'เลือกพรรค-เลือกรัฐบาล'

เบอร์ ๕ พรรคพลังสังคมใหม่, เบอร์ ๖  พรรคครูไทยเพื่อประชาชน

เบอร์ ๗ พรรคภูมิใจไทย, เบอร์ ๘ พรรคแรงงานสร้างชาติ, เบอร์ ๙  พรรคพลัง, เบอร์ ๑๐ พรรคอนาคตไทย

เบอร์ ๑๑ พรรคประชาชาติ, เบอร์ ๑๒  พรรคไทยรวมไทย

เบอร์ ๑๓ พรรคไทยชนะ, เบอร์ ๑๔  พรรคชาติพัฒนากล้า, เบอร์ ๑๕ พรรคกรีน, เบอร์ ๑๖ พรรคพลังสยาม

เบอร์ ๑๗ พรรคเสมอภาค, เบอร์ ๑๘  พรรคชาติไทยพัฒนา, เบอร์ ๑๙ พรรคภาคีเครือข่ายไทย, เบอร์ ๒๐ พรรคเปลี่ยน, เบอร์ ๒๑  พรรคไทยภักดี

เบอร์ ๒๒ พรรครวมไทยสร้างชาติ, เบอร์ ๒๓ พรรครวมใจไทย, เบอร์ ๒๔  พรรคเพื่อชาติ, เบอร์ ๒๕ พรรคเสรีรวมไทย

เบอร์ ๒๖ พรรคประชาธิปัตย์, เบอร์ ๒๗   พรรคพลังธรรมใหม่, เบอร์ ๒๘ พรรคไทยพร้อม, เบอร์ ๒๙ พรรคเพื่อไทย

เบอร์ ๓๐ พรรคทางเลือกใหม่, เบอร์ ๓๑ พรรคก้าวไกล

เบอร์ ๓๒ พรรคไทยสร้างไทย, เบอร์ ๓๓ พรรคไทยเป็นหนึ่ง, เบอร์ ๓๔ พรรคแผ่นดินธรรม, เบอร์ ๓๕ พรรครวมพลัง

เบอร์ ๓๖ พรรคเพื่อชาติไทย, เบอร์ ๓๗  พรรคพลังประชารัฐ, เบอร์ ๓๘ พรรคเพื่อไทรวมพลัง, เบอร์ ๓๙  พรรคมิติใหม่

เบอร์ ๔๐ พรรคประชาภิวัฒน์, เบอร์ ๔๑  พรรคไทยธรรม

เบอร์ ๔๒ พรรคไทยศรีวิไลย์, เบอร์ ๔๓   พรรคพลังสหกรณ์, เบอร์ ๔๔ พรรคราษฎร์วิถี, เบอร์ ๔๕ พรรคแนวทางใหม่

เบอร์ ๔๖ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล, เบอร์ ๔๗ พรรครวมแผ่นดิน, เบอร์ ๔๘ พรรคเพื่ออนาคตไทย, เบอร์ ๔๙  พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย

มากจนลานตา งั้นเอางี้ ผมจะคัดเฉพาะพรรคที่อยู่ในกระแส ๑-๑๐ มีประมาณนี้

-พรรคพลังประชารัฐ ของพลเอกประวิตร เบอร์ ๓๗

-พรรคเพื่อไทย ของ นพ.ชลน่าน เบอร์ ๒๙

-พรรคภูมิใจไทย ของคุณอนุทิน เบอร์ ๗

-พรรคก้าวไกล ของนายพิธา เบอร์ ๓๑

-พรรคประชาธิปัตย์ ของคุณจุรินทร์ เบอร์ ๒๖

-พรรคชาติไทยพัฒนา ของคุณวราวุธ เบอร์ ๑๘

-พรรคชาติพัฒนากล้า ของคุณกรณ์ เบอร์ ๑๔

-พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เบอร์ ๓๒

-พรรคเสรีรวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรี เบอร์ ๒๕

และ..........

-พรรครวมไทยสร้างชาติ ของพีระพันธุ์ เบอร์ ๒๒

ในจำนวน ๑๐ พรรค ๑๐ เบอร์นี้ มองปร๊าด เบอร์ไหนสะดุดตา ที่จำง่ายที่สุด?

สำหรับผม คือ.....

เบอร์ ๒๒ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พลเอกประยุทธ์ เป็น "ว่าที่นายกฯ" ในบัญชีรายชื่อพรรค

เพราะ ๒๒ เลขคู่ แค่ชู ๒ นิ้ว ก็รู้แล้ว

นอกจาก รู้จัก-จำง่าย การชู ๒ นิ้ว สัญลักษณ์ V หมายถึง Victory คือ ชัยชนะ

กับ เบอร์ ๗ พรรคภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นว่าที่นายกฯ ในบัญชีรายชื่อพรรค

เพราะในจำนวน "ท็อป-เทน" มีภูมิใจไทย "พรรคเดียว" ที่ได้เลขตัวเดียว คือ เบอร์ ๗

เบอร์ ๗ เป็นเบอร์ที่ตำตาคนทั่วทุกหัวระแหง เพราะไปไหนๆ ก็เห็นแต่ 7-ELEVEN เป็นเบอร์จำง่ายอีกเบอร์หนึ่ง

ส่วนเบอร์ของพรรคอื่นๆ "ต้องรัก-ต้องชอบ" และต้อง "ท่องจำ" ให้ขึ้นใจกันจริงๆ ถึงจะจำได้!

ก็มีแฟนคลับส่งข้อความเข้ามาที่เว็บ "เปลว สีเงิน" บอกว่า

"คุณลุงเปลวคะ

ช่วยอธิบายแบบชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ว่าบัตร ๒ ใบ เลือกอย่างไร

บัตรใบที่ ๑ อย่างไร

บัตรใบที่สอง อย่างไร

รบกวนคุณลุงโพสต์อธิบายด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ"

ขออธิบายพอเข้าใจตรงนี้เลยละกัน

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจให้ชัด

เลือกตั้ง ๑๔ พฤษภา.นี้ มีบัตร ๒ ใบ

ใบหนึ่งเลือก ส.ส.เขต มี ๔๐๐ เขต ๔๐๐ ส.ส.ทั้งประเทศ

แต่ละเขต เบอร์จะไม่เหมือนกัน

ขึ้นอยู่กับว่า ตอนไปสมัคร ผู้สมัครเขตไหน ของจังหวัดไหน เขาจับได้เบอร์อะไร

ฉะนั้น รักใคร-ชอบใคร ต้องจำเบอร์ผู้ที่เราอยากเลือกให้แม่น

ตอนเลือกตั้ง ก่อนเข้าคูหา เขาจะให้บัตร ๒ ใบ เพื่อนำเข้าไปกาเครื่องหมาย X ในคูหา

ใบหนึ่ง ใช้เลือก ส.ส.ระบบเขต เป็นบัตรสีอะไร กกต.ยังอุบเป็นความลับ

ในบัตรใบนั้น จะมีเบอร์ของผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคของเขตนั้น

เราอยากเลือกผู้สมัครคนไหนเป็น ส.ส.

ก็ "กากบาท" คือ เครื่องหมาย X อย่างเดียว ลงตามช่องในบัตรเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต

บัตรเลือก ส.ส.เขตนั้น มีเพียงหมายเลขผู้สมัครกับช่องให้กากบาทเท่านั้น ไม่มีเครื่องหมายพรรค
ฉะนั้น ขอย้ำ ต้องจำเบอร์ผู้สมัครที่เราจะเลือกให้ดี

ทีนี้ มาถึงวิธีเลือก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่เรียกกันว่า "ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์" กันบ้าง ซึ่งมี ๑๐๐ คน

ตรงนี้แหละที่ยังสับสนกันอยู่มาก!

เขาให้บัตร ๒ ใบใช่มั้ย และกากบาทเลือก ส.ส.เขตไปแล้ว เข้าใจนะ

ก็ยังเหลือบัตรอีก ๑ ใบ

ใบนี้แหละคือ "บัตรเลือกพรรค" หรือเลือกส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่า

บัตรเลือกพรรคนี่แหละ มีค่าเท่ากับบัตร "เลือกนายกฯ"!

และต้องทำความเข้าใจไว้ด้วย

บัตรใบที่ ๒ คือบัตรเลือกพรรค คือ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หรือเลือกตัวนายกฯ นี้ จะเป็น "เบอร์เดียว" กันทั้งประเทศ

ฉะนั้น ในบัตร........

จะมีชื่อพรรค เครื่องหมายพรรค และเบอร์พรรคในบัตร

ต้องการเลือกพรรคไหน ก็ X ลงในช่องหมายเลขของพรรคนั้นที่มีอยู่ในบัตร

ข้อควรจำ ห้ามถ่ายรูป เมื่อกากบาทแล้ว ห้ามขูดขีดหรือทำเครื่องหมายอื่นใดทั้งสิ้นลงในบัตรนั้นอีก และห้ามฉีก

จากนั้น นำมาหย่อนลงหีบข้างนอก

เป็นอันจบขั้นตอน "ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"!     

ทีนี้ มาทำความเข้าใจเรื่อง "บัตรเลือกพรรค" หรือเลือก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในเชิงขยายความกันนิด

ในจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ ๑๐๐ คน พรรคไหน จะได้ปาร์ตี้ลิสต์เท่าไหร่ ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งเขาว่างี้

เอาเฉพาะจำนวนบัตร "เลือกพรรค" ของแต่ละพรรคทั้งประเทศมานับรวมกัน ว่ามีเป็นจำนวนเท่าใด?

จากนั้น เอา ๑๐๐ หาร จำนวนรวมผู้เลือกพรรค

ผลลัพธ์ที่ออกมา คือ จำนวน "คะแนนเฉลี่ย" ต่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑ คน

สมมุติ จากคะแนนจาก "บัตรเลือกพรรค" ของทุกพรรครวมกันเมื่อเลือกตั้ง ปี ๒๕๖๒ มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ ๓๕ ล้านคน

ก็ ๓๕,๐๐๐,๐๐๐ หารด้วย ๑๐๐ = ๓๕๐,๐๐๐

นั่นคือ ๓๕๐,๐๐๐ เสียง เอาไปแลกเป็น "ปาร์ตี้ลิสต์" ได้ ๑ คน

ทีนี้ ก็ดูซี แต่ละพรรคมี "คะแนนพรรค" กันพรรคละเท่าไหร่ และจะได้ปาร์ตี้ลิสต์กันพรรคละกี่คน ก็เอา ๓๕๐,๐๐๐ ไปหารดู

สมมุติ เลือกตั้ง ๑๔ พฤษภา.

คน X พรรครวมไทยสร้างชาติ คือต้องการเลือก "พลเอกประยุทธ์" เป็นนายกฯ ๘ ล้านเสียง

ตามสูตรนั้น ก็จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ราวๆ ๒๒ คน!

ทั้งนี้ คะแนนจากบัตรเลือก ส.ส.เขต "ไม่เอามารวม" ด้วย การเลือก ส.ส.ระบบเขตนั้น ใครชนะก็ได้ไปเลย

ไม่มีการเอา "คะแนนตกน้ำ" ของคนแพ้ มารวมกับคะแนนจากบัตรเลือกพรรค คือไม่เกี่ยวกัน

คงพอเข้าใจและเลือกกันถูกแล้วนะ

ถ้าอยากให้พรรคไหนเป็นรัฐบาล ก็เลือกทั้ง ส.ส.เขตและเลือกพรรคนั้น คือ X เลือกพรรค, เลือก ส.ส.เขตของพรรคนั้นทั้ง ๒ ใบเลย

เข้าใจ๋...

เมื่อเข้าใจก็ Y2K นะ!