'มาตรฐาน'ที่ควรยึดมั่น!!!

ถ้าหากยังไม่ได้ถึงขั้น พระอรหันต์ ...ไม่ว่าใครๆ ก็เถอะ!!! ย่อมมิอาจเพอร์เฟกต์สเปกชั่นนิสต์ หรือย่อมมิอาจ สมบูรณ์แบบ ไปด้วยกันทั้งสิ้น ย่อมหลุดบ้าง เลอะบ้าง เข้ารก-เข้าพง ออกอ่าว-ออกทะเล ไปตามมี-ตามเกิด หรือตาม ธรรมชาติ ที่ยังคงต้องมีการ ปรุงแต่ง อันก่อให้เกิดความชอบ-ความไม่ชอบ ความเกลียด-ความรัก ความเห็นควรด้วย-ไม่เห็นควรด้วย ฯลฯ จนสุดท้าย...อาจมีอันต้องด้วนไป-ด้วนมา กันไปตามสภาพ...

แต่ก็แปลก!!!...ที่ใครต่อใครออกจะกระเหี้ยนกระหือรือเสียเหลือเกิน ในการเปิดเผย ตัวตนของตน ให้เป็นที่รับรู้-รับทราบ กันในบรรดา โลกโซเชียลมีเดีย ทั้งหลาย คือจะไปไหน-มาไหน จะกินอะไร-ไม่กินอะไร ชอบอะไร-ไม่ชอบอะไร ฯลฯ

เป็นอันต้องนำมาเปิดเผย นำมาแพร่กระจาย นำมา เซลฟี ให้เห็นกันแบบจะจะคาตา ในประเภทเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ด้วยเหตุนี้...ความไม่เพอร์เฟกต์ หรือความเลอะๆ เทอะๆ ความดีมั่ง-ไม่ดีมั่ง ไปจนแม้แต่ความชั่วช้า ความไม่สมประกอบของตัวเอง มันเลยกลายเป็นที่รับรู้-รับทราบ ต่อผู้คนนับล้านๆ หรือต่อแทบจะทั่วทั้งโลก ไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่ถ้าอยู่เฉยๆ อะไรที่มันไม่เข้าท่า ไม่สมบูรณ์แบบในตัวของตัวเอง มันคงไม่ถูกนำไปโพนทะนา ให้กลายเป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นข่าวคราว ก่อให้เกิดความชอบ-ความชัง ความรัก-ความเกลียด ขึ้นมาโดยใช่เหตุ...

อย่างไรก็ตาม...เรื่องของ ความสมบูรณ์แบบ ความเพอร์เฟกต์สเปกชั่นนิสต์ ชนิดไม่มีอะไรหลุด อะไรเลอะ เอาเลยแม้แต่น้อย มันจะมีจริง-ไม่มีจริง เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ ความเชื่อ ของใคร-ของมันไปตามสภาพ แต่อย่างน้อยนักคิด นักปราชญ์ชาวกรีก เมื่อหลายต่อหลายพันปีที่แล้ว อย่างปรมาจารย์ เพลโต ท่านเคยตั้งข้อสมมุติฐาน ข้อสันนิษฐาน เอาไว้นั่นแหละว่า มันน่าจะมีความเป็นไปได้ น่าจะดำรง คงอยู่ แบบที่ถูกเรียกขานในนาม โลกแห่งแม่พิมพ์สมบูรณ์แบบ อันเป็นสิ่งที่แฝงฝังอยู่ภายใน จิตสำนึก-จิตไร้สำนึก ของมนุษย์มนาโดยทั่วไป ส่งผลให้เกิด มาตรฐาน ในแบบหนึ่ง-แบบใด ที่ถูกนำไปลอกแบบ เลียนแบบ จนกลายรูป กลายร่าง ไปเป็นตัวบท กฎหมาย เป็นระบอบการปกครอง เป็นประเพณี วัฒนธรรม หรือเป็นหลักศีล-หลักธรรม เพื่อหวังจะให้บรรดามนุษย์มนาทั้งมวล สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยสันติ ภายใต้สันติภาพ-สันติธรรม ไปตลอดชั่วนิจนิรันดร์กาล...

หรือใน ศาสนาพุทธ ของเราๆ-ทั่นๆ...ก็ดูจะมีคำตอบ คำอธิบาย โดยพระพุทธวัจนะ โดยคำพูด คำจา ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองด้วยซ้ำ ว่าด้วยเรื่องของ ธรรมชาติที่อยู่เหนือไปจากการปรุงแต่ง หรือโดยคำพูดที่ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรมชาติที่ไม่เกิด-ไม่เป็น-ไม่มีใครทำ-ไม่มีอะไรปรุงแต่งนั้น...มีอยู่ เพราะถ้าไม่มีธรรมชาติที่ไม่เกิด-ไม่เป็น-ไม่มีใครทำ-ไม่มีอะไรปรุงแต่ง ความพ้นไปจากธรรมชาติที่เกิด-ที่เป็น-ที่มีใครทำ-ที่มีอะไรปรุงแต่ง ก็ย่อมปรากฏไม่ได้ แต่เพราะเหตุที่มีธรรมชาติที่ไม่เกิด-ไม่เป็น-ไม่มีใครทำ-ไม่มีอะไรปรุงแต่งนั่นเอง ความพ้นไปจากธรรมชาติที่เกิด-ที่เป็น-ที่มีใครทำ-ที่มีอะไรปรุงแต่ง...จึงปรากฏขึ้นได้” อันส่งผลให้บรรดา พระอรหันต์ จึงอุบัติขึ้นมาในศาสนาพุทธ หรือศาสนาต่างๆ ทั้งหลายแบบรายแล้ว รายเล่า คนแล้ว คนเล่า...นั่นแล!!!

ความเพียรพยายามค้นหา แสวงหา ธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง พยายามหวนกลับไปสู่ โลกแห่งแม่พิมพ์สมบูรณ์แบบ หรือหวนกลับไปสู่ ปรมาตมัน ฯลฯ ตามหลักคิด วิธีคิด ของศาสนาและปรัชญาต่างๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่ดำเนิน สืบเนื่อง มาโดยตลอด แม้จะพบมั่ง-ไม่พบมั่ง เจอมั่ง-ไม่เจอมั่ง หรืออาจต้องรอจนกว่า ขอเกิดเป็นสุธี สาม-สี่ชาติ อะไรประมาณนั้น ก็แล้วแต่จะว่ากันไป แต่ก็นั่นแหละ...ภายใต้  มาตรฐาน ของสิ่งที่ว่านี้ มันเลยทำให้ ความดี-ความงาม-และความจริง ย่อมเป็นสิ่งที่มิอาจปฏิเสธได้โดยเด็ดขาด เพราะมันยังพอช่วยให้ การอยู่ร่วมกันโดยสันติ ของบรรดามวลมนุษย์ทั้งหลาย ยังพอมีช่อง มีโอกาส มีความเป็นไปได้ไม่มาก-ก็น้อย หรืออย่างน้อย...ก็น่าจะดีกว่าการยึดมั่นอยู่กับ มาตรฐานของใคร-ของมัน ที่รังแต่จะนำไปสู่ ความฉิบหาย วายวอด...กันไปข้าง!!! อันเป็นไปตามความชอบ-ความชัง ความเกลียด-ความรัก ที่ต่างก็ถูก ปรุงแต่ง ขึ้นมาในความรู้สึก-นึกคิด ของใคร-ของมันไปตามสภาพ...

อีกทั้งถ้าไม่มี มาตรฐาน ดังกล่าวเอาไว้แล้วไซร้...ความชุลมุน-ชุลเก ความอุตลุด วุ่นวาย หรือบรรดา ความไร้ระเบียบ ทั้งหลาย ที่ก่อให้เกิดความปวดหัวตายห่า!!! อยู่ใน โลกโซเชียลมีเดีย ทุกวันนี้ อาจส่งผลให้ไม่ว่าฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใดคงต้อง  ฉิบหาย...กันไปข้าง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น เอาแค่การไปไหน-มาไหน กินอะไร-ไม่กินอะไร ชอบอะไร-ไม่ชอบอะไร ฯลฯ ของแต่ละคน-แต่ละฝ่าย แต่ละกลุ่ม-แต่ละก้อน ไปๆ-มาๆ...ย่อมสามารถก่อให้เกิด ความเปรี้ยวมือ-เปรี้ยวตีน ของฝ่ายตรงข้าม ไม่มาก-ก็น้อย ด้วยเหตุนี้...แม้ ธรรมชาติแห่งการไม่ปรุงแต่ง หรือ โลกแห่งแม่พิมพ์สมบูรณ์แบบ จะมีอยู่-ไม่มีอยู่ หรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่การยึดมั่นอยู่กับ มาตรฐาน ของสิ่งที่ว่านี้ ย่อมน่าที่จะนำมาซึ่งความสุข-ความสงบ ความมีสันติภาพ-สันติธรรม ยิ่งกว่าการชิตๆ-แชตๆ การกดไลก์-กดแชร์ ฯลฯ ในโลกเสมือนจริง ไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ความจริง”เครื่องมือชิ้นสุดท้ายในห้วง“กลียุค”

นอกจากคนอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณ...ท่านจะแบ่งห้วงเวลาของแต่ละยุค ออกเป็น 4 ช่วง 4 ระยะ เริ่มจาก กฤตยายุค หรือ สัตตยายุค ที่บรรดาความดี-ความงาม-ความจริง ต่างมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปทั้ง 4 ส่วน

มติ 'ก.พ.ค.ตร.'

มีสัญญาณให้จับตา ต้นเดือนสิงหาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ปมปัญหาเรื่องสถานะ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายหลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

โชคดี...ที่ตายก่อน!!!

เห็นข่าวคราวว่าด้วย หลานสาว ชาวไทยรายหนึ่ง...ซึ่งน่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่น โด่งดัง ใดๆ มาก่อนเลย แต่เมื่อเธอโพสต์คลิปวิดีโอ โดยตัวเธอเองนั่ง