“คุณปราปต์ปฎล สุวรรณบาง” ดารา-นักแสดงคนดัง
หลังจากที่ได้ไปยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าเรื่องคดีความที่ตึกดีเอสไอ และได้พูดถึงเรื่องราวที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่โปร่งใสจากเจ้าหน้าที่รัฐ
นัยว่า มีผู้หวังดีได้เตือนด้วยความห่วงใย ระวังจะมีการโต้กลับของอีกฝ่ายที่มีอำนาจในมือจะดำเนินการกับตัวเขา..
“ผมทราบครับว่าผมจะได้รับผลกระทบอย่างไร และน่าจะหนักแค่ไหน อาจไม่ใช่แค่ตัวผม น่าจะรวมไปถึงแฟนผมที่ยังติดอยู่ในเรือนจำ
แต่เราสองคนปรึกษากันแล้วว่า สู้เงียบๆ สงบเสงี่ยมก็โดนเหยียบย่ำไม่มีความเป็นธรรมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าทำไมผมต้องเก็บข้อเท็จจริงไว้กับตัวแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายทำร้ายเราด้วยการปล่อยข่าวเท็จ
จึงตัดสินใจขอให้พี่น้องสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงตีแผ่เรื่องราวสู่สังคม ชีวิตผมและแฟนอาจอยู่อย่างลำบากดังที่หลายท่านเตือนสติว่าสู้กับคนมีอำนาจในมือ อย่างไรก็พ่ายแพ้
แต่อย่างน้อยผมก็ได้สู้กับความอยุติธรรมต่อหน้าสังคมที่ได้รับรู้อีกมุม”
ครับ..แล้ววันนี้ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณปราปต์ปฎล ที่ได้ตัดสินใจเข้าสมัครสมาชิกพรรคไทยภักดี เป็นนักการเมือง (จนได้) เต็มตัว..
หลังจากที่คุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคได้ชวนไปร่วมต่อสู้คนโกงด้วยกัน!
“ผมเรียนให้ทราบตรงๆ ว่า คำว่าการเมืองสำหรับผม..ผมรังเกียจมาตลอด และไม่เคยมีมันอยู่ในความคิดเลย..
แต่คุณหมอวรงค์ก็บอกว่าลองเข้ามาคุยกันที่พรรคแล้วค่อยตัดสินใจ ว่าทำไมคนรังเกียจนักการเมืองอย่างผมนี่แหละถึงควรจะต้องมาทำงานด้านการเมือง....
ถ้าถามผมว่ามีใครติดต่อผมบ้างมั้ยในเรื่องการเมือง คำตอบคือมีครับ หลายพรรคเลยครับที่อยู่ในสภานี่ล่ะ แต่คำตอบว่ารังเกียจการเมืองของผมทำให้การสนทนาสิ้นสุด..
แต่ระดับหัวหน้าพรรคให้เกียรติโทร.มาหาด้วยตนเองมีพรรคเดียว และเป็นพรรคที่ไม่ได้มีภาพจำอย่างที่เห็นในสภา และด้วยวิธีการชักชวนที่จริงใจทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปที่พรรคในวันนี้...
และตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้กับอำนาจอยุติธรรมอีกครั้งด้วยการทำงานด้านการเมือง..ปุ๊บปั๊บกันเลยทีเดียว ก็ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียกันแล้วนี่ชีวิต
เมื่อผู้ใหญ่เมตตาให้เส้นทางการต่อสู้แบบใหม่ที่จะสามารถทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคมได้โดยที่ความยุติธรรมไม่จำเป็นต้องถูกตีเป็นราคา..
และมีความพร้อมทุกฝ่ายที่พร้อมให้การสนับสนุน..ขอลุยอีกสักตั้งครับ ไปให้สุด..ไม่ใช่แค่สู้เพื่อตัวเอง แต่จะสู้เพื่อพี่น้องชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบผม
ขอชนกับคนคอร์รัปชันอีกสักยกครับ.”
คุณปราปต์ปฎลบอกด้วยว่า.. “ไม่ได้คิดเยอะ จึงไม่มีการคำนึงถึงผลได้ผลเสียส่วนตัว หลายคนที่รักและห่วงใยให้สติว่ามีรายได้จากอาชีพเดียวคืองานแสดงไม่มีธุรกิจรองรับ ไม่ใช่ตระกูลร่ำรวย
ถ้าพลาดครั้งนี้ชีวิตจะลำบาก..ผมน้อมรับคำเตือนและปรารถนาดี แต่ชีวิตผมถ้าจะตีราคาคำว่าร่ำรวยเป็นเรื่องสมบัติเงินทอง ผมคุ้นเคยกับคำว่าไม่มีมาตลอดชีวิต
แต่ถ้าหมายถึงความภูมิใจในความประพฤติปฏิบัติชอบผมว่าผมไม่เคยจน ผมร่ำรวยแล้วด้วยความสุขที่เกิดขึ้นในใจ..
ผมมั่นใจว่าใครหรือองค์กรใดก็กลืนตัวตนผมไม่ได้..ถ้ามันไม่ใช่ที่ของผม ก็แค่ถอยกลับมา..”
เนี่ย..ต้องพูดว่า “เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส” ก็ไม่ได้จะยุ แต่เมื่อเดินเข้าสู่อาชีพนักการเมืองเต็มตัวแล้ว ต้องทุ่มเท-เอาจริง และ..
เอาให้สุดนะปราปต์!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!
84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..
อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย
เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์
เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ
“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี
คิดถึงนักรบลุง
กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..