เสร็จสิ้นเรียบร้อย เป็นไปตามที่ โฆษกกอล์ฟ-พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวหลังการประชุม ก.ตร.ที่ผ่านมา มีมติขยายเวลาการแต่งตั้ง ตำรวจ ระดับ รองสารวัตร (รอง สว.) ถึง ผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2566 ออกไปถึงวันที่ 31 มี.ค.66 แต่การแต่งตั้งจริงๆ น่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค. ผลก็ปรากฏตามที่ โฆษก ตร. แถลงไว้ แม้เหล่า สีกากี ที่รอคำสั่งแต่งตั้งต้องลุ้นเหนื่อยหน่อย กว่าคำสั่งทุกหน่วยจะออกมาครบก็เกือบค่ำวันที่ 16 มี.ค. กระนั้นแอป แทนใจ ก็ได้เผยแพร่คำสั่งแต่งตั้งจำนวน 6,689 ตำแหน่ง ออกมาให้ตำรวจที่เฝ้ารอเฝ้าลุ้นได้ยลโฉม พร้อมๆ กับคำสั่ง บิ๊กแรก-พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. ให้ตำรวจทุกนายที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้เดินทางไปรับตำแหน่งใหม่และรายงานตัวภายในวันพุธที่ 22 มี.ค.66 เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดความเสียหายต่อการดูแลประชาชน
การแต่งตั้งโยกย้าย ตำรวจ ทุกครั้ง ไม่ว่าระดับไหน ยศอะไร ย่อมต้องมีทั้งคนสมหวังและคนผิดหวัง เช่นเดียวกับการแต่งตั้ง รอง สว.-ผบ.หมู่ วาระนี้ ใครสมหวังตามที่ต้องการก็ดีใจ ก็ฉลองกันไป โดยเฉพาะ ตำรวจ ที่ร้องขอกลับภูมิลำเนาและได้ย้ายกลับไปตามที่ต้องการ แต่ก็มีบางรายที่ผิดหวังไม่ได้ย้ายกลับไปตามที่ต้องการ อย่างกรณี รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รายหนึ่งได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการตำรวจไปประกอบอาชีพอื่น โดยให้เหตุผลว่าที่ทำงานอยู่ไกลจากภูมิลำเนา จำเป็นต้องเดินทางไปกลับ 100 กิโลเมตรทุกผลัดที่เข้าเวร ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งขอย้ายไปดำรงตำแหน่งใกล้บ้านก็ไม่ได้รับการพิจารณา ล่าสุด บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ให้ฝ่ายกำลังพลตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว และได้ชี้แจงสาเหตุที่ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รายดังกล่าวไม่ได้รับการโยกย้ายตามต้องการ เพราะเจ้าตัวเพิ่งได้รับการแต่งตั้งไปอยู่โรงพักบางโพงพาง ในคำสั่งแต่งตั้งปี 2564 เลยติดเงื่อนไขในคำสั่ง ตร.ที่ 128/2564 ลงวันที่ 10 มี.ค.64 ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่นได้ ดังนั้นรายนี้จึงติดเงื่อนไขหลักเกณฑ์
ยอดเยี่ยมจริงๆ ตำรวจโรงพักประชาชื่น ภายใต้การควบคุมของ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ประชาชื่น ที่สามารถคลี่คลายคดีคุณป้าวัย 68 ปี นอนเสียชีวิตทางเข้าอพาร์ตเมนต์ในซอยวงศ์สว่าง 19 ตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำคล้ายถูกทุบตีด้วยของแข็ง มีเลือดไหลออกทางจมูก และภายในห้องพักพบคราบเลือดติดอยู่หลายจุด รวมทั้งพบไม้ขนาดความกว้าง 2 นิ้ว ยาว 70 ซม.วางอยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะแม้จะสอบลุงวัย 61 ปี อดีตทหารอากาศที่ดูแลคุณป้ารายนี้อยู่ ซึ่งให้การว่าผู้ตายเสียชีวิตเอง แต่ ผกก.ประสพโชค ก็มีไหวพริบ หลังตรวจสภาพศพคุณป้าแล้วพบข้อพิรุธมากมาย จากนั้นให้ฝ่ายสืบสวนไปเก็บพยานหลักฐานต่อจิกซอว์สิ่งที่สงสัยต่างๆ จนมีหลักฐานเพียงพอที่จะมาสอบปากคำลุงวัย 61 ปีอย่างเคร่งเครียดกว่า 8 ชม. สุดท้ายก็ยอมรับสารภาพเป็นผู้ลงมือเอง สาเหตุจากการทะเลาะวิวาท ปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว แบบที่น่าชื่นชมทั้ง ผกก.และลูกน้องที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ละเลยข้อสงสัยต่างๆ จนสามารถจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ทันที
โดนเชือดอีกโรงพัก คดีที่ฝ่ายปกครองนำกำลังเข้าทลายสถานบริการแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณ Bangla Walking Street หาดป่าตอง ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พบมีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศ ในลักษณะความผิดฐานค้ามนุษย์ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ลงนามคำสั่งเด้ง 5 เสือโรงพักป่าตอง ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก., พ.ต.ท.สมพร สุรินทร์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา สวป. และ พ.ต.ท.สุชาติ ชุมภูแสง สว.สส. ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (ศปก.ภ.จว.ภูเก็ต) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น
เข้าสู่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งอย่างจริงจัง กองทัพกลายเป็นหน่วยงานที่ถูกจับตามองจากนักการเมืองว่าจะเอียงเข้าข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะที่เป็น รมว.กลาโหม ผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือไม่ และเพื่อไม่ให้ถูกย้อนเกล็ดได้ในภายหลัง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งจัดทำคู่มือให้กำลังพลปฏิบัติในช่วงการเลือกตั้ง โดยมีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนสรุปออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เตรียมติดเป็นโปสเตอร์ตามหน่วยทหารให้เป็นที่รู้กัน แถมกำชับว่า “เมื่อเป็นคำสั่ง ใครขัด ก็มีความผิด” ส่วนเนื้อหามีรายละเอียดที่เรียกว่า “ตึงเปรี๊ยะ” โดยเฉพาะเรื่องการใช้อากาศยานกองทัพ ยิ่งตอนนี้อาจจะมีการคาบเกี่ยวกับงานของตำแหน่งนายกฯ ในการลงพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผู้บังคับหน่วยที่ไปร่วมในภารกิจนั้นต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง ดังจะเห็นได้ว่ามีระดับ “บิ๊กทหาร” เริ่มปฏิบัติให้เห็น ด้วยการหลีกเลี่ยงเดินทางร่วมด้วยเพื่อตัดปัญหาเรื่องการตีความ แต่ใช้การเข้าร่วมภารกิจด้วยการเดินทางโดยรถยนต์ของหน่วยตนเองไป-กลับ แทน
ใกล้จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ดูผ่อนคลายมากขึ้น แม้จะไม่ตอบเรื่องการเมืองตรงๆ แต่ก็ยอมตอบทั้งในเรื่องหลักการ และแสดงความเห็นในหลายเรื่อง โดยเฉพาะท่าทีของตนเองที่เคยแสดงความรู้สึกกับ พล.อ.ประยุทธ์ไปก่อนหน้านี้ ช่วงมีข่าว เด้ง ผบ.ทบ. หนาหูเมื่อตอนโยกย้ายปลายปีที่แล้ว แต่ก็จบแบบแฮปปี้เอนดิง จนถึงขนาดที่ ผบ.ทบ.ยังเอ่ยปากชมความเป็น สุภาพบุรุษ ช่วงที่นายกฯ เจอวิกฤตถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่การจะเอ่ยตอนนี้อาจผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองเข้าสู่การแข่งขันเต็มรูปแบบ ทหารถูกจับจ้องตาเป็นมัน แต่ก็ยังให้ความเห็นแบบกว้างๆ ได้ว่า “ความเป็นสุภาพบุรุษ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามีทุกคน ให้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง A officer and the gentleman เราดูมาตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งการเป็นนายร้อยก็ต้องเป็นเจนเทิลแมน และคนที่ออกมาแล้วต้องดำรงความมีวินัย เมื่อเป็นเจนเทิลแมนได้ก็จะเจริญเติบโตและกลายมาเป็นผู้นำกองทัพ”
มาที่ความเคลื่อนไหวของทุ่งดอนเมือง ในเรื่องการเตรียมสนับสนุนการเลือกตั้งกันบ้าง พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เน้นย้ำที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ ให้กำลังพลวางตัวเป็นกลางเรื่องการเมืองเช่นกัน เตรียมพร้อมเปิดพื้นที่ให้ทุกพรรคการเมืองใช้หาเสียง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย สโมสรกองทัพอากาศ สนามกีฬากองทัพอากาศ และ หอประชุมกองทัพอากาศ โดยให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมพร้อมๆ กัน ส่วนการวางตัวมีกฎระเบียบ คู่มือที่ ผบ.เหล่าทัพได้มีการพูดคุยและนำไปปฏิบัติเหมือนกันทุกเหล่าทัพ รายละเอียดน่าจะเหมือนกับที่กองทัพบกจัดทำ พร้อมย้ำการปล่อยฟรีโหวตให้กำลังพลใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจ โดยเชื่อมั่นว่ายุคสมัยนี้สั่งใครไม่ได้อีกแล้ว
แวะเวียนมาถึง ทอ.แล้วคงต้องพูดถึงภารกิจเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการส่งหน่วยบิน ทำฝนหลวง รับมือภัยแล้ง-ลูกเห็บจากพายุฤดูร้อน คู่ขนานภารกิจดับไฟป่า ลดปัญหา PM2.5 มีการตั้งฐานปฏิบัติการ บน.41 เชียงใหม่ มีเครื่องบินลาดตระเวน (DA-42) เป็นเครื่องใหม่เพิ่งเข้ามาประจำการ พร้อมติดกล้องที่มีขีดความสามารถสูงถ่ายภาพส่งให้หน่วยภาคพื้น พร้อมจัดเครื่องบิน Alfa Jet ที่มีการปรับปรุงใหม่ ร่วมบินทำฝนหลวงด้วย อีกทั้งยังจัดเครื่องบิน AU-23 ที่เดิมคุ้นเคยกันในภาพ พีซเมกเกอร์ ในภารกิจกระจายเสียง โปรยใบปลิวช่วงสงครามปราบปรามคอมมิวนิวต์ แต่ตอนนี้ใช้กระจายเสียงทำความเข้าใจ แจ้งเรื่องความผิดตามกฎหมาย เตือนไม่ให้ชาวบ้านเผาป่า เผาไร่ โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงเก็บอากาศยาน ฝูงบิน 601 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.อ.อลงกรณ์ ควงคู่มากับ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ หนึ่งในแคนดิเดต ผบ.ทอ. หลังจากมีกระแสข่าวว่าน้องรักของ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. ทั้งคู่ออกอาการเว้นระยะห่างกันมาพักใหญ่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน
'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม
ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท