การจากไปของ “คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” ภรรยาของ “คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี” ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัททีซีซี และเครือไทยเบฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือธุรกิจชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ..แม้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวเรื่องเล่า มุมน่ารักของผู้วายชนม์แล้ว อดไม่ได้ที่จะสัมผัสถึงความโศกเศร้าอาดูรของครอบครัว "สิริวัฒนภักดี" ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหายและคนที่เคยได้ใกล้ชิดหรือทำงานกับท่านมาก่อน
คุณนวรัตน์ กิติยากร ณ อยุธยา เล่าว่า ภาพน่ารักของคุณเจริญและคุณหญิงวรรณาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนใกล้ชิด แม้ยามคุณหญิงป่วย คุณเจริญจะมานอนที่โรงพยาบาลทุกวันทุกคืน เรียกได้ว่าย้ายออฟฟิศไทยเบฟมาอยู่ที่โรงพยาบาล ณ ชั้น 20 ตึก สก. โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็ว่าได้ เวลาคุณหญิงต้องไปตรวจที่ห้องตรวจ คุณเจริญก็จะเดินตามรถเข็นไปด้วยและอยู่รอทั้งขาไปขากลับ จนกลับมาที่ห้อง
ช่วงที่ท่านดำรงชีวิตอยู่ ท่านเป็นสตรีที่น่ารักมาก แม้จะรวยล้นฟ้า แต่วาจาที่เผยออกมาจากปากจะเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ตุ้มหูมุกเล็กๆ และสร้อยคอมุกธรรมดาๆ เป็นเครื่องประดับที่คุณหญิงใส่ติดกาย แม้จะสามารถซื้อได้อีกหลายกะรัต ทุกครั้งที่เจอกัน ได้คุยกัน ทักทายกัน จะมีแต่สิ่งดีๆ เป็นสิ่งที่คุณหญิงและครอบครัวสิริวัฒนภักดีให้กับสังคมโดยตลอดเสมอต้นและเสมอปลาย ที่สำคัญคุณหญิงและคุณเจริญ รวมทั้งครอบครัวมีความจงรักภักดีกับราชวงศ์อย่างเหลือล้น
คุณหนุ่ม ..ฐาปน สิริวัฒนภักดี เคยพูดว่า ..ถ้าเรื่องเก่ง ผมยกเครดิตให้คุณแม่ครับ!!
จำได้ว่า วันนั้น.. บรรณาธิการสื่ออาวุโสคนหนึ่งกล่าวถามเพราะชื่นชมในความสามารถว่า ทำยังไงถึงได้เก่งกาจสามารถขนาดนี้ ด้วยวัยเพียงแค่นี้
คุณหนุ่มพูดไปหัวเราะไป ว่าคุณแม่อบรมดูแลตั้งแต่เด็กในเรื่องวินัยและการใช้เงิน ลูกทุกคนต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้คุณแม่ตรวจทุกวัน ขนม 5 บาท ไอศกรีม 2 บาท ก็ต้องจดและบันทึกไว้ และเมื่ออยากจะได้ของอะไรที่ต้องใช้เงินเก็บสะสม ก็ต้องนำเสนอเหตุผล อธิบายให้คุณแม่ยอมรับและอนุญาต
วิธีการสอนด้วยความรักและเหตุผลสั่งสมมาจนกลายเป็นนิสัย และก็ทำให้การบริหารจัดการธุรกิจเป็นเรื่องธรรมชาตินั่นเอง
กฎ กติกา มารยาทพึงปฏิบัติอีกหนึ่งประการ ที่เป็นมุมสร้างครอบครัวอบอุ่นและแข็งแรง นั่นคือ ลูกหลานทุกคนจะต้องไปกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ทุกวันอาทิตย์ และไม่เคยมีใครแหกกฎเลย
เพราะรักและเคารพยิ่งกับสุดยอดคุณแม่ท่านนี้.
'ป้าเอง'
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คอนเทนต์...คนวัยตกกระ
เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
เงิน..ก้อนสุดท้าย!!
สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย
คิดถึงพ่อ ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต
ทุกวันที่ 5 ธันวาคม นอกจากเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว พวกเราพสกนิกรชาวไทยระลึกอยู่เสมอว่าเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทำตัวเป็นแสงสว่าง
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบค่ะ ..จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านบ้าง.. มีตรอกอยู่ตรอกหนึ่ง ที่ทั้งมืดและทั้งแคบ คืนหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าว เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม