ลดค่าก๊าซ-ค่าไฟ ไม่ต้องรอพรรคไหนทั้งนั้น

ทุกครั้งที่จะมีการเลือกตั้ง จะได้เห็นนโยบายหาเสียงของบรรดาพรรคการเมือง ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำสิ่งนั้น ทำเรื่องนี้ให้ทันที ในอดีตพรรคการเมืองมักจะชูนโยบายหลักๆ ในเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง หนี้สิน นโยบายราคาสินค้าเกษตร แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2562 บรรดาพรรคการเมืองต่างมีนโยบายหาเสียงด้านพลังงานกันแทบทุกพรรค นั่นเป็นเพราะราคาพลังงานสร้างผลกระทบและความเดือดร้อนกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดในปี 2566 การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง แต่ละพรรคการเมืองน้อยใหญ่ต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างคึกคัก ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่ใช้ในการหาเสียง และถือเป็นหัวใจสำคัญที่ใช้ในการช่วงชิงคะแนน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นโยบายด้านพลังงาน” กลายเป็นหนึ่งในจุดขายในการหาเสียง และประชาชนต่างจับตาว่านโยบายของพรรคการเมืองใดที่จะสามารถแก้ไขปัญหาราคาพลังงานที่สูงลิ่ว ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

โดยเฉพาะในเรื่องของราคาพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ต่างก็จะปรับลดลงทันที พร้อมกับส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน หรือฟรีหลังคาโซลาร์เซลล์ และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันละ 6,000 บาท แม้กระทั่งรื้อโครงสร้างพลังงงาน เลิกผูกขาดสายส่ง หรือลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 3.5 บาท เป็นต้น หรือแม้กระทั่งจะเร่งรัดให้การเจรจาเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อที่จะนำก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนขึ้นมาใช้ประโยชน์        

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2566 แต่ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม และกว่าจะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่และเริ่มทำงาน ก็เข้าสู่เดือนสิงหาคม 2566 และกว่าจะแก้ไขปัญหาด้านพลังงานก็อาจต้องรอกันถึงปลายปี ในขณะที่ความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องพลังงาน คงรอนานขนาดนั้นไม่ได้

ซึ่งสิ่งหนึ่งไม่ต้องรอ เพราะได้ดำเนินการแล้วและเกิดผลดีกับราคาต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ส่งผลดีต่อราคาค่าไฟฟ้าของประชาชน คือการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานของแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช จากระบบสัมปทานเปลี่ยนผ่านสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยในระหว่างคืนวันที่ 7 มีนาคม 2566 ต่อเนื่องถึงวันที่ 8 มีนาคม 2566 สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องทันทีทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ ทำให้กระบวนการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สามารถสนับสนุนปริมาณก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมเพื่อทดแทนการผลิตที่ลดลงจากแหล่งอื่นๆ ได้ด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ราคาก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากแหล่งบงกช หรือแปลง G2/61 ปรับลดลงประมาณ 107-152 บาทต่อล้านบีทียู หรือปรับจาก 279-324 บาทต่อล้านบีทียู ลดลงเหลือ 172 บาทต่อล้านบีทียู คิดเป็นมูลค่าประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท ช่วยสร้างเสถียรภาพของราคาก๊าซธรรมชาติที่จะนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ลดต้นทุนราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า และลดผลกระทบเกี่ยวกับราคาค่าไฟฟ้าของประชาชนได้ด้วย

และหากแปลง G1/61 หรือแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณเดิม ที่ได้เปลี่ยนจากระบบสัมปทานไปเป็นระบบแบ่งปันผลผลิตตั้งแต่เมษายน 2565 ที่ผ่านมาแล้ว สามารถกลับมาผลิตก๊าซธรรมชาติได้เต็มกำลังตามเป้าหมาย ภายใต้สัญญาระบบแบ่งปันผลผลิต ก็จะยิ่งช่วยให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่นำไปใช้ผลิตไฟฟ้าลดลงมากขึ้น และช่วยให้ค่าไฟฟ้ามีราคาถูกลงไปด้วย

นอกจากนี้ ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติผลการประมูลในการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ครั้งที่ 24 จำนวน 3 แปลง ซึ่งหากสำรวจพบปิโตรเลียมและสามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ ก็จะทำให้เรามีปริมาณปิโตรเลียมที่ผลิตได้เองในประเทศเพิ่มมากขึ้น ลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาค่าไฟฟ้าจะถูกลง แต่สิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องคือการใช้พลังงานอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด.

บุญช่วย ค้ายาดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จของแบรนด์กับการใช้Meta

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีประชากร 700 ล้านคน และมี GDP รวมประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

หวยเกษียณแก้ปัญหาแก่ก่อนรวย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมการออมของประชาชนในประเทศ

เจ็บแล้วจบ

หลังการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาได้เข้ามาเดินหน้ามาตรการประชานิยมลด แลก แจก แถม จัดเต็ม ตามที่สัญญากันไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า

3แผนกรีนดันอุตฯไทยรักษ์โลก

เทรนด์รักษ์โลกยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมานี้หลายหน่วยงาน หลายบริษัทก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้านี้ และยังแห่ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมกันอย่างคึกคัก

เร่ง“ปรับ”ก่อน(ถูก)“เปลี่ยน”

ยอดขายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงตกใจ เพราะหดตัวลงถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

เปิดไม้เด็ดธุรกิจขนาดเล็กสู้ในตลาด

หากย้อนเวลาไปเมื่อหลายปีก่อน ธุรกิจที่มีทุนหนาและมีส่วนแบ่งการตลาดมาก มักจะถูกมองว่าเป็น “ปลาใหญ่” ที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ทุนน้อยกว่าซึ่งเปรียบเหมือน “ปลาเล็ก” จนเป็นที่มาของคำว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เห็นชัดที่สุดคือ การมี Economy of Scale หรือ การประหยัดต่อขนาด ซึ่งหมายถึง การผลิตสินค้าหรือบริการในจำนวนที่มากพอที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง พูดง่ายๆ ก็คือ “ยิ่งผลิตมากขึ้น ต้นทุนการผลิตยิ่งลดลง และยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น” โดยต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการจะแบ่งออกเป็น ต้นทุนคงที่ (fixed cost) และต้นทุนผันแปร (variable cost) ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ธุรกิจต้องจ่ายเป็นจำนวนคงที่ ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าใดก็ตาม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ส่วนต้นทุนผันแปร