่า ที่อดีตนายกฯ ต้องหลุดพ้นจากเก้าอี้ ไม่ใช่เพราะทำรายการอาหารนะครับ แต่เพราะไม่แสดงรายได้ที่ทำมาจากรายการอาหารต่างหาก

กลับไปที่เรื่องของ Trump กัน จากเนื้อข่าวจะได้ยินคำเหล่านี้บ่อย นั่นคือคำว่า Indictment, Arraignment กับคำว่า Grand Jury

Grand Jury ก็คือคณะลูกขุน แต่ Grand Jury จะต่างกับคณะลูกขุนโดยทั่วไปที่ว่า คณะลูกขุนทั่วไปมีอำนาจตัดสินในศาลว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์หรือผู้กระทำผิด ส่วน Grand Jury ทำหน้าที่อย่างเดียวคือ ตัดสินว่าหลังฟังหลักฐานทั้งหมด จะมีน้ำหนักพอ ให้อัยการฟ้องจำเลยอย่างเป็นทางการหรือไม่ และเช่นเดียวกับคณะลูกขุนโดยทั่วไป คณะ Grand Jury จะเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่ถูกเรียกให้ทำหน้าที่นี้ในศาล

Indictment คือข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ หลังคณะ Grand Jury เห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ หรือมีน้ำหนักเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อได้ ส่วนคำว่า Arraignment เป็นช่วงเวลาที่จำเลย (Trump) จะไปที่ศาลเพื่อฟังข้อกล่าวหาทั้งหมด และยอมรับหรือปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ

ในวันอังคารที่ผ่านมา Trump ได้ขึ้นศาล (Arraignment) เพื่อฟังข้อกล่าวหาทั้งหมด 34 ข้อ (Indictment) เกี่ยวข้องกับเรื่องการปิดบังความจริงต่อสาธารณชน เกิดจากการจ่ายเงินปิดปากผู้หญิงสองคนที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ย้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะเดี๋ยวเกิดความเข้าใจผิดเหมือนกรณีอดีตนายกฯ ไทย ที่ต้องตกม้าตายเพราะทำรายการโทรทัศน์ อดีตนายกฯ ไม่ได้ตกม้าตายเพราะทำรายการ แต่ตกม้าตายเพราะปิดบังทรัพย์สินและรายได้จากการทำรายการ

เหมือนกรณี Bill Clinton ที่เกือบต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่ใช่เพราะเขามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของเขา แต่เป็นเพราะเขาไปโกหกต่อหน้าศาล ว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นต่างหาก กรณีของ Trump จะเหมือนกัน ทุกข้อกล่าวหาในครั้งนี้ ไม่ได้เน้นว่าเขามีเพศสัมพันธ์กับใคร เมื่อไร อย่างไร หรือกี่ครั้ง หัวใจของเรื่องคือ การปิดบัง หลีกเลี่ยงแสดงบัญชีทรัพย์สิน การจ่ายเงินปิดปาก ที่เข้าข่ายการหลอกลวงสาธารณชน

อันนี้คือหัวใจของเรื่อง คือเจตนารมณ์ที่จะปิดบังความจริงต่อสาธารณชน เพราะอาจมีผลต่อคะแนนนิยมของตัวเอง ซึ่งถ้าเขา ไม่ได้เป็นนักการเมืองหรือลงเลือกตั้ง เขาจะไปจ่ายปิดปากกี่ราย วิธีใด อย่างไร ก็เป็นเรื่องของเขา และไม่มีใครสนใจ แต่พอเขาเลือกเดินเส้นทางสู่การเมือง และเป็นคนของประชาชน จะมีเจตนารมณ์ปิดบังอะไรก็ไม่ควรแล้ว

อันนี้ทั้งหมดเป็นที่มาที่ไปกรณีของ Trump แบบอธิบายง่ายๆ เพื่อให้พวกเราทั้งหมดมีความเข้าใจเท่าๆ กัน จะได้ติดตามข่าวคราวเรื่องนี้ต่อๆ ไปง่ายขึ้นครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

President Biden….You’re a Good Dad

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีสารพัดเรื่องที่น่าสนใจและน่าเขียนถึง เรื่องแรกต้องเป็นเรื่องประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ เพราะเป็นเรื่องไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น และถือว่าเป็นการประกาศฟ้าผ่าทีเดียว

คุยเรื่อง…ที่ไม่ใช่เรื่อง

เผลอแป๊บเดียว วันนี้เราเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ถือว่าเราเข้าฤดูกาลซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาสและปีใหม่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ตามห้างต่างๆ

'BRO!!!!!'

เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า

“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย

ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้