จีนปฏิเสธ ‘การทูตนักรบหมาป่า’ เป็นแค่ตอบโต้สมน้ำสมเนื้อ!

ฉิน กัง ตอบด้วยอารมณ์ขันที่แฝงด้วยนัยตอบโต้

เขาบอกว่าพอได้ยินคำถามนี้ก็ทำให้เขาหวนนึกถึงช่วงเวลาที่สื่อสหรัฐฯ ร้องอุทานว่า "นักรบหมาป่าจีนมาแล้ว" หลังจากที่เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2021

แต่พอเขากลับมาปักกิ่งเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ สื่อสหรัฐฯ ก็เริ่มเปลี่ยนเสียง หันมาบอกว่าอย่าเรียกสไตล์การทูตจีนว่า "นักรบหมาป่า" อีก

 “อย่างนี้ทำให้ผมรู้สึกสูญเสียอะไรบางอย่าง” ฉินกล่าวชี้แจงต่อหน้านักข่าวหลายร้อยคน ณ ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติครั้งที่ 14 ในกรุงปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้

เป็นการประชดหรือเป็นการต่อว่าต่อขานสื่อตะวันตกก็ไม่แน่ชัด

ฉิน กัง อธิบายว่า "การทูตนักรบหมาป่า" เป็นเรื่องเล่าที่เผยแพร่โดยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจีนและการทูตของจีนน้อยเกินไป

หรือไม่ก็อาจจะมาจากผู้มี “วาระซ่อนเร้น“ เกี่ยวกับการทูตของจีน

เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วฉิน กัง บอกว่า การทูตจีนนั้นมีแต่ความปรารถนาดีและความมีน้ำใจไม่เคยขาดแคลน

 “แต่หากต้องเผชิญหน้ากับหมาจิ้งจอกหรือหมาป่า นักการทูตจีนจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเผชิญหน้ากับพวกมันแบบตัวต่อตัวและปกป้องมาตุภูมิของเรา” เขากล่าว

นี่เลย วาทะคมคายและดุดันแบบนี้แหละที่ทำให้เกิดคำเปรียบเปรยจากสื่อตะวันตกว่า การทูตจีนนั้นดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ

หัวหน้าข่าวประจำอียูของ China Daily ชื่อ Chen Weihua (เฉินเว่ยหวา) เขียนในคอลัมน์เสริมต่อจากที่ฉิน กัง ตอบคำถามนักข่าววันนั้นว่า

 “ผมเห็นด้วยกับท่านรัฐมนตรีฉิน กัง เพราะผมเองก็ถูกบางคนในตะวันตกเรียกฉันว่าเป็น "นักรบหมาป่า"

เหตุเพราะผมวิจารณ์นักการเมืองตะวันตกที่ชอบทุบตีจีน                

นักข่าวจีนคนนี้เขียนต่อว่า

 “เป็นความจริงที่เจ้าหน้าที่ นักการทูต และนักข่าวของจีนไม่ยอมนิ่งเฉยต่อการแสดงออกของนักการเมืองตะวันตกที่ชั่วร้ายเหล่านั้นที่โจมตีจีน...

 “แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มทำเช่นนั้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับหลายคนในตะวันตกที่คุ้นเคยกับเรื่องราวจริงๆ ทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา”

นักข่าวจีนบอกว่า นักการเมืองตะวันตกหลายคนเชื่อว่าพวกเขาสามารถชี้นิ้วไปที่ส่วนอื่นๆ ของโลกได้ตามต้องการ             และส่วนอื่นๆ ของโลกควรฟังพวกเขา และห้ามฝ่ายจีนตอบโต้

เขาบอกต่อว่า “แต่เพื่อให้สมควรได้รับตำแหน่ง "นักรบหมาป่า" ที่สามารถเอาชนะ "นักรบไฮยีนา" ของตะวันตกได้ เจ้าหน้าที่ นักการทูต และนักข่าวของจีนจำเป็นต้องแข็งกร้าวมากขึ้น”

เขาบอกว่าถ้าหากพิจารณาถึง ส.ส.จีนที่เข้าร่วมการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ก็คงไม่สามารถระบุชื่อใครก็ตามที่ทุบตีสหรัฐฯ อย่างเลวร้ายพอๆ กับที่ ส.ส.บางคนใส่ร้ายจีน

เช่น มาร์โก รูบิโอ, ทอม คอตตอน, จอช ฮอว์ลีย์, มาร์ชา แบล็กเบิร์น และจีนใหม่ ฮอว์ก ไมค์ กัลลาเกอร์

นักข่าวจีนคนนี้ยืนยันว่า แม้ว่าชาติตะวันตกจะพยายามปิดปากเสียงของจีนที่จะเรียกนักวิจารณ์ชาวตะวันตกว่า "นักรบหมาป่า" เป็นการตอบแทนบ้าง “แต่คนจีนจะไม่นิ่งดูดายอีกต่อไป”

เขาบอกว่าชาติตะวันตกใส่ร้ายป้ายสีจีนอย่างไม่เป็นธรรมนั้น คนมากมายในแอฟริกาก็มีคนเอือมระอากับการถูกสั่งสอนโดยตะวันตกมานานหลายศตวรรษ

นักข่าวจีนเล่าต่อว่า ในการแถลงข่าวร่วมกันเมื่อเร็วๆ นี้                    นายเฟลิกซ์ ชิเซเคดี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บอกกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสผู้มาเยือนว่า

"มองเราต่างออกไปโดยให้ความเคารพเรา ไม่ใช่มองแบบบิดาเสมอไป"

โดยยืนยันว่า : "วิธีคิดแบบตะวันตกเหนือกว่าเราไม่มีอยู่อีกต่อไป เราต้องสร้างนโยบายที่เท่าเทียมกัน"

เขายกตัวอย่างอีกกรณีหนึ่งคือ นอร์เบิร์ต แลมเมิร์ต อดีตประธานรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาก บ่นกับประธานาธิบดีนามิเบีย Hage Geingob ว่ามีชาวจีนมากกว่าชาวเยอรมันถึง 4 เท่าในนามิเบีย

Geingob ไม่พอใจกับคำบ่นของ Lammert ตอบว่าแทนที่จะป้ายสีจีน ผู้นำเยอรมันและชาติตะวันตกอื่นๆ จำเป็นต้องพิจารณาตัวเองเสียบ้าง

Geingob กล่าวว่า แม้ว่านามิเบียจะปูพรมแดงให้กับชาวเยอรมัน แต่โดยทั่วไปแล้ว นามิเบียและชาวแอฟริกันมักตกเป็นเหยื่อของการเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรงในเยอรมนี

นักข่าวจีนคนเดียวกันนี้บอกว่ามีความเป็นไปได้ว่าผู้นำแอฟริกา เช่น Geingob และนักการทูตของพวกเขาอาจถูกตราหน้าว่าเป็น "นักรบหมาป่า" ในเร็วๆ นี้ หากพวกเขายังคงต่อต้านความคิดเห็นที่ไม่มีมูลความจริงของนักการเมืองและสื่อตะวันตก

 “แต่ตะวันตกควรจะหยุดตีตราและตั้งหัวข้อให้กับส่วนอื่นๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาไปนานแล้ว...”

นี่คือปฏิกิริยาจากสื่อทางการจีนที่สนับสนุนคำแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศฉิน กัง ที่ว่าการทูตจีนไม่ได้ก้าวร้าวแบบ “นักรบหมาป่า” อย่างที่สื่อตะวันตกเรียก

หากแต่เป็นเพียงการตอบสนองการตีความผิดๆ ของตะวันตกในลักษณะที่ “สาสม” กับการโจมตีเท่านั้นเอง

หรือจะบอกว่าเป็นแนว “ดุและแรงแบบและสมน้ำสมเนื้อ” ก็น่าจะได้ครับ!.