บันทึกบรรทัดแรก จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร การเมืองเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง “อย่างเป็นทางการ”
ส่วนสภาถือว่าว่างเปล่า “ชวน หลีกภัย” พ้นจากตำแหน่งประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เหลือ “พรเพชร วิชิตชลชัย” เป็นเบอร์หนึ่งในนิติบัญญัติ
ด้วยเหตุนี้ “ทีมของลุงชวน” ก็ต้องไปด้วย หนึ่งในนั้น คือ สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล พ้นตำแหน่งข้าราชการการเมือง เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชวน หลีกภัย)
แม้สถานะวันนี้ สมบูรณ์ จะเป็น ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่คนละพรรคกับนายหัวชวนแล้ว แต่ยังคงเคารพรักเหมือนเดิม
เจ้าตัวเผยความในใจว่า “ถึงแม้ผมจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ ผมก็ยังรักเคารพต่อท่านชวน หลีกภัย คนนี้เสมอ ปกป้องท่านเสมอหากมีใครมาใส่ร้ายท่าน เพราะท่านเป็นคนดีที่ดีจริงๆ เป็นผู้ให้กำเนิดทางการเมืองกับลูกชาวบ้านแบบผม และจะขอเคารพรักท่านตลอดไป และขอขอบพระคุณท่านที่ได้ให้ผมได้เรียนรู้สิ่งดีๆ จากท่านทุกเรื่องราว”
ทั้งยังเล่าจากปากเองถึงเรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวด ว่า “วันนี้ผมต้องย้ายพรรคจากพรรคประชาธิปัตย์มาสู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยเหตุผลประการเดียวเท่านั้น คือ ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาให้เป็นผู้สมัครของกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการชี้นำให้มีการจัดทำโพล ทั้งที่ท่านชวน หลีกภัย ได้แจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบแล้วว่า ผมจะต้องได้เป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดตรัง เขต 4 ด้วยเหตุผลเพราะเป็น ส.ส.มา 4 สมัย เป็นเขตเดิมของผม และผมไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง และได้คะแนนสูงสุดในจังหวัดตรัง (ปี 2554 ได้ 74,387 คะแนน)
แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคจัดทำโพล ซึ่งสังคมเชื่อว่าเป็นโพลไม่สุจริต เป็นโพลที่จัดทำขึ้นเอง เพื่อหวังความยิ่งใหญ่ทางการเมืองเท่านั้น หลายคนบอกว่าเป็นเลขานุการท่านชวน แต่ทำไมถึงไม่ได้รับการพิจารณา ขอเรียน ณ ตรงนี้ว่าท่านชวนท่านได้พิจารณาแล้วก็ตัดสินว่า ผมควรจะได้ลงเป็นผู้สมัคร แต่เมื่อกรรมการบริหารทำเช่นนี้ ท่านก็เข้าใจผม ผมก็ไปกราบขออนุญาตเพื่อย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านบอกว่าสมบูรณ์ไม่ใช่คนทรยศต่อพรรคประชาธิปัตย์
สมบูรณ์ไม่ใช่คนที่ย้ายไปพรรคอื่นเพราะอามิสสินจ้าง แต่ผมต้องย้าย เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรรมการบริหารพรรค”
อืม..แม้จะอยู่กันคนละค่ายแล้ว แต่รู้สึกจะยังใจถึงใจ สู้ๆ ต้องสู้ถึงจะชนะ.
มินนี่เมาธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยึดคำสอนพี่ตุ๋ย
เข้ามาเสริมทัพแกร่งทีมโฆษกรัฐบาลแล้วร่วม 3 สัปดาห์ สำหรับ “ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์” หรือ “รองฯจิ๊บ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หญิงเดียวของทีมโฆษกรัฐบาล
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน