ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บินถึงมอสโกเมื่อวานนี้...เตรียมจะคุยกับ “สหายรัก” วลาดิเมียร์ ปูตินในภาวะโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด
ที่โลกสนใจการพบปะครั้งนี้เป็นพิเศษเพราะเกิดขึ้นขณะที่สงครามยูเครนเข้าสู่โหมดที่กำลังจะร้อนแรงอันเกิดจากการที่ทั้งรัสเซียและยูเครนเตรียมจะเปิดศึกใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง
ที่เรียกขานกันว่าเป็น Spring Offensive
เพราะฤดูหนาวกำลังจะสิ้นสุดลง และสงครามที่ลากยาวเกินหนึ่งปีมาแล้วนั้นอยู่ในสภาพชะชักงัน
ไม่มีฝ่ายไหนประกาศชัยชนะได้
แต่สารที่ผู้นำจีนนำมาให้ปูตินนั้นคือการเรียกร้องสันติภาพ ไม่ใช่การมาร่วมวางยุทธศาสตร์สงคราม
ซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ปูตินต้องการนักในจังหวะเวลานี้
เพราะถ้าปูตินเลือกได้ การพบปะกันครั้งนี้ควรจะเป็นการจับมือของมหามิตรเพื่อต่อต้านตะวันตกที่จะผนึกกำลังกันทั้งทางการเมือง, การทูตและการทหารเพื่อปิดเกมในยูเครน
แต่สี จิ้นผิง ได้ประกาศกับชาวโลกแล้วว่าเขากำลังจะมาหารือกับปูตินว่าหากจะเปิดการเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด
และหากเป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ สี จิ้นผิงก็คงจะต่อสายคุยกับเซเลนสกีหลังจากเจอปูตินและได้รับทราบ “เงื่อนไข” ของการที่จะเปิดช่องทางการหยุดยิงชั่วคราวเพื่อนำไปสู่การต่อรองเจรจาทางการทูต
สี จิ้นผิง ได้ปูทางกับยูเครนเอาไว้แล้ว ด้วยการให้รัฐมนตรีต่างประเทศจีนฉิน กังยกหูถึงรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนดมิโทร คูเลบาวันเดียวกับที่จีนออกข่าวเป็นทางการว่าสี จิ้นผิงจะเยือนมอสโก 20-22 มีนาคมนี้
เพื่อให้เกิดภาพของความเป็นผู้ยืนอยู่ตรงกลางของความขัดแย้งในยูเครน
แต่แน่นอนว่าหัวข้อของการพูดจาระหว่างปูตินกับอาคันตุกะคนสำคัญอย่างสี จิ้นผิง จะต้องมีประเด็นอื่น ๆ ที่สะท้อนถึงความเป็นปึกแผ่นระหว่างปักกิ่งกับมอสโก
จึงมีข่าวล่วงหน้าว่าแถลงการณ์ร่วมของผู้นำทั้งสองจะตอกย้ำถึงการบรรลุถึง “ศักราชใหม่” แห่งความสัมพันธ์ของสองประเทศ
เพื่อตอกย้ำถึง “ความสัมพันธ์ไร้ขีดจำกัด” ที่เคยปรากฏในแถลงการณ์ร่วมกว่า 5,000 คำของทั้งสองคนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว
ตอนนั้น ปูตินบินไปหาสี จิ้นผิง เพื่อร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพ
เป็นการพบปะกันสองสัปดาห์ก่อนที่ปูตินส่งทหารรัสเซียเข้าบุกยูเครน
การเยือนคราวนี้ต้องมีอะไรคืบหน้าจึงจะทำให้ทั้งสองฝ่ายดูดี
ทำเนียบเครมลินออกข่าวมาก่อนแล้วว่าผู้นำทั้งสองจะหารือเกี่ยวกับ "ความเป็นหุ้นส่วนที่ครอบคลุมและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์"
อาจจะฟังดูเป็นศัพท์แสงเก่า ๆ ที่ใช้กันค่อนข้างพร่ำเพรื่อ
แต่ในแวดวงการทูตมหาอำนาจนั้นคำว่า “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้าน” ได้กลายเป็นถ้อยแถลงที่ใช้ทั้งฝั่งตะวันตกและรัสเซีย
ภาษาชาวบ้านก็คือ “มีอะไรขอให้บอก!”
แต่น่าสนใจว่าจะมีการออกข่าวตอบโต้ตะวันตกเรื่องจีนกำลังพิจารณาส่งอาวุธให้รัสเซียเพื่อทำศึกในยูเครนหรือไม่
หรือจะออกมาด้วยภาษาสันติภาพเพื่อดึงความสนใจออกจากเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์และสงคราม
หัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศเพียงแค่หยอดว่าการเดินทางครั้งนี้จะเป็นการเดินทาง "เพื่อมิตรภาพและสันติภาพ"
โฆษกจีนย้ำว่า “บนพื้นฐานของการไม่มีพวกพ้อง ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการกำหนดเป้าหมายของบุคคลที่สาม จีนและรัสเซียได้ส่งเสริมประชาธิปไตยให้เพิ่มขึ้นในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
อีกทั้งยังเสริมว่าจีนจะรักษา “จุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม” ต่อสงครามในยูเครน และ “มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมการพูดคุยเพื่อสันติภาพ”
จึงน่าสนใจว่าในแถลงการณ์ร่วมที่จะออกตอนท้ายของการไปเยือนมอสโกนั้น สีกับปูตินจะใช้คำว่า “สันติภาพ” และ “สงคราม” สักกี่ประโยค
แม้ว่าตะวันตกจะบอกปัดข้อเสนอสันติภาพ 12 ข้อของจีนก่อนหน้านี้ แต่เซเลนสกีของยูเครนยังมีความหวัง
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเซเลนสกีบอกว่าเขาต้องการพบสี จิ้นผิงเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอสันติภาพของปักกิ่ง
และยังสำทับว่า “ผมอยากจะเชื่อจริงๆ ว่าจีนจะไม่ส่งอาวุธให้รัสเซีย”
แปลว่าผู้นำยูเครนต้องการจะบอกว่าเขาฟังทั้งฝั่งอเมริกาและจีนเรื่องนี้เพื่อชั่งน้ำหนักของจริง
เพราะก่อนหน้านี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตั้งข้อกล่าวหาว่าจีนกำลังพิจารณาส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ช่วยรัสเซียทำสงครามในยูเครน
จีนออกมาปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้ส่งอาวุธให้กับฝ่ายใดในสงครามยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนบอกว่าเซเลนสกีพร้อมจะพูดคุยกับสี จิ้นผิงทางโทรศัพท์
อเมริกาเองก็ไม่กล้าออกมาต่อต้านคัดค้านการสนทนาระหว่างผู้นำจีนกับยูเครน
โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ บอกว่าจะเป็น "เรื่องดีมากหากทั้งสองคนคุยกัน"
จอห์น เคอร์บีบอกว่าอเมริกาสนับสนุนให้มีการสื่อสารกันอยู่แล้ว
บทสนทนาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนกับรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนมีการเรียกร้องจากปักกิ่งให้เริ่มการเจรจาสันติภาพ "โดยเร็วที่สุด"
ฉิน กังบอกคูเลบาว่า ปักกิ่งหวังว่า "ทุกฝ่ายจะรักษาความสงบ ใช้ความอดกลั้น เริ่มการเจรจาสันติภาพโดยเร็วที่สุด และกลับสู่แนวทางยุติทางการเมือง"
คูเลบาแจ้งฝ่ายจีนว่ายูเครนต้องการตอกย้ำถึงความสำคัญของ” หลักการบูรณภาพแห่งดินแดน" และ "สูตรสันติภาพเพื่อยุติการรุกรานและฟื้นฟูสันติภาพในยูเครน" ซึ่งเซเลนสกีได้ยึดเป็นหลักการสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นมาตลอด
สี จิ้นผิงคงตระหนักว่าการจะน้าวโน้มให้ปูตินกับเซเลนสกีมานั่งคุยพร้อมกัน (เหมือนที่จีนวางตัวเป็นคนกลางให้อิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย) นั้นเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง
แต่หากผู้นำจีนสามารถปูทางให้เกิดบรรยากาศแห่งความพร้อมจะเจรจาแม้แต่น้อยนิดก็จะถือได้ว่าเป็น “การก้าวข้ามอุปสรรคอันสำคัญ” หรือ breakthrough ที่มีความหมายเลยทีเดียว
เหมือนที่นักการทูตบางคนในเอเชียวิเคราะห์ไว้
นั่นคือสำหรับสี จิ้นผิงแล้วแม้การพยายามจะเสนอตัวเป็นกาวใจระหว่างมอสโกกับเคียฟจะเป็นเรื่องท้าทายและสุ่มเสี่ยง
แต่สี จิ้นผิงคงประเมินแล้วว่า “จีนไม่เสียอะไรแม้จะไม่มีอะไรคืบหน้า มีแต่จะได้อย่างเดียว...หากแม้ทั้งสองฝ่ายยอมถอยก้าวเล็ก ๆ ก็ถือเป็นความสำเร็จได้”
เพราะจีนก็สามารถจะอ้างว่าตนคือผู้สร้างสันติภาพขณะที่สหรัฐฯยังก้มหน้าก้มตาจะทำสงครามต่อ!
ไม่ต้องสงสัยว่าใครจะดูดีกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ