
ประเทศไทย ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศก็เริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)” ได้ตั้งเป้าหมายยอดการผลิตรถยนต์ในปี 2566 อยู่ที่ 1.95 ล้านคัน และรถจักรยานยนต์ที่ 2.1 ล้านคัน โดยปัจจัยสนับสนุนในส่วนของการผลิตเพื่อการส่งออก มาจากการที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะ ซึ่งขนส่งสินค้าและคนเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ จึงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะเดียวกันการเปิดประเทศของจีน ที่อาจส่งผลให้การค้าโลกและการท่องเที่ยวเติบโตเป็นผลดีต่อการส่งออกของหลายประเทศ ซึ่งก็รวมถึงไทยด้วย
นอกจากนี้ การขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมาก ส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น อาจมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในปลายปีนี้ได้
ส่วนปัจจัยที่จะสนับสนุนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ อาทิ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การมีเงินลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาทจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งรัฐบาลยังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมถึงหลายหน่วยงานประเมินว่าเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะโตได้มากกว่า 3% เป็นต้น จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ แต่ก็ยังมีปัจจัยลบต่างๆ ที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ช่องแคบไต้หวันและอื่นๆ ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวลงซึ่งมีผลต่อการส่งออกรถยนต์ เป็นต้น
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ว่าการส่งออกรถยนต์ของไทยในปี 2566 มีโอกาสทำได้เหนือระดับ 1 ล้านคันอีกครั้ง ไปอยู่ที่ราว 1.01 ล้านคัน หรือขยายตัวเล็กน้อยที่ 1% นำโดยเอเชียและตะวันออกกลางที่เป็นตลาดส่วนใหญ่ซึ่งยังคงขยายตัวได้ ขณะที่โอเชียเนีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ เริ่มหันไปนำเข้า BEV มากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่โอกาสส่งออกรถใช้น้ำมันของไทยอาจลดน้อยลง ไม่นับรวมปัญหาเศรษฐกิจคู่ค้าที่ยังเสี่ยงสูง
ขณะเดียวกัน คาดว่าสัดส่วนรถยนต์ BEV ที่ส่งออกจากไทยไปต่างประเทศในปีนี้ก็จะยังคงอยู่ในระดับที่น้อยมาก ไม่เกิน 0.04% ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของไทย จากในปี 2565 คาดว่าจะมีสัดส่วนเพียงไม่เกิน 0.007% โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐและยุโรปไม่ลุกลาม และเหตุการณ์ในยูเครนไม่ยกระดับรุนแรง ซึ่งในทางตรงข้ามหากเกิดกรณีเลวร้ายที่สถานการณ์ต่างๆ บานปลายก็มีโอกาสที่การส่งออกรถยนต์ของไทยอาจทรุดต่ำลงกว่าที่คาดได้ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของวิกฤต
อย่างไรก็ดี การส่งออกรถยนต์ของไทยยังมีตลาดส่วนใหญ่ที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ที่คาดว่าน่าจะช่วยดึงให้การส่งออกรถยนต์โดยรวมของไทยไม่ปรับลดลงมาก เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีการปรับมาใช้รถยนต์ BEV ไม่มาก เพราะความพร้อมของตลาดน้อยกว่ากลุ่มแรก ขณะเดียวกันประเทศกลุ่มนี้ส่วนใหญ่พบว่าอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังทยอยฟื้นตัว ยกเว้นในบางตลาด เช่น เวียดนาม ที่อาจยังมีความไม่แน่นอนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และจากผลกระทบของคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ชะลอลงจากตลาดยุโรปและสหรัฐ โดยเฉพาะในหมวดสิ่งทอและอิเล็กทรอนิกส์
และด้วยตลาดที่ไทยส่งออกรถยนต์ไปได้ดีนั้น มีส่วนแบ่งมากกว่าตลาดที่เผชิญกับความท้าทายสูง ประกอบกับการได้รับแรงหนุนจากปัญหาการขาดแคลนชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้การผลิตเพื่อส่งออกทำได้ราบรื่นกว่าปีที่ผ่านมามาก และยังมีราคาน้ำมันในปี 2566 ที่ปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องอุปสงค์ที่อาจจะชะลอตัว ทำให้ความต้องการรถยนต์น้ำมันยังไปต่อได้ในตลาดส่วนใหญ่
อย่างไรก็ดี ตลาดรถยนต์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของรถยนต์ BEV มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้การดึงดูดค่ายรถสัญชาติต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์ BEV ในไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ BEV ในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญ และจะเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อการส่งออกของไทยในอนาคต แต่สุดท้ายแล้วปริมาณการส่งออกที่จะเกิดขึ้นจริงคงต้องขึ้นอยู่กับการวางแผนกำลังผลิตและกลยุทธ์ของค่ายรถแต่ละค่ายด้วย.
ครองขวัญ รอดหมวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม
เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)
แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส
‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

