การเมืองกับ'ธรรมชาติแห่งชีวิต'

สัปดาห์ที่แล้ว...พรรคพวก-เพื่อนฝูง พี่ๆ-น้องๆ เขาอุตส่าห์แห่มาไถ่ถามสารทุกข์-สุกดิบ ของผู้ที่อยู่ในยาม ไม้ใกล้ฝั่ง อย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง อันก่อให้เกิดความปลาบปลื้ม ดื่มด่ำ มิใช่น้อย แม้บรรดาพี่ๆ-น้องๆ เพื่อนๆ-ฝูงๆ แต่ละคน แต่ละราย ต่างก็ออกอาการ แก่แล้ว-แก่แรด ไม่ต่างไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ หรือต่างก็ต้องเขยิบเข้าสู่ความเป็นไม้ใกล้ฝั่งไปตาม กฎอนิจจลักษณะ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ด้วยกันทั้งสิ้น...

แม้บางราย...ที่ยังไม่ถึงกับแก่ ยังคงแข็งแสนแข็ง แต่จะเหลือเรี่ยว-เหลือแรง มาก-น้อยเพียงใดก็มิอาจสรุปได้ บางรายยังคงผมดก ผมดำ ผมขึ้น ไม่ถึงกับหัวล้านกบาลใสอย่างตัวเราก็ตาม แต่จากการไถ่ถามสารทุกข์-สุกดิบ ก็ยังทำให้อดเป็นห่วง-เป็นใย ขึ้นมามิได้ อาทิ คุณพี่ สำราญ รอดเพชร เป็นต้น

ที่ยังไม่ถึงกับรู้หมู่-รู้จ่า ว่าเผลอๆ...อาจต้อง ติดคุกตอนแก่ หรือไม่? อย่างไร? ด้วยเหตุเพราะ “ภายใต้กระแสยุติธรรมา...ยากจะหาความสุขเกษมเปรมใจ” กันได้ง่ายๆ บรรดา คดีความ เรื่องการมง-การเมือง ตั้งแต่เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ยังคงตามหลอกหลอน อย่างมิอาจอยู่-เย็น-เป็น-สุข สงบนิ่ง สงบเย็น ได้มากมายซักเท่าไหร่...

หรือคุณน้อง สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ที่ถูกอ้างคำพูดจากเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต ว่าการตัดสินใจปิดคูหา-ไม่ปิดคูหาเลือกตั้ง “ต้องลองไปถาม...พี่สำราญ...ดูเอาเองก็แล้วกัน” แต่โดยคำให้การดังกล่าว ก็ใช่ว่าจะ เหลือรอด-ปลอดภัย ดี-ไม่ดีอาจต้องหอบขวด น้ำมันปลูกผม ไปทาในเรือนจำ ไม่ต่ำกว่า 8 เดือน หรืออาจเป็นปีๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น...ด้วยวัย ด้วยสังขาร ด้วยอายุ-อานามของแต่ละราย ที่ล้วนแล้วแต่แก่ๆ ไปด้วยกันทั้งสิ้น เลยทำให้แม้แต่ คนป่วย อย่างอันตัวข้าพเจ้าเอง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง เป็นใย ต่อชะตากรรมของผู้ที่อุตส่าห์แห่มาเยี่ยมเยียน แห่มาไถ่ถามสารทุกข์-สุกดิบ กันไปแทนที่...

แต่ก็นั่นแหละ...คงไม่ใช่แต่เฉพาะพี่ๆ-น้องๆ เพื่อนๆ-ฝูงๆ กลุ่มนี้ ฝ่ายนี้ ไม่ว่าใครก็เถอะที่เคยรู้จัก-มักจี่ เคยเป็นเพื่อน เป็นฝูงกันมาก่อน โดยความรู้สึกแล้ว...หลายต่อหลายรายก็เป็นอะไรที่น่าเป็นห่วง เป็นใย ไม่น้อยไปกว่ากัน ไม่ว่าเพื่อนที่เคยร่วม ท่องราตรี กันในวัยหนุ่ม อย่างคุณพี่ วิสา คัญทัพ ที่ต้องนิราศร้างห่างเหเสน่หาไปต่างบ้าน ต่างเมือง มีโอกาสได้เห็นหน้า-เห็นตาแค่ใน เฟซบุ๊ก เท่านั้น และโดยอากัปกิริยา รูปร่าง-หน้าตา ก็คงไม่ต่างไปจาก คนป่วย อย่างอันตัวข้าพเจ้าเองมากมายซักเท่าไหร่ หรือแม้แต่คุณน้อง สมศักดิ์ หัวโต หรือที่เรียกๆ กันว่า สมศักดิ์ เจียม ผู้ยังขยันโพสต์ ขยันแชร์ อยู่ที่ฝรั่งเศส แม้อาจถือเป็น บุคคลอันตราย สำหรับใครก็ตาม แต่เมื่อนึกถึงความเป็นเพื่อน-เป็นน้องเมื่อครั้งอดีต ดูๆ ไม่น่าจะถึงกับอันตรายมากมายจนเกินไป คือแม้ ดื้อ-แสนดื้อ เพียงใดก็ตาม แต่ก็ยังเคยบังคับ ขู่เข็ญ ให้ต้อง กินเบียร์ จนได้...

ยิ่งเพื่อนที่เพิ่งลา-ละ-สละจากโลกใบนี้ไปหมาดๆ อย่างคุณพี่ วัฒน์ วรรลยางกูร แม้ไม่เคยเจอะหน้า เจอะตา นับเป็นสิบๆ ปี แต่เมื่อได้อ่านบันทึก ข้อเขียน ในหนังสือเล่มโตๆ ที่น้องรายหนึ่งท่านอุตส่าห์หาซื้อเอามาให้อ่าน ก็อดที่จะสะทกสะท้อนใจขึ้นมามิได้ ยิ่งได้เห็นถ้อยคำที่ ลูกสาว บรรยายถึงอารมณ์-ความรู้สึกต่อผู้ที่เป็นพ่อ ยิ่งแทบน้ำตาซึม น้ำตาไหล เอาดื้อๆ แต่ด้วยเหตุเพราะเรื่อง การเมือง อีกนั่นแหละ ที่ทำให้บรรดาเพื่อนฝูง มิตรสหายทั้งหลาย ไม่ว่าที่มีโอกาสเจอตัว-ไม่เจอตัว ต่างมิอาจอยู่-เย็น-เป็น-สุข กันไปเป็นรายๆ ไม่ว่าจะอยู่กลุ่มไหน ฝ่ายไหน เนื่องมาจาก “ภายใต้กระแสยุติธรรมา...ยากจะหาความสุขเกษมเปรมใจ” นั่นแล...

ดังนั้น...ไม่ว่าสิ่งที่เรียกว่า การเมือง ในอนาคตอันใกล้ มันจะไหลไปทางทิศไหนต่อทิศไหน ใครจะพาพ่อกลับบ้าน-ไม่กลับบ้าน หรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่สิ่งที่ยังพอหลงเหลืออยู่ในความสนอก-สนใจ ของผู้ที่ทำท่าว่าจะไปแหล่มิไปแหล่ อย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง ก็คือ...เมื่อไหร่ถึงจะได้เวลา นิรโทษกรรม กันซะที!!! ไม่ใช่เรื่องใครแพ้-ใครชนะเอาเลยแม้แต่นิด แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ขึ้นชื่อว่า การเมือง ซะอย่างแล้ว มันคงไม่ได้วัดตัดสินกันด้วย ความถูก-ความผิด ล้วนๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่มักวัดตัดสินกันด้วย ใครแพ้-ใครชนะ นั่นแหละเป็นสำคัญ เหลือแต่สิ่งที่อยู่ เหนือไปกว่าการเมือง หรือสิ่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง พัวพัน อยู่กับชัยชนะ-ความพ่ายแพ้ ของฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดเท่านั้น ที่อาจพอเป็นที่พึ่ง ที่หวัง ได้บ้าง ในอันที่จะช่วยให้ความเป็นพี่ เป็นน้อง ความเป็นพรรคพวก เพื่อนฝูง มิตรสหาย ไปจนความเป็นเพื่อนผู้ร่วมวัฏสงสารอันเดียวกัน มีโอกาสหวนกลับคืนสู่ความเป็นปกติ กลับสู่ ธรรมชาติแห่งชีวิต ที่ล้วนแล้วแต่มีความสงบนิ่ง สงบเย็น เป็น เป้าหมายสูงสุด ไปด้วยกันทั้งนั้น...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฤๅประเทศไทยจะไร้ทางเลือก

เวรกรรมอะไรของประเทศไทย นักการเมืองไดโนเสาร์บางคนยังคงทำงานการเมืองแบบน้ำเน่า แย่งกันเป็นรัฐมนตรีโดยไม่สนใจความรู้ความสามารถของตน

โลกกับบ้านเรา...ใคร 'เละ' กว่าใคร???

มันก็น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่ตามสมควรเหมือนกัน...ที่เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เกิดมีผู้นำประเทศมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้หญิง

สัญญาใจเก้าอี้ ผบ.ทร.

มีข้อสงสัย มีข้อถกเถียง ว่าเก้าอี้ "ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ" หรือ "ประธาน ก.ตร." นั้น นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

อ่านอาเพศปชป.กับแนวโน้มอายุรัฐบาล

หลังจากได้รับเทียบเชิญจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็มีมติเข้าร่วมรัฐบาลไปเมื่อ 29 สิงหาคม 2567 ในแบบ ไม่มีมิตรแท้ หรือ ศัตรูถาวรทางการเมือง 

สับสนอลหม่าน แพทองธาร...พาลแพแตก

เราเคยทำนายไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐาพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และได้แพทองธารมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

โลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังถูกกลืนกิน

ด้วยความก้าวหน้า-ก้าวไกลของเทคโนโลยีข้อมูล-ข่าวสาร ที่เตลิดเปิดเปิงไปถึงระดับ 5G-6G และไม่รู้จะอีกกี่ G ภายในอนาคตอันใกล้ แถมยังมีตัวเร่ง ตัวกระตุ้น