เห็นข่าวคลองเวนิสในอิตาลี "แห้งขอด" จนเรือกอนโดลา และเรือแท็กซี่ไม่สามารถออกทำมาหากินได้ตามปกติได้ ต้องบอกว่า.. สะท้อนใจ
เพราะสำหรับเมืองเวนิสแล้ว "คลอง" คือเสน่ห์การท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดคนจากทั่วโลกให้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต การที่คลองใช้การไม่ได้ ก็ไม่แตกต่างจากเส้นเลือดหัวใจที่ตีบตัน จนอาจจะทำให้เสียชีวิตลงได้ในวันใดวันหนึ่ง
จำได้ว่า เห็นคลองเวนิส และระบบวิธีในการต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยวแล้ว ก็รู้สึกย้อนนึกถึงคลองต่างๆ ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นคลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ คลองบางหลวง และคลองสายเล็กสายน้อยที่แยกออกไปจากแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอดไม่ได้ที่จะต้องเปรียบเทียบของเรากับของเขา
เทียบกันแบบเนื้อๆ เน้นๆ แล้วให้รู้สึก "เสียดาย" ว่า เสน่ห์ตามคลองของบ้านเรานั้น ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าที่เวนิสนะ แต่การบริหารจัดการ จัดระเบียบ ปลุกคลองให้มีชีวิตชีวา หรือแต่งหน้าแต่งตาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามตระการตานั้น เวนิสกินขาดไปหลายขุม
นั่นเพราะความแข็งแรงของชุมชน ของส่วนราชการที่กำกับดูแลสถานที่แห่งนั้น แต่คลองบ้านเรา สวยงามตามท้องเรื่อง คือเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น พี่ไทยอยากจะปลูกเรือนไทยก็ทำ อีกบ้านอยากทำเป็นตึกแถวก็ทำ ข้างบ้านอยากใช้สังกะสีขึ้นสนิมแทนรั้วบ้าน ก็เรื่องของชาวบ้าน ไม่ใช่เรื่องของเรา บางบ้าน..เรือนติดน้ำเอียงพังแทบจะถล่ม ก็ปล่อยมันตามยถากรรม
ที่กระแทกใจสุดๆ ก็ตรง "ขยะ" ในคลองนี่แหละ มันเตะตา ชวนให้ต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดชุมชนสองฝั่งคลองบ้านเรา จึงไม่ช่วยกันดูแล อย่างน้อยที่สุด ระมัดระวังการทิ้งขยะหรือสิ่งสกปรกลงคลอง หรือแม้กระทั่งสร้างจิตสำนึกร่วมกันว่า ท่าน้ำบ้านใครมีขยะลอยมาก็โปรดช่วยกันเก็บคนละเล็กละน้อย
เข้าใจว่า มีการรณรงค์ "ห้าม" ทิ้งขยะสุ่มสี่สุ่มห้าสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย แต่อยากถามว่า ระหว่างนักท่องเที่ยวที่เป็น "ขาจร" กับเจ้าของพื้นที่ที่เป็น "ขาประจำ" อย่างชุมชนริมคลองนั้น ใครควรจะมีความกระตือรือร้นในเรื่องการดูแลคลองมากกว่ากันหนอ
บ่นเยอะบ่นแยะในวันนี้ เพราะมีโอกาสเที่ยวคลองภาษีเจริญ คลองบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ คลองบางหลวง แวะตลาดน้ำตลิ่งชัน ถึง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ..ขยะมันตำตา และกลิ่นมันออกจะแรง..นะคะ.
'ป้าเอง'
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คอนเทนต์...คนวัยตกกระ
เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
เงิน..ก้อนสุดท้าย!!
สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย
คิดถึงพ่อ ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต
ทุกวันที่ 5 ธันวาคม นอกจากเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว พวกเราพสกนิกรชาวไทยระลึกอยู่เสมอว่าเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทำตัวเป็นแสงสว่าง
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบค่ะ ..จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านบ้าง.. มีตรอกอยู่ตรอกหนึ่ง ที่ทั้งมืดและทั้งแคบ คืนหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าว เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม