เรียกได้ว่าเป็นพรรคกระสุนตกมากที่สุดเวลานี้ สำหรับ "คนภูมิใจไทย" ภายใต้การนำของ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข
ไม่ว่าจะถูกรับงานมาเตะตัดขา หลังกระแสพรรคดีวันดีคืน มีแต่บรรดานักการเมืองไหลเข้าพรรค เนื่องจากเอกภาพของพรรคเข้มแข็ง รวมทั้ง ทรัพยากรเกี่ยวกับเลือกตั้งก็ไม่เป็นรองใคร
โพลต่างๆและนักวิเคราะห์ จึงมองว่าหลังเลือกตั้ง จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ "อนุทิน" จะมีโอกาสเป็นนายกฯคนที่ 30
ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝ่ายตรงข้าม จะต้องทุบทุกวิถีทางทั้งต่อหน้าและลับหลัง
แต่หากไปถาม "หัวหน้าหนู" คงไม่หวั่นไหวเรื่องแค่นี้ โดยเจ้าตัวบอกว่า "ในชีวิตที่ผ่านมา มีเรื่องขวัญหนีดีฝ่อกว่านี้เยอะ ดังนั้นแค่นี้ไม่เป็นไร "
นอกจากนี้ ล่าสุด พรรคยังถูกเคลมนโยบายในช่วงเลือกตั้ง โดยก่อนหน้ามีพรรคใหญ่ฝ่ายค้าน ไปปราศรัย เรื่องนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท หยุดต้นปลอดดอกเบี้ย กระทั่งคนภูมิใจไทย ต้องออกมาโวยว่า "อย่าลักไก่ก๊อปปี้นโยบาย"
หรือช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ก็ถูกพรรคร่วมรัฐบาลออกมาเคลมเรื่อง "บัตรทองพรีเมี่ยม" ทั้งที่ก่อนหน้า "หมอหนู " ผลักดันรักษาพยาบาลทุกที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด
การเคลมผลงานยังไม่จบ กระทั่งเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา ครม.อนุมัติค่าป่วยการให้อสม. และ อสส. จาก1,000 บาท เป็น 2,000 บาท โดยจะผลในเดือนวันที่ 1 ต.ค.นี้
ทันใดนั้นมีหลายพรรคร่วมรัฐบาลรีบออกมาแสดงตนว่าเป็นผลงานของตัวเองทันที ทั้งนี้ "อนุทิน" เป็นผู้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในการประชุมครม. ก็เขียนโน้ตน้อยๆด้วยลายมือตัวเองจำนวน7แผ่น อธิบายถึงความจำเป็นของอสม. และ อสส. ที่ต้องได้ค่าป่วยการเพิ่มขึ้น จนสุดท้ายผลักดันเรื่องนี้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ "อนุทิน" ยังถือเป็นตัวชนให้ นักรบชุดเทา ตั้งแต่ยุควิกฤตโควิด ก็ฝ่าฟันของบประมาณเพื่อช่วยค่าใช้จ่าย และค่าเสี่ยงภัยให้อสม. และ อสส.เดือนละ 500 บาท ตั้งแต่เดือนมี.ค. 63 -ก.ย.65 จำนวน 31 เดือนรวมทั้งสิ้น 15,500 บาทต่อคน หรือ จำนวน 1,090,163 คน คิดเป็นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 1.6 หมื่นล้านบาทมาแล้ว
แม้ช่วงเลือกตั้งจะฝ่ายการเมืองแย่งแต้มกันดุเดือด แต่ถือเป็นเรื่องดีเพราะพี่น้องอสม. และอสส.ได้ประโยชน์ ส่วนจะเป็นผลงานของใคร"นักรบชุดเทา"รู้ดี
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ใช้ซื้อข้าวมาแล้ว
ตั้งแต่ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม อดีตที่ปรึกษาของนายกฯ หายไปด้วย
อ่อนกว่าวัย
ไม่น่าเชื่อในวันที่ 13 ม.ค. 2568 รัฐมนตรี 17 สมัย อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข จะมีอายุครบ 70 ปี เนื่องจากรูปร่างหน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมาก เหมือนกับคนอายุประมาณ 50 ปีเศษเท่านั้น
ขอติดทีมชาติไทย
นักการเมืองไทยรุ่นเก๋าหลายคนบ่นอุบ ยอมรับว่าเปลี่ยนยุคไปไว มีสส.หน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่วนสส.รุ่นใหญ่นับวันก็จะมีแต่คนโบกมืออำลาวงการ ส่วนใครที่ยังใจรักก็อยู่ทำงานต่อแบบเหงาๆ เพราะเพื่อนที่รุ่นราวคราวเดียวกันก็ออกไปนั่งดูอยู่ห่างๆ แทน
'ลูกชิ้นปลาหมอคางดำ'
เริ่มแล้วกับงานวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ทางรัฐสภาได้จัดงานภายใต้คอนเซปต์ "กินลม ชมสภา" สู่รัฐธรรมนูญในฝัน ระหว่างวันที่ 9 และ 10 ธันวาคม ซึ่งในวันแรกบรรยากาศสดใส เหล่าข้าราชการ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างมาตั้งร้านขายของกันภายในงาน
แชร์กันใส่เครื่องแต่งตัว
ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
ถามเรื่องวัดแล้ว
เป็นผู้ใหญ่ใจดี สำหรับ อ.ชู-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายประจำรัฐบาลและประจำค่ายเพื่อไทย