ต้องเรียกว่าคึกคักเป็นอย่างยิ่งสำหรับวันสตรีสากล โดยเฉพาะ บรรดานักการเมืองหญิงในพรรคต่างๆ ออกมาแสดงความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะและนโยบายต่างๆ ไล่มาตั้งแต่ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่บอกชัดแจ้งแดงแจ๋ถึงนโยบายพรรคที่จะมีการพลิกฟื้น “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ในสมัยของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับท่องคาถาว่าด้วยความเท่าเทียมด้วย ...๐
งานนี้ชาวบ้านชาวช่องเขาก็เลยถามกันว่า แล้วทำไมไม่มี “กองทุนพัฒนาบทบาทบุรุษ” บ้าง เพราะไหนบอกว่าต้องการสร้างความเท่าเทียมเสมอภาคอย่างไร นี่ยังไม่นับรวมเรื่องการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีสำหรับผู้หญิงทุกคนอีก ชาวบ้านที่เป็นเพศชายก็ถามกัน แล้ว “มะเร็งต่อมลูกหมาก” เล่า ทำไมไม่เห็นมีพูดหรือเอ่ยอ้างถึงกันบ้าง ...๐
แล้วที่ขำอย่างยิ่งคือในการแถลงข่าวของ “อุ๊งอิ๊ง” นั้น เมื่อมีการสอบถามเรื่องนโยบายพักหนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบ เจ้าตัวก็โต้ทันควันว่าเป็น “ออริจินัล” จะลอกได้อย่างไร ซึ่ง “เศรษฐา ทวีสิน” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยถึงกับถูกใจอย่างมาก ถึงขั้นนำคลิปเรื่องดังกล่าวไปทวีตต่อ โดยระบุสั้นๆ ว่า “เฉียบ” แหม! แล้วตอนสื่อมวลชนถามเรื่องการอนุมัติงบประมาณผูกพันของคณะรัฐมนตรีที่อุ๊งอิ๊งตอบเหมือนคนไม่อ่านข่าว ไม่รู้เรื่องงบประมาณ จนทำให้ “ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยต้องมาอธิบายความแทนนั้น ทำไม “เศรษฐา” ไม่ทวีตบ้างเล่าว่าเหมือน “อาปู” เป๊ะเลย ตอนถูกจี้ถามเรื่อง “จีทูจี” ข้าวที่ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” รมว.พาณิชย์ในขณะนั้นต้องมาอธิบายอีกรอบหนึ่ง ...๐
แล้วก็ไม่พลาดอีกเช่นกันสำหรับ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยในการเสนอแพ็กเกจว่าด้วยบทบาทสตรี ซึ่งก็มีทั้งการชงตั้งกองทุนพลังหญิง, ศูนย์ Women Care และกองทุนแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย ซึ่งก็เรียกว่าน่าสนใจเฉกเช่นกัน แต่ที่ดูเหมือนได้ใจและมีโอกาสเป็นจริงมากที่สุดคง ต้องยกให้ “หนูนา” กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาที่บอกสั้นๆ แต่ได้ใจความ ในโลกความเป็นจริงที่ไม่ต้องเพ้อฝันว่าอยากให้ผู้ชายตระหนักถึง ความสำคัญของผู้หญิงที่เป็นลมใต้ปีกด้วย เหมือนกับที่ภาษาบ้านๆ เขาบอกว่า “เชื่อเมียแล้วจะเจริญ” นั่นแล ...๐
แต่ที่ขำไม่ออกบอกไม่ถูกก็คือ กรณีของพรรคก้าวไกล ที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก็ออกมา ด้วย พร้อมทั้งเปิด 10 นโยบายด้านความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งหนึ่งในนโยบายก็มีผ้าอนามัยไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย งานนี้ก็บอกได้เลยว่ากว่าจะทำได้จริงคงต้องรื้อระบบภาษีกันให้หัวหมุน เพราะการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าใดสินค้าหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่บอกจะทำก็ทำได้ เพราะ VAT นั้นเก็บภาษีจากการขายสินค้า หรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และจำหน่ายสินค้าหรือบริการ พอเสนอว่าจะยกเว้น VAT นี่จะเอาขั้นตอนไหนเล่า ...๐
แล้วที่ชาวบ้านเขาตงิดใจอย่างยิ่งก็คือ ผู้ขายฝันขายนโยบายนั้นมีประวัติโชกโชนด้านความหึงหวง และกระทำต่อเพศหญิงอย่างไม่เท่าเทียมมาแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะขนาดห้ามแม่ของลูกกลับบ้านเกิน 18.00 น. หรือ แค่ชมว่า “ไอรอนแมน” หล่อและเซ็กซี่ ยังต้องคลานเข่าไปกราบขอโทษ แล้วอย่างนี้จะเรียกร้องหาความเท่าเทียมได้อย่างไร แล้ว หากเถียงข้างๆ คูๆ ว่าเป็นสมัยอดีตที่ผ่านมานมนานแล้ว แต่อย่าลืมคำว่าสันดอนขุดได้ แต่สันดานขุดยากนะตัวเธอ ...๐
หันมาดูพี่น้อง 2 ป.กันบ้างดีกว่า เพราะหลังจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีอาการมือข้างขวาอักเสบ และแพทย์ให้งดภารกิจลงพื้นที่ต่างจังหวัด 5-7 วัน หลังแอดมิทที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า และออกจาก รพ.เมื่อวันที่ 6 มี.ค. เจ้าตัวก็ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติแล้ว และ ล่าสุดในวันที่ 10 มี.ค.นี้ “ลุงตู่” ก็ยืนยันที่จะลงพื้นที่เมืองแปดริ้วตามเดิม ซึ่งก็ไม่พลาดที่ต้องไปไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองอย่าง “หลวงพ่อโสธร” และยังมีกำหนดการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องอีก ก็หวังว่าอาการมืออักเสบจะไม่สร้างปัญหาขึ้นมาอีก ...๐
ส่วนพี่ใหญ่ป้อม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้นก็โพสต์เฟซบุ๊ก บทที่ 2 ก้าวสู่วิถีประชาธิปไตยอีกครั้ง โดยได้ตอกย้ำแก่นแกนหลักว่าด้วย “พรรคที่สนับสนุนอำนาจนิยม” ต้องพ่ายแพ้ต่อ “พรรคที่เดินในแนวทางประชาธิปไตยเสรีนิยม” ทุกครั้งไปอีกรอบ ก่อนทิ้งท้ายว่า “ให้เชื่อผมสักครั้ง” ว่าจะทำอย่างไรให้ก้าวข้ามความขัดแย้งได้ งานนี้ต้องเรียกว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือโทนี่ วู้ดซัม ไม่มีการกล่าวหรือพาดพิงถึงประเด็นนี้ของ “ลุงป้อม” เลย แต่ไพล่ไปเพ้อเจ้อในรัฐประหารปี 2549 ว่าเขาจะเปลี่ยนชื่อ OTOP เพราะมองว่ามันคือ One Thaksin One Potjaman งานนี้สงสัยสัมภเวสีจะลอยล่องนานจนทำให้ทฤษฎีสมคบคิดต้องอายม้วนกันเลยทีเดียว ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
วันนี้เห็นข่าว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดีอกดีใจกับ อันดับที่ 29 สตรีผู้ทรงอิทธิพลโลก จากจำนวน 100 คนทั่วโลก ของนิตยสาร Forbes ก็ให้รู้สึกอึนๆ มึนๆ เหมือนอากาศขมุกขมัวสลัวในกรุงเทพมหานคร ก็เพราะไม่แน่ใจว่า ในฐานะพลเมืองไทยแล้ว ควรจะจำนนกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันแล้วยินดีปรีดา หรือว่าปลงๆ เสียเถิดจะเกิดผล!!
บันทึกหน้า 4
ถึงกับว้าว! "อิ๊งค์" ทอล์กโชว์ อลังการงานสร้าง เวทีใหญ่สวยงาม จัดเต็มแสงสีเสียง ยกเว้นเรื่องเดียว "สาระ" เนื้อหาผลงาน 90 วัน รัฐบาลแพทองธาร
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่าตีปี๊บกันอย่างยิ่งกับการแถลงผลงาน 90 วัน พร้อมสานฝันอนาคตในธีม “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีจะเป็นคีย์แมนหลัก โดยถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค.นี้
บันทึกหน้า 4
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม ตรงกับ วันรัฐธรรมนูญ เป็นวันหยุดราชการ การประชุม ครม.จึงเลื่อนไปเป็นวันพุธ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2475 ถึงปัจจุบัน มีรัฐธรรมนูญแล้ว 20 ฉบับ มีรัฐประหารถึง 13 ครั้ง
บันทึกหน้า 4
” จับตาว่า ม็อบจะจุดติดหรือไม่ หลัง สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จำนวน 6 ข้อ เพื่อยกเลิกเอ็มโอยู 44 รวมถึงยังยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อสมาชิกรัฐสภา
บันทึกหน้า 4
พรุ่งนี้ 10 ธ.ค. วันรัฐธรรมนูญ บันทึกให้ระลึกรู้ว่า ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ ฉบับปัจจุบันคือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ป