ศึกยูเครนครบ 1 ปี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เยือนยูเครนกับโปแลนด์ บทความนี้นำเสนอสาระสำคัญที่ผู้นำสหรัฐกล่าวในโอกาสดังกล่าว และข้อวิพากษ์ดังนี้ ...
บททดสอบเสรีประชาธิปไตย :
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า ศึกยูเครนเป็นบททดสอบยุโรป อเมริกา นาโตและชาติประชาธิปไตยทั้งหลาย 1 ปีที่ผ่านมาพวกเราเข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังเป็นบททดสอบว่าพวกเรายึดมั่นหลักอธิปไตยหรือไม่ พวกเราต่อสู้เพื่อชีวิตเสรีหรือไม่ ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ และทั้งหมดพวกเราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 1 ปีที่ผ่านมากองทัพรัสเซียสูญเสียมากมายฟินแลนด์กับสวีเดนยื่นขอเป็นสมาชิกนาโต และนาโตเข้มแข็งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาคิดว่าสามารถใช้พลังงานเป็นเครื่องมือ แต่พวกเราเลิกพึ่งพาพลังงานฟอสซิลรัสเซียแล้ว อเมริกากับประเทศทั้งหลายไม่ยอมรับการปกครองด้วยความกลัวและใช้กำลัง ผู้นำรัสเซียกำลังเผชิญสงครามที่ตัวเขาเป็นผู้ก่อ พวกอำนาจนิยมอ่อนแอลง ฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็งขึ้น
คนโปแลนด์เข้าใจดีว่ากรุงวอร์ซอพังนาศเมื่อประชาชนลุกขึ้นสู้รัฐบาลคอมมิวนิสต์ คนโปแลนด์ทนได้ เพราะพวกเขาร่วมกันสู้ สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นที่ประเทศเบลารุส และเป็นเหตุให้ประชาชนประเทศมอลโดวาได้อยู่อย่างเสรีและเป็นสมาชิกอียู
เผด็จการจะสร้างอาณาจักร แต่ไม่อาจลบล้างใจรักเสรีของประชาชน ความปรารถนาที่จะมีชีวิตเสรี เหล่าเสรีชนจะไม่ยอมอยู่ในโลกที่ปราศจากความหวัง ในโลกที่มืดมน
กองทัพรัสเซียกับนักรบรับจ้างก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ มุ่งโจมตีพลเรือน ใช้การข่มขืนเป็นอาวุธ ทิ้งระเบิดสถานีรถไฟ โรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเด็กกำพร้า
ภายใต้คำประกาศขอยืนหยัดสู้เคียงข้างยูเครน นาโตรวมตัวเข้มแข็ง มีคำถามว่ายูเครนจะชนะศึกได้อย่างไร กำลังสู้ศึกเพื่ออนาคตลูกหลานใคร
นาโตจะสนับสนุนไม่เปลี่ยนแปลง :
นับจากนี้สหรัฐกับนาโตจะสนับสนุนยูเครนต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง ชาติประชาธิปไตยทั่วโลกจะลุกขึ้นปกป้องเสรีภาพของตน ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้และสืบไป
ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้กล่าวว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะกำหนดชีวิตความเป็นอยู่ของลูกหลาน ไม่เฉพาะลูกคนยูเครนเท่านั้น แต่รวมถึงพวกเราทั้งหมด
สหรัฐกับอีกกว่า 50 ประเทศร่วมกันส่งเสบียงอาวุธต่างๆ แก่ยูเครน ตั้งแต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ปืนใหญ่ กระสุน รถถังและรถหุ้มเกราะ สหภาพยุโรปยืนยันช่วยยูเครนทุกด้าน รวมทั้งผู้อพยพลี้ภัย เฉพาะโปแลนด์รับผู้ลี้ภัยยูเครนถึง 1.5 ล้านคน
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า ความจริงคือสหรัฐต้องการโปแลนด์กับนาโตมากเท่าที่นาโตต้องการสหรัฐ ยุโรปจะต้องมั่นคงนี่เป็นหลักพื้นฐาน สหรัฐขอให้คำมั่นแก่พันธมิตรที่จะปกป้องซึ่งกันและกัน อีกไม่นานจะมีศูนย์บัญชาการสหรัฐที่โปแลนด์ (ปัจจุบันมีทหารอเมริกัน 11,000 นายประจำการที่นี่) จะช่วยสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เพื่อเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของโปแลนด์
ยังมีความท้าทายอีกมากที่ต้องเผชิญ ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเราจะฝ่าไปด้วยกัน พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นตามความท้าทายที่เผชิญร่วมกัน
สู้เพื่อเสรีภาพ :
สหรัฐกับชาติยุโรปไม่คิดควบคุมหรือทำลายรัสเซีย ไม่ได้วางแผนโจมตีรัสเซีย และไม่เป็นศัตรูกับพลเมืองรัสเซียที่ต้องการอยู่อย่างสันติกับเพื่อนบ้าน แต่ประธานาธิบดีปูตินเลือกทำสงคราม รัสเซียสามารถยุติศึกง่ายๆ ด้วยการหยุดรุกรานยูเครน
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งพวกเดโมแครตกับรีพับลิกันของสหรัฐต่างช่วยกันสู้เพื่อเสรีภาพ นี่คือคนอเมริกันและสิ่งที่คนอเมริกันทำ
ปูตินพยายามให้โลกอดอยาก ปิดกั้นท่าเรือไม่ให้ยูเครนส่งออกธัญพืช ซ้ำเติมวิกฤตอาหารโลก ทำร้ายพวกชาติกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา
พวกเรามั่นใจว่าสุดท้ายรัสเซียต้องจ่ายราคาต่อสิ่งที่กระทำ พวกเราจะคว่ำบาตรต่อไปและจะเพิ่มมาตรการใหม่ด้วย รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อสงครามนี้
พวกเราขอให้คำมั่นสัญญาต่อคนยูเครนและอนาคตยูเครนว่าประเทศยูเครนจะมีเสรี เป็นไท และเป็นประชาธิปไตย อันเป็นความฝันของยูเครนมากว่า 30 ปี ความฝันที่นำสู่การปฏิวัติส้ม (Orange Revolution – เหตุการณ์ประชาชนส่วนหนึ่งลุกฮือขับไล่ผู้นำประเทศที่รัสเซียให้การสนับสนุนเมื่อปี 2004 ฝ่ายประชาธิปไตยถือว่าเป็นชัยชนะของตน)
สหรัฐกับพันธมิตรจะใช้ความเข้มแข็งและศักยภาพที่มีอยู่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกที่ให้เขามีสุขภาพดี กินดีอยู่ดีขึ้น ปกป้องโลก สร้างสันติและความมั่นคง ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเคารพ นี่คือความรับผิดชอบของรัฐบาลชาติประชาธิปไตยที่มีต่อประชาชนของเขา
เสรีภาพคือเป้าหมายอันสูงส่งที่สุด ไม่มีสิ่งใดเป็นแรงบันดาลใจมากกว่านี้ คนอเมริกันรู้ดีและพวกคุณก็รู้ เป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำให้สำเร็จเพื่อลูกหลานของเรา
ข้อวิพากษ์ยูเครนจะชนะศึกได้อย่างไร :
หนึ่งในประเด็นที่ถกกันมากในหมู่นาโตคือ จะส่งรถถังหลักที่ชาติตะวันตกผลิตให้ยูเครนอย่างไร ที่ผ่านมายูเครนใช้รถถังรุ่นเก่ารัสเซียและสูญเสียไม่น้อยแล้ว ในขณะที่กองทัพรัสเซียมีรถถังรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กองทัพยูเครนรบด้วยอาวุธที่ด้อยกว่า ล้าสมัยกว่า ไม่แปลกที่ผู้นำยูเครนร้องขอรถถังซ้ำแล้วซ้ำอีก
เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า M1 Abrams รถถังประจัญบานหลักของสหรัฐมีชื่อเสียงก้องโลก ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วหลายแห่ง ข้อมูลจาก The Military Balance 2022 ระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐมีรถถัง M1 ในประจำการ 2,645 คัน และมีในคลังสำรองอีก 3,450 คัน แต่จนบัดนี้ยังไม่ชัดว่าจะส่งมอบรถถังนี้แก่ยูเครน ซ้ำยังเคยมีข่าวจะส่งมอบรถถังที่ผลิตใหม่ ทำไมต้องผลิตใหม่ในเมื่อในคลังสำรองมีกว่า 3 พันคัน
แค่รถถังไม่กี่ร้อยคันยังเกี่ยงกัน นาโตน่าจะพูดว่ากำลังรีบส่งไปช่วยเป็นพันคัน เพราะใกล้จะชนะรัสเซียแล้ว ส่งรถถังเข้าไปมากๆ เผด็จศึกรัสเซียให้แล้วเสร็จ
Colin Kahl รมช.กลาโหมสหรัฐพูดถูกว่าเหตุที่ไม่อยากส่งรถถัง M1 Abrams ให้ ยูเครนเพราะ “ยูเครนซ่อมไม่ได้ บำรุงรักษาไม่เป็น ไม่สามารถบริหารจัดการรถถังแบบนี้” เรื่องที่ควรเข้าใจคือรถถังประจัญบานที่เป็นอาวุธไฮเทค เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่มีกลไกซับซ้อน จำต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการตรวจซ่อม ไม่สามารถส่งอู่ซ่อมรถยนต์ ถามว่ายูเครนมีช่างฝีมือเหล่านี้หรือไม่ ทั้งพลประจำการรถถังกับช่างซ่อมบำรุงต้องฝึกกี่เดือนจึงจะมีฝีมือมากพอ
ประธานาธิบดีไบเดนสดุดียูเครนที่ยืนมั่นหลังรบแล้ว 1 ปี สหรัฐกับพวกร่วมใจเคียงข้างยูเครน จะสนับสนุนต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประเด็นรถถัง M1 Abrams ทำให้เกิดข้อสงสัย คำว่า “สนับสนุน” หมายถึงอย่างไรกันแน่ เป็นที่มาของคำถามว่ายูเครนจะชนะศึกได้อย่างไร การส่งอาวุธล่าช้าจะเป็นเหตุให้ยูเครนพ่ายศึกหรือไม่ ต้องบาดเจ็บล้มตายมากขึ้นอีกหรือไม่ ควรตีความหรือไม่ว่ารัฐบาลสหรัฐหวังให้ยูเครนสู้ศึกต่อไปให้นานที่สุดโดยไม่คำนึงว่ายูเครนจะชนะหรือไม่
พลังการรบที่น้อยกว่า อาวุธที่ด้อยกว่าของยูเครนจะเป็นประเด็นให้พูดอีกนาน น่าเห็นใจกองทัพยูเครนที่ต้องรบกับกองทัพรัสเซียที่เหนือกว่า ในขณะที่สหรัฐผู้เป็นมหาอำนาจทางทหารอันดับ 1 ของโลก มีรถถังประจัญบานหลายพันคัน แต่ส่งความช่วยเหลืออย่างจำกัด ทหารยูเครนต้องรบด้วยอาวุธที่น้อยกว่าและด้อยกว่าเพื่อปกป้องเสรีประชาธิปไตยตะวันตก ยูเครนกำลังให้คนต่างชาติอยู่ดีกินดีมีความสุขในขณะที่บ้านเมืองตัวเองพังพินาศ
งบประมาณที่ส่งไปช่วยยูเครนเป็นอีกประเด็นที่ควรติดตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่ากองทัพยูเครนรบต่อได้ด้วยอาวุธเครื่องกระสุนและเสบียงจากฝ่ายตะวันตก ทั้งหมดคิดเป็นตัวเงิน หากสงครามยืดเยื้อพันธมิตรยินดีจ่ายไหม ผลกระทบทางเศรษฐกิจการเมืองอันเนื่องจากสงครามเป็นอีกประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด บางประเทศระบบเศรษฐกิจเข้มแข็งทนได้ดี แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่เป็นเช่นนั้น สงครามเป็น “ของแพง” ที่ผู้เข้าร่วมต้องจ่าย ทั้งหมดที่กล่าวล้วนเป็นปัจจัยต่อการแพ้ชนะ และควรคิดให้ลึกซึ้ง “อย่างไรเรียกว่าชนะ”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นโยบายต่างประเทศจีน2024จากมุมมองสหรัฐ
เป้าหมายนโยบายต่างประเทศคือการฟื้นฟูชาติจีนครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะใช้มุมมองจีนหรือสหรัฐ ทั้งคู่มองว่าต่างเป็นคู่แข่งเชิงยุทธศาสตร์และน่าจะเป็นปรปักษ์ในที่สุด
ยุทธศาสตร์แห่งชาติจีน2024จากมุมมองสหรัฐ
กำหนดเป้าหมาย ‘มีกองทัพเข้มแข็งระดับโลก เป็นผู้นำทบทวนระเบียบโลก’ ในการนี้จีนต้องเผชิญหน้าสหรัฐผู้นำระเบียบโลกปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปฐมบทอาหรับสปริงซีเรีย
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจสังคมเป็นต้นเหตุสำคัญของอาหรับสปริงซีเรีย รัฐบาลต่างชาติที่หวังล้มอัสซาดพยายามอยู่นานหลายปี รอจนวาระและโอกาสเป็นใจ
จากฮาเฟซ อัลอัสซาดสู่จุดเริ่มอาหรับสปริงซีเรีย
อำนาจการปกครองเป็นของคนส่วนน้อย คนกลุ่มนี้แหละที่ได้รับประโยชน์ ทิ้งให้ประชาชนจำนวนมากอยู่ตามมีตามเกิด อำนาจนี้เปลี่ยนมือไปมาจนมาถึงระบอบอัสซาดที่อยู่ได้ 2 ชั่วคน คือพ่อกับลูก
จากสถาปนาประเทศซีเรียสู่พรรคบาธ
เรื่องราวของซีเรียเต็มไปด้วยการแข่งขันช่วงชิงทั้งภายในกับอำนาจนอกประเทศ ความขัดแย้งภายในหลายมิติ เป็นอีกบทเรียนแก่นานาประเทศ
2024สงครามกลางเมืองซีเรียระอุอีกครั้ง
สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาเกือบ 14 ปียังไม่จบ สาเหตุหนึ่งเพราะมีรัฐบาลต่างชาติสนับสนุนฝ่ายต่อต้านกับกลุ่มก่อการร้าย HTS เป็นปรากฏการณ์ล่าสุด