๑ วันกับอำนาจในมือ

ก็ชัดเจนดี

"ปิยบุตร แสงกนกกุล" บอกว่า หากรัฐบาลหน้ามีชื่อ  "ประยุทธ์-ประวิตร" พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้าน

ไม่มีปัญหา

"...ถ้ารัฐบาลหน้ามีชื่อประยุทธ์-ประวิตร เมื่อไหร่ ผมเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลเขาก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านได้ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ถ้าพี่น้องอยากเปลี่ยนแปลง ก็กาทั้งสองใบให้ก้าวไกลเข้าไปเป็นรัฐบาลให้ได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้สำเร็จครับ..."

นับเป็นความกล้าหาญทางการเมือง

เพียงแต่ ปรึกษากับ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" และทีมงานของเขาหรือยังว่า เอาด้วยหรือเปล่า

ถ้าเอาด้วย ก็เปลี่ยนแคมเปญหาเสียงได้เลยครับ

เลือกพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน

เพื่อเข้าไปตรวจสอบรัฐบาล

ช่วงนี้อย่าให้โพลหลอกเด็ดขาด

อย่าไปเชื่อเป็นตุเป็นตะว่า เพื่อไทย มาที่ ๑ ก้าวไกล มาที่ ๒ แล้ว ๒ พรรคตั้งรัฐบาลด้วยกัน มันจะเสียความรู้สึกเปล่าๆ              

จำให้ขึ้นใจ

สูตรตั้งรัฐบาล อย่าลืม "วุฒิสภา" เด็ดขาด!           

รู้ใช่มั้ยว่า ส.ว.มีไว้ทำไม

เพื่อไทยอยากเป็นรัฐบาล อย่างไรเสียก็ต้องพึ่ง ส.ว.

วิเคราะห์แบบหยาบๆ หาก "ลุงตู่-ลุงป้อม" แตก ส.ว.ถูกแบ่งครึ่งแน่นอน

นั่นหมายความว่า "ลุงป้อม" ต้องเป็นรัฐบาล

เมื่อปรากฏชื่อ "ลุงป้อม" เป็นรัฐบาล ก้าวไกลไม่คืนคำ ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน

อีกสูตร "๒ ลุง" ไม่แตก รวมเสียงรัฐบาลเดิมตั้งรัฐบาลได้

มีทั้งชื่อ "ลุงตู่-ลุงป้อม"

ก้าวไกลก็เป็นฝ่ายค้าน

สูตรเดียวที่ทำให้ ก้าวไกล ได้เข้าทำเนียบรัฐบาลคือ  เพื่อไทย บวก ก้าวไกล แล้วได้ที่นั่ง ส.ส.เกิน ๓๗๖ เสียง

แต่สูตรเดียวที่มีอยู่นี้ ก็ไม่ง่าย

ต้องไปถาม "ทักษิณ" ก่อนว่าจะให้ก้าวไกลร่วมรัฐบาลหรือเปล่า

ระหว่าง พลังประชารัฐ กับ ก้าวไกล "ทักษิณ" จะเลือกใคร

การหาเสียงชูประเด็นเปลี่ยนแปลงประเทศ ของก้าวไกล ก็ยังมีคำถามตัวโตๆ อยู่ครับว่า จะเปลี่ยนอะไร อย่างไร

ขอบเขตของคำว่า เปลี่ยนประเทศ คืออะไร

เปลี่ยนระบอบการปกครองด้วยหรือเปล่า

เปลี่ยนเศรษฐกิจ สังคม การเมือง จะเปลี่ยนแบบไหน

ปฏิรูป หรือ ปฏิวัติ

การนำประเด็นนี้มาหาเสียงจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการเปลี่ยนที่ต่ำกว่า ปฏิรูป หรือ ปฏิวัติ ไม่อาจเรียกว่าเปลี่ยนแปลงประเทศได้

แต่ก็มีสิ่งหนึ่งแม้จะยังเปลี่ยนไม่ได้ แต่มีการพูดถึงมากขึ้นในสังคมโซเชียลของมวลชนพรรคก้าวไกล

มีตัวอย่างมาให้อ่านครับ 

"...กู มึง เอ็ง ข้า คุณ ท่าน ฉัน เธอ ดิฉัน ผม กระผม  มัน เขา เรา แก ตัวเอง ไอ้ อี นาง นาย นังนั่น นังนี่ พี่ ป้า น้า  อา ลุง ย่า ตา ยาย น้อง หนู ลูก ข้าพเจ้า เจ้า กระหม่อม  หม่อมฉัน ฯลฯ

ภาษาไทยมีลำดับขั้น มีชนชั้นทางสังคม สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมไม่ต่างกัน และยังสร้างปัญหา ทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจกันอีกด้วย

หากเผลอไปนับญาติเรียกพี่ ป้า น้า อา กับคนที่เพิ่งรู้จัก อาจถูกตำหนิว่าไม่ดูตาม้าตาเรือ หรือปีนเกลียวก็เป็นได้

ต่างจากภาษาอังกฤษที่มีแค่ I, you, he, she, it, we,  they, everyone, someone เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นสามัญชนคนธรรมดา เป็นกษัตริย์ เป็นเจ้า เทพเจ้า ซาตาน บ่าว ไพร่  ขอทาน ยาจก ก็แทนตัวเองว่า l กับ you

เป็นภาษาที่แสดงออกถึงความเท่าเทียมกันของคนในสังคม ไม่ว่าจะมาจากชนชั้นใด แม้มาจากสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าดาวดึงส์ ก็คุยกันด้วยสรรพนาม เธอกับฉัน l กับ you

นอกจากการเรียกสรรพนามคำนำหน้าในภาษาไทย จะสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม สร้างปัญหากวนใจให้กับหลายๆ คนแล้ว การพูดคุยโดยไม่มีคำลงท้าย ค่ะ  ครับ จ้ะ จ๊ะ นะคะ นะครับ อาจถูกมองว่ากระด้างกระเดื่อง  ไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงได้อีกด้วย เฮ้อ เยอะว่ะ..."                                       

คุ้นๆ ใช่มั้ยครับ

"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เคยขายไอเดียนี้มาก่อน

I กับ U เพื่อความเท่าเทียม

มันก็ไม่แน่ อนาคตอันยาวไกล หากพรรคก้าวไกล เป็นรัฐบาล อาจจะมีกฎหมาย ห้ามเรียก ลุง ป้า น้า อา 

ใครพูดถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นการสร้างความไม่เท่าเทียม

ต้อง I กับ U เท่านั้น

นี่แค่ตัวอย่างเล็กๆ สะท้อนถึงวิธีคิดของผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่ยังรับอิทธิพลมาจาก "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"

มีประเด็นเถียงกันคอเป็นเอ็นว่า เจ้าของพรรคก้าวไกลรวยเป็นหมื่นล้าน ทำไมผู้สมัคร ส.ส.กลับขอรับบริจาคเงินจากประชาชนเพื่อใช้ในการหาเสียง

อย่าประมาทกับวิธีการของพรรคก้าวไกลเด็ดขาด

ไม่ใช่เพราะพรรคไม่มีเงิน

มีครับ

แต่นี่เป็นวิธีเช็กคะแนนเสียง

การรู้ระดับคะแนนนิยมในตัวเองแต่เนิ่นๆ ส่งผลในวันเลือกตั้ง เพราะผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล มีเวลาแก้ไขสถานการณ์

คู่แข่งที่เอาแต่เย้ยหยัน ระวังตัวไว้ 

จะร่วงแบบไม่รู้ตัว

ครับ...ชวนคุยเรื่อยเปื่อย รอเวลา กกต.เคาะวันเลือกตั้ง

สรุปว่า เข้าคูหาวันที่ ๑๔ พฤษภาคม

เลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ ๗ พฤษภาคม

๑ วันที่อำนาจอยู่ในมือประชาชน

ใช้ให้คุ้มค่าครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าปล่อยให้เหลิง

นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ

เจอตอ ชั้น ๑๔

งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์

'ทักษิณ' ตายเพราะปาก

แนวโน้มเริ่มมา... ปลาหมอกำลังจะตายเพราะปาก เรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปปราศรัยใหญ่โต เวทีเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด ทำท่าจะเป็นเรื่องแล้วครับ

พ่อลูกพาลงเหว

มันชักจะยังไง.... พ่อลูกคู่นี้จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว ก่อนนี้ "ทักษิณ" ริ "ยิ่งลักษณ์" ยำ

นี่แหละตัวอันตราย

การเมืองปีงูเล็กจะลอกคราบ เริ่มต้นใหม่ ไฉไล กว่าเดิม หรือจะดุเดือดเลือดพล่าน ไล่กะซวก เลือดสาดกันไปข้าง