พอจีนเสนอแผนสันติภาพยูเครน เซเลนสกีก็ขอพบสี จิ้นผิงทันที!

จีนเสนอ “แผนสันติภาพยูเครน” 12 ข้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในโอกาสครบรอบ 1 ปีของสงครามยูเครน ปฏิกิริยาจากทั้งรัสเซียและยูเครนก็ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นไปทางลบอย่างที่คาดกัน

สหรัฐฯต่างหากที่ทำท่าจะบอกปัดโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนอ้างว่าดูจะสาระของข้อเสนอแล้วรัสเซียดูเหมือนจะได้ประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว

แต่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกีบอกว่าเขาเห็นประโยชน์จากข้อเสนอนี้ และทันทีทันใดนั้นก็บอกว่าเขามีแผนที่จะขอพบกับผู้นำสี จิ้นผิง ของจีน 

เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอของปักกิ่งในการยุติสงครามในยูเครน

แม้ว่ารายละเอียดของข้อเสนอสันติภาพของจีนจะยังฟังดูกว้าง ๆ และไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่รัสเซียยึดดินแดนบางส่วนของตนไป

กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ต้อนรับข้อเสนอของจีน

โดยบอกว่ารัสเซียกับจีนมีความเห็นสอดคล้องต้องกันในเรื่องนี้

แต่รัฐบาลรัสเซียเองก็ย้ำว่าข้อตกลงเรื่องสันติภาพใดจะต้อง “ยอมรับความจริงใหม่ว่าด้วยเรื่องของพรมแดน”

นั่นหมายความว่ามอสโกยังยืนหยัดเรื่องจะต้องได้ดินแดนบางส่วนคืนจากยูเครน

ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ยูเครนรับไม่ได้เป็นอันขาด

ดังนั้นแม้ข้อเสนอของจีนจะเป็นการเปิดประตูสำหรับการเจรจาทางการทูต เพื่อให้มีการยุติการสู้รบ แต่หากลงรายละเอียดเรื่องเงื่อนไขของแต่ละฝ่ายเมื่อใดก็อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้อีก

กระนั้นก็ตาม ต้องถือว่าข้อเสนอของจีนเป็นการทำให้เกิดแสงสว่างเล็ก ๆ ที่ปลายอุโมงค์ในอันที่จะทำให้เกิดการหยุดยิงชั่วคราวขึ้นมาได้

แทนที่จะสู้รบกันอย่างหนักหน่วงต่อไปโดยไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด

เซเลนสกีบอกว่าข้อเสนอแผนสันติภาพของปักกิ่งส่งสัญญาณว่าจีนจะมีส่วนร่วมในการค้นหาสันติภาพ

“ผมอยากจะเชื่อจริงๆ ว่าจีนจะไม่ส่งอาวุธให้รัสเซีย” ผู้นำยูเครนบอก

หลักใหญ่ใจความของข้อเสนอจีนคือการเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพและเคารพอธิปไตยของชาติ

แต่ไม่ได้ระบุชัด ๆ ถึงเรื่อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” หรือ territorial integrity 

ซึ่งเป็นหัวใจของความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียวันนี้

เพราะยูเครนยืนยันนั่งยันว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นได้นั้นรัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน “ทั้งหมด”

นั่นรวมถึงดินแดนทางด้านตะวันออก, ทางใต้และคาบสมุทรไครเมีย

ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างจะหวังได้ยากว่ามอสโกจะยอมตามนั้นด้วย

เอกสาร 12 ประเด็นของจีนไม่ได้ระบุเจาะจงว่ารัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน 

และยังประณามการใช้ "การคว่ำบาตรฝ่ายเดียว" 

ซึ่งเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าจีนวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรของยูเครนทางตะวันตกที่คว่ำบาตรรัสเซียมาตั้งแต่เมื่อ 8 ปีก่อนตอนที่รัสเซียผนวกไครเมียและส่งทหารเข้ามาช่วยสองแควันด้านตะวันออก (Donetsk และ Luhansk) ที่ประกาศแยกตัวออกจากรัฐบาลกลางยูเครน

ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ยกย่องข้อเสนอสันติภาพของจีน “เรามีมุมมองเดียวกับปักกิ่ง” กระทรวงต่างประเทศในกรุงมอสโกระบุในถ้อยแถลง

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯแอนโทนี บลิงเคนบอกว่าอ่านข้อเสนอสันติภาพของจีนแล้วก็ยังสงสัยว่าจีนจะวางตัวเป็นคนกลางได้อย่างไรหากยังไม่ได้ออกมาประณามการที่รัสเซียรุกรานยูเครน

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาบลิงเคนกล่าวหาว่าปักกิ่งกำลังพิจารณาที่จะจัดหาอาวุธและเครื่องกระสุนให้กับรัสเซีย 

เป็นคำกล่าวอ้างที่ปักกิ่งปฏิเสธอย่างหนักแน่น 

ต่อมาอีกไม่กี่วัน สื่ออเมริกันรายงานอีกครั้งว่ารัฐบาลจีนกำลังพิจารณาส่งโดรนและกระสุนปืนใหญ่ไปยังมอสโก

เมื่อถูกถามถึงข้อเสนอสันติภาพของจีนประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวกับ ABC News ว่า: "[ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ของรัสเซีย] ปูตินปรบมือให้กับข้อเสนอนี้ แล้วมันจะเป็นผลดีได้อย่างไร?

“ผมไม่เห็นสิ่งใดในแผนการที่จะระบุว่ามีบางสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อใครอื่นนอกจากรัสเซีย” เขากล่าวเสริม

นักวิเคราะห์ตะวันตกมองว่าอ่านจากเนื้อหาของข้อเสนอ จีนก็ดูเหมือนจะยังยืนข้างรัสเซีย 

หรืออาจจะเป็นเพราะจีนต้องการหาทางลงให้กับปูตินด้วยการจัดทำข้อตกลงสันติภาพเพื่อเปิดทางให้สงครามยุติได้โดยรัสเซียไม่ต้องเสียมากไปกว่านี้

“แผนสันติภาพ” ของจีนได้รับการเปิดเผยหลังจากนายหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของประเทศเยือนกรุงมอสโก ซึ่งเขาได้พบกับปูตินและนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ต่อมาสองวันเท่านั้น ปักกิ่งก็เผยโผแผนสันติภาพนี้อย่างเอิกเกริก

หลังการพบปะของหวังอี้กับผู้นำรัสเซียสำนักข่าวซินหัวของจีนอ้างคำพูดของเขาว่า ปักกิ่งเต็มใจที่จะ "เพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง" และ "เสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์" กับมอสโก

แต่นอกเหนือจากสหรัฐฯแล้ว เจ้าหน้าที่ตะวันตกต้อนรับข้อเสนอล่าสุดอย่างมีเงื่อนไข

เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวว่า ปักกิ่ง "ไม่มีความน่าเชื่อถือมากนัก" เพราะ "ไม่สามารถประณามการรุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมาย"

 ในการแถลงข่าวที่กินเวลายาวนานเป็นพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของสงครามในกรุงเคียฟเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เซเลนสกีย้ำว่าชัยชนะ "จะรอเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" หากพันธมิตร "เคารพต่อคำสัญญาและรักษากำหนดเวลา"

นั่นหมายถึงการที่ตะวันตกจะต้องเร่งส่งอาวุธหนักมาให้ได้ทันการกับการรุกรอบใหม่ของยูเครนหลังการสิ้นสุดของหน้าหนาวและเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ที่ทั้งรัสเซียและยูเครนเรียกว่า Spring Offensive

ประเทศแรกที่ส่งรถถังหนักมาให้คือโปแลนด์

ซึ่งได้ส่งมอบรถถัง Leopard II ที่ผลิตในเยอรมันจำนวนสี่คันให้กับยูเครนแล้ว และพร้อมที่จะส่งมอบเพิ่มเติมอีกเยอรมนีรับปากจะจัดหารถถัง Leopard ทั้งหมด14 คัน โดยสเปนและแคนาดาก็ส่งรถถังมาสมทบเช่นกัน

 สหรัฐฯซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่ที่สุดของยูเครนให้คำมั่นว่าจะส่งรถถัง M1 Abrams จำนวน 31 คัน และสหราชอาณาจักรกำลังจัดหารถถัง Challenger 2 จำนวน 14 คัน

แต่ความหวังที่จะได้เครื่องบินรบเช่น F-16 จากตะวันตกคงจะยังเป็นความหวังต่อไป

ไบเดนบอกว่าขณะนี้ยูเครนยังไม่มีความจำเป็นต้องมีเครื่องบินรบสมรรถนะสูงอย่าง F-16

แต่ก็ไม่ได้บอกปัดเสียเลยทีเดียว

เพียงเน้นว่า “ณ ตอนนี้” ยังไม่มีการส่งมอบ

แต่เป็นที่รู้กันว่าประเทศตะวันตกหลายชาติกำลังผลักดันให้ส่งเครื่องบินรบไปให้ยูเครนตามที่ร้องขอ

ท่ามกลางความเสี่ยงว่าจะทำให้รัสเซียต้องตอบโต้ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์พลังทำลายล้างสูงเช่นกัน

ภาพวันนี้ - เข้าสู่ปีที่สองของสงคราม - เรากำลังเห็นการศึกที่รุนแรงขึ้นพร้อมกับการโยนหินถามทางเรื่องการเจรจาสันติภาพ

วันนี้เสียงปืนของเหล่าบรรดาแม่ทัพนายกองในสมรภูมิยังดังกว่าเสียงกระซิบกระซาบของนักการทูตในห้องแอร์เป็นไหน ๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ

แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ

เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง

พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์

ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด

เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!

อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว