ปลายเดือนพฤศจิกายน 2021 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อความช่วยเหลือด้านประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง (องค์กร IDEA หรือ International IDEA) ในสวีเดน เผยแพร่งานวิจัย “The Global State of Democracy Report 2021 - Building Resilience in a Pandemic Era” สะท้อนประชาธิปไตยโลกช่วงปี 2020-2021 ในยุคโควิด-19 มีสาระสำคัญดังนี้
องค์กร IDEA แบ่งการปกครองเป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่ ระบอบประชาธิปไตย อำนาจนิยมและแบบลูกผสม (hybrid) 2 แบบหลังไม่ถือว่าเป็นประชาธิปไตย
ระบอบที่นับว่าเป็นประชาธิปไตย เงื่อนไขขั้นต่ำสุดคือฝ่ายค้านต้องมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้จริง ลำพังมีการเลือกตั้งไม่นับว่าเป็นประชาธิปไตย
ทุกวันนี้ประชากรโลก 70% อยู่ในระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยหรือประชาธิปไตยกำลังถดถอย มีเพียง 9% เท่านั้นที่อยู่ในประเทศประชาธิปไตยเข้มแข็ง โควิด-19 เป็นอีกปัจจัยทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง.
ระบอบลูกผสม (hybrid) สังคมการเมืองเปิดกว้างมากกว่าระบอบอำนาจนิยม เช่น ประชาสังคมทำงานได้ สื่อมวลชนมีเสรีภาพ แต่ยังเปิดกว้างไม่พอ เช่น รัสเซีย
ตามเกณฑ์องค์กร IDEA ทุกวันนี้ประชากรโลก 70% อยู่ในระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยหรือประชาธิปไตยกำลังถดถอย มีเพียง 9% เท่านั้นที่อยู่ในประเทศที่ประชาธิปไตยเข้มแข็ง
กรอบแนวคิดประชาธิปไตยขององค์กร IDEA
เครดิตภาพ: https://www.idea.int/gsod/sites/default/files/2021-11/the-global-state-of-democracy-2021_0.pdf
ความท้าทาย:
ประการแรก อำนาจนิยมแผ่กว้างยิ่งขึ้น
นับจากปี 2016 ประชาธิปไตยโลกถดถอยเรื่อยมา สถานการณ์ล่าสุดจำนวนประเทศที่กำลังเคลื่อนเข้าหาอำนาจนิยม (หรือเป็นอำนาจนิยม) มีมากกว่าประเทศที่เป็นประชาธิปไตย 3 เท่าตัว โรคระบาดโควิด-19 ส่งเสริมทิศทางนี้และคาดว่าเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องอีก 5 ปี
จีนเป็นอำนาจนิยมเพราะรัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของทุกคน ไม่มีอะไรปิดกั้น รัฐใช้เอกชนเป็นเครื่องมือเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคาร การใช้จ่ายของแต่ละคน มีกล้องจับภาพหลายล้านตัวเฝ้าดูความเคลื่อนไหวแต่ละคนด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า
ประการที่ 2 พรรคการเมืองใช้เทคนิคของพวกอำนาจนิยม
แม้ในประเทศที่ประชาธิปไตยเข้มแข็งแต่การเลือกตั้งใช้แนวทางของพวกอำนาจนิยมมากขึ้น อีกทั้งประชาชนจำนวนไม่น้อยสนับสนุน การแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างรุนแรงเป็นอีกสาเหตุทำให้ประชาธิปไตยถดถอย พวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหลายพรรคเลือกที่จะเอาชนะมากกว่าส่งเสริมประชาธิปไตย
ประการที่ 3 ถดถอยในประเทศที่มีประชากรมาก
ปัญหาใหญ่คือในหมู่ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย พบว่าประชาธิปไตยกำลังถดถอยอย่างรวดเร็ว พรรครัฐบาลค่อยๆ ออกกฎระเบียบให้การเลือกตั้งเอื้อพวกตน ทยอยกีดกั้นเสรีภาพสื่อกับการแสดงออกของประชาชน ช่วงโควิด-19 ระบาดในขณะนี้ 90 ประเทศออกกฎหมายหรือมาตรการปิดกั้นการแสดงออกหวังสกัดข่าวปลอมโรคระบาด แต่กฎหมายเหล่านี้บางส่วนถูกนำไปใช้ปิดกั้นเสรีภาพประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด
สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นทั่วไปแม้ในประเทศที่มีประชากรมาก เช่น บราซิล อินเดีย สหรัฐ
ประการที่ 4 เป็นอำนาจนิยมรุนแรงขึ้น
ประเทศที่ปกครองด้วยอำนาจนิยมกับลูกผสมมีความเป็นอำนาจนิยมมากขึ้น ปี 2020 เห็นภาพนี้ชัดเจน สิทธิเสรีภาพประชาชนถูกปิดกั้นมากกว่าเดิม
ประการที่ 5 การเลือกตั้งไม่น่าเชื่อถือ
นับวันคนสงสัยว่าการเลือกตั้งโปร่งใสหรือไม่ แม้กระทั่งเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2020 ที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหาว่าไม่โปร่งใส แม้จะขาดหลักฐานแต่ทำให้คนอเมริกันจำนวนมากไม่เชื่อถือการเลือกตั้ง ด้านกองทัพเมียนมาอ้างการเลือกตั้งไม่โปร่งใส เข้าควบคุมอำนาจรัฐบาลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 สถานการณ์เช่นนี้เกิดในหลายประเทศ เช่น บราซิล เม็กซิโก เปรู
ประการที่ 6 วัคซีนโควิด-19 กระจายไม่ทั่วถึง
รวมทั้งการต่อต้านวัคซีน ทำให้การฉีดวัคซีนล่าช้าและโรคระบาดยืดเยื้อออกไป ซึ่งเป็นการจำกัดเสรีภาพพื้นฐานการใช้ชีวิต
โอกาส:
ประการแรก ปรับตัวยืดหยุ่นกว่าเดิม
หลายประเทศสามารถปรับปรุงเป็นประชาธิปไตยยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ยังคงรักษาหลักการประชาธิปไตยแม้ปฏิบัติไม่เหมือนเดิม พรรคการเมืองสหรัฐจัดประชุมออนไลน์ จัด virtual party convention มีแอปพลิเคชันช่วยให้นักการเมืองกับประชาชนติดต่อใกล้ชิดกัน
ประการที่ 2 ปรับกฎระเบียบเลือกตั้งที่รักษาประชาธิปไตย
โรคระบาดทำให้เกิดข้อกำจัดหลายอย่างที่ลดความเป็นประชาธิปไตย แต่รัฐบาลหลายประเทศปรับตัวให้การเลือกตั้งดำรงความเป็นประชาธิปไตยมากสุด พร้อมกับป้องกันโรคระบาด ดึงคนให้ออกมาใช้สิทธิ์ได้มาก เช่น เกาหลีใต้ให้คนป่วยในโรงพยาบาล ผู้กักตัวในบ้านสามารถลงคะแนนที่บ้าน ใช้เทคโนโลยี augmented reality (AR) หลายประเทศมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าปกติ
ประการที่ 3 นักประชาธิปไตยเคลื่อนไหวเข้มแข็ง
ตลอดปี 2020-21 นักประชาธิปไตยหลายประเทศเคลื่อนไหวเข้มแข็ง โดยเฉพาะที่เบลารุส คิวบา เอสวาตีนี (Eswatini - อยู่ในทวีปแอฟริกา) ฮ่องกงและเมียนมา หลายประเทศเคลื่อนไหวแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การเหยียดเชื้อชาติ
ประการที่ 4 มุ่งหน้าสู่ประชาธิปไตย
บางประเทศเช่นพรรคฝ่ายค้านแซมเบีย สามารถฝ่าด่านเอาชนะเลือกตั้งแม้ฝ่ายรัฐบาลใช้กลวิธีหลายอย่าง
ประการที่ 5 ภาคเอกชนสนับสนุนประชาธิปไตย
บริษัทเอกชนบางแห่งสนับสนุนประชาธิปไตยบางประเด็น เช่น พฤติกรรมของรัฐบาลจีนต่อพวกอุยกูร์ เป็นกรณีที่บริษัทเอกชนอียูมีส่วนสนับสนุนนโยบายรัฐบาล
ประการที่ 6 ระบอบอำนาจนิยมไม่สามารถจัดการโรคระบาดได้ดีกว่าประชาธิปไตย
แม้ข้อมูลมีน้อยและไม่น่าเชื่อถือ
3 แนวทางต่อต้านระบอบอำนาจนิยม:
1) ให้คำมั่นสัญญา (Deliver)
รัฐบาลต้องหารืออย่างใกล้ชิดภาคประชาสังคม ร่วมทำสัญญาประชาคมใหม่ เข้าถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการกับสิ่งที่รัฐบาลทำได้จริง สัญญาประชาคมใหม่จะเป็นแนวทางพัฒนาระยะสั้นกับระยะยาว แก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมที่ทวีขึ้นมากในยุคโควิด-19 ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน พัฒนาประเทศโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างระบบนิเวศยั่งยืน พรรคการเมืองรับฟังความคิดเห็นของคนหนุ่มสาว
2) ฟื้นฟูใหม่ (Rebuild)
มีงานวิจัยชี้ว่าการเลือกตั้งที่โปร่งใสกับพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อประชาชน เป็นหัวใจทำให้สังคมมีความยุติธรรม ได้รับสวัสดิการเต็มเม็ดเต็มหน่วยและลดความเหลื่อมล้ำ
รัฐบาลที่ตรวจสอบได้จริงต้องมีระบอบรัฐสภาที่เข้มแข็ง ฝ่ายค้านทำงานมีประสิทธิภาพ ตุลาการเป็นอิสระและสื่อมวลชนทำงานด้วยความซื่อสัตย์
รัฐบาล พรรคการเมือง ผู้ดูแลการเลือกตั้งและสื่อมวลชนต้องร่วมกันปฏิรูปสถาบันประชาธิปไตย ปรับปรุงความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อร่วมเผชิญความท้าทายต่างๆ สร้างขีดความสามารถใหม่ๆ การเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ ปกป้องเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐาน ตรวจสอบถ่วงดุลกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ประชาชนไว้วางใจนักการเมืองซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง
3) ป้องกัน (Prevent)
รัฐบาล ภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนต้องร่วมกันต่อต้านอำนาจนิยม ป้องกันประชาธิปไตยถดถอย ด้วยการให้การศึกษาคนทุกระดับ ตรวจสอบเสาหลักประชาธิปไตย ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เข้าถึงข้อมูลต่างๆ และเรียนรู้แบบอย่างประชาธิปไตยที่ดีในประเทศอื่นๆ สร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย วางแนวป้องกันประชาธิปไตย
รายงานล่าสุดขององค์กร IDEA ตอกย้ำรายงานขององค์กรดัชนีประชาธิปไตยอื่นๆ ที่ต่างชี้ว่าประชาธิปไตยถดถอยอำนาจนิยมแผ่ขยาย สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศแม้กระทั่งประเทศที่ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เป็นสถานการณ์ที่ควรติดตาม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โควิดรายสัปดาห์ ป่วยนอนโรงพยาบาล 557 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 1 - 7 ธันวาคม 2567 ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์)
2024สงครามกลางเมืองซีเรียระอุอีกครั้ง
สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาเกือบ 14 ปียังไม่จบ สาเหตุหนึ่งเพราะมีรัฐบาลต่างชาติสนับสนุนฝ่ายต่อต้านกับกลุ่มก่อการร้าย HTS เป็นปรากฏการณ์ล่าสุด
'หมอยง' ช้ำถูกวิกิพีเดียใส่ข้อมูลเท็จซ้ำเข้าไปแก้ไขไม่ได้
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา
‘หมอยง’ สะท้อนความรู้สึกโควิด-19 ปีที่ 2 'ยุ่งเหยิง-ดราม่าวัคซีน-เซียนคีย์บอร์ด'
หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform
ฮิซบุลเลาะห์-อิสราเอลจากเริ่มรบสู่หยุดยิง
ถ้าคิดแบบฝ่ายขวา อิสราเอลที่หวังกวาดล้างฮิซบุลเลาะห์ การสงบศึกตอนนี้ไม่บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ และฮิซบุลเลาะห์กำลังเปลี่ยนจุดยืนหรือ
'หมอยง' หวนระลึกโควิด19 ปีที่สองของการระบาด!
ศ.นพ.ยง ภู่รวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์