อีกหลายปีข้างหน้าเมื่อหวนมองสงครามยูเครนน่าจะได้คำตอบว่าเป็นเพียงฉากหนึ่งของการช่วงชิงระหว่างมหาอำนาจ เหมือนนิยายเรื่องเก่าที่นำมาแสดงใหม่ สหรัฐกับรัสเซียยังคงอยู่ ส่วนยูเครนกลายเป็นซาก
ตั้งแต่เริ่มรบกัน รัฐบาลสหรัฐกับพวกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการอำนาจนิยม ยูเครนเป็นเมืองหน้าด่านของสมรภูมิ แทบทุกเวทีนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskiy) ผู้นำยูเครนจะประกาศสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตย นักการเมืองกับนักวิชาการตะวันตกหลายคนแสดงความคิดเห็นสนับสนุนเซเลนสกีอย่างแข็งขัน วิพากษ์ความเป็นอำนาจนิยมของรัฐบาลรัสเซีย
เมื่อยูเครนเป็นฝ่ายได้เปรียบ สามารถทำลายหน่วยรบรัสเซีย สื่อตะวันตกจะเสนอข่าวเชิดชูสดุดีกองทัพยูเครน ความกล้าหาญและเสียสละ หากกองทัพยูเครนสูญเสียจะประโคมความโหดเหี้ยมเลวร้ายของกองทัพรัสเซีย ความไร้มนุษยธรรม
เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในที่ประชุมสุดยอดอียู เหล่าผู้นำอียูเห็นพ้องที่จะสนับสนุนยูเครนรบกับรัสเซียต่อไป เอมมานูแอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า พวกผู้นำอียูจะสนับสนุนจนกว่าจะชนะศึก เซเลนสกีย้ำเป็นการรบเพื่อปกป้องเสรีภาพของอียูทั้งมวล
สงครามฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม:
รัฐบาลไบเดนชี้ว่าทุกวันนี้อเมริกายังเป็นผู้นำโลก (world’s leading power) อยู่เหนือชาติอื่นในด้านต่างๆ เพราะสหรัฐมีรากฐานค่านิยมที่เหนือกว่า กองทัพอเมริกันยังไร้ผู้เทียมทาน การร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนยิ่งเพิ่มขยายพลังอำนาจ
ด้วยการที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกประกาศว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับอำนาจนิยม เป็นอีกเหตุผลที่แพ้ไม่ได้ รัฐบาลไบเดนจะต้องรับความรับผิดชอบอย่างไรถ้า “ฝ่ายประชาธิปไตยรบแพ้พวกอำนาจนิยม” อย่าลืมสหรัฐมักอ้างว่าตนเป็นผู้นำโลกเสรี
แต่ไหนแต่ไรรัฐบาลสหรัฐยึดถือว่าตนเป็นผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ความเป็นประชาธิปไตยของตนลดน้อยลงทุกที มีคำถามว่าสหรัฐเป็นประชาธิปไตยมากแค่ไหน ไบเดนพูดเองว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เป็นกึ่งเผด็จการ (semi-fascism) กลุ่มผู้จงรักภักดีต่อทรัมป์เป็นพวกสุดโต่ง (an extremism-ไม่ใช่พวกประชาธิปไตย) มีผลวิจัยที่บ่งชี้ว่าความเป็นประชาธิปไตยของอเมริกาลดน้อยถอยลงทุกที
ถ้าศึกนี้สหรัฐเป็นฝ่ายถอยก่อนจะมีคำพูดว่า “ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้” เรื่องนี้จะโทษคนอื่นไม่ได้เพราะรัฐบาลสหรัฐกับพวกชูเรื่องนี้เอง ทำไมอเมริกาแพ้ไม่ได้ เคยแพ้มาแล้วหลายครั้ง เช่น สงครามเวียดนาม
มองจากมุมรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินครองอำนาจมานาน ค่อยๆ ฟื้นฟูรัสเซียให้ก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ศึกนี้เป็นศึกใหญ่สุดเกี่ยวพันรอบด้านไม่ว่าจะมองที่ตัวเอง มองที่รัฐบาล มองที่ประเทศหรือระบบโลก ไม่ว่ารัฐบาลปูตินเป็นอำนาจนิยมหรือไม่ ปูตินไม่คิดยอมแพ้และคิดว่าตนมีโอกาสชนะด้วยซ้ำ
ตัวอย่างการจัดระบบโลกของสหรัฐ:
ศึกยูเครนมีความสำคัญเพราะสัมพันธ์กับการจัดระเบียบโลกของสหรัฐ เมื่อสงครามดำเนินไปฝ่ายรัสเซียโต้กลับเป็นฝ่ายรุกในการจัดระเบียบโลกด้วย เกิดการกระชับอำนาจในกลุ่ม พวกเดียวกัน เน้นค้าขายกันเองตามยุทธศาสตร์ปิดล้อมที่สหรัฐยึดถือเรื่อยมา
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Paul Sankey จาก Sankey Research ชี้ว่า มาตรการกดราคาน้ำมันรัสเซียไม่ได้ผลเลย นับจาก 5 ธันวา.ปีที่แล้ว กลุ่ม G7 อียู และออสเตรเลียร่วมกันกดราคาน้ำมันรัสเซียไม่ให้เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หวังสกัดไม่ให้รัสเซียนำกำไรที่ได้ไปใช้ในสงคราม แต่บางประเทศอย่างอินเดีย จีนยังคงซื้อน้ำมันรัสเซียต่อเนื่องและมากขึ้น จีนขายน้ำมันดิบแก่มาเลเซียวันละ 1.5 ล้านบาร์เรล และมาเลเซียก็นำไปขายต่ออีกทอด เป็นตัวอย่างชี้ว่าทำไมมาตรการไม่ได้ผล
Paul Sankey เป็นรายล่าสุดที่ออกมาพูดว่ามาตรการคว่ำบาตรพลังงานไม่ได้ผล เป็นข้อสรุปเดิมๆ เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน คำถามคือ ทำไมรัฐบาลไบเดนยังพยายามบังคับใช้ต่อไป มีหลายเหตุผลคือ
1) สหรัฐสามารถขายน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติได้มากขึ้น
ผลจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้สหรัฐผลิตก๊าซธรรมชาติเหลือเฟือแต่ส่งออกไม่ได้ เพราะต้นทุนการขนส่งสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยเฉพาะเทียบกับการขนก๊าซสู่ยุโรปผ่านระบบท่อของรัสเซีย สงครามยูเครนทำให้รัฐบาลสหรัฐมีข้ออ้างว่ายุโรปต้องเลิกซื้อพลังงานรัสเซียและให้ไปซื้อจากประเทศอื่นๆ ในการนี้คือซื้อจากสหรัฐด้วยนั่นเอง มีข้อมูลชัดเจนว่าตอนนี้ยุโรปซื้อก๊าซสหรัฐแม้ราคาจะแพงกว่าเป็นเท่าตัว
2) ยุทธศาสตร์ควบคุมประเทศด้วยพลังงาน
ทุกคนรู้ดีว่าพลังงานเป็นเสมือนเลือดหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจสังคม ยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลสหรัฐใช้คือต้องการให้พันธมิตร มิตรประเทศของตนซื้อใช้พลังงานด้วยกันเอง (ห้ามซื้อใช้ของศัตรู) แม้ระบบนี้ยังไม่สมบูรณ์แต่เป็นความพยายามที่รัฐบาลสหรัฐใช้ควบคุมประเทศต่างๆ (ใครแตกแถวจะมีปัญหาซื้อพลังงานยาก)
3) รักษาเปโตรดอลลาร์
อีกเหตุผลคือเพื่อรักษาการใช้สกุลเงินดอลลาร์ที่นับวันจะสั่นคลอน การควบคุมผู้ซื้อผู้ขายนี่แหละคือวิธีการรักษาเปโตรดอลลาร์
ดังนั้น แม้ว่าสงครามยูเครนจะทำให้เงินเฟ้อพุ่ง สินค้าขึ้นราคา รัฐบาลสหรัฐยืนยันคว่ำบาตรพลังงานรัสเซียต่อไป ปล่อยให้ประชากรโลกหลายร้อยล้านคนทุกข์ยาก การจัดระเบียบโลกนี่แหละที่กินเวลาและกระทบแทบทุกประเทศทั่วโลก
ยูเครนยิ่งรบยิ่งพัง:
เมื่อประเมินการศึกยูเครนครบ 1 ปี มีข่าวที่ชี้ว่ารัสเซียรุกกินดินแดน ข่าวการสูญเสียของรัสเซีย สื่อตะวันตกมักโหมข่าวความอ่อนแอของกองทัพรัสเซีย พยายามชี้นำให้คิดว่ารัสเซียจะแพ้ ในขณะที่บางสื่อนำเสนอการถอยร่นของฝ่ายยูเครน คงไม่เกินไปถ้าจะกล่าวว่าผลัดกันรุก ผลัดกันรับ แต่โดยสรุปแล้วยูเครนเป็นฝ่ายตั้งรับ สูญเสียดินแดนมากขึ้นตามลำดับ แม้รัฐบาลสหรัฐกับพวกยังยืนยันสนับสนุนยูเครนต่อไป จัดส่งอาวุธร้ายแรงมากขึ้นตามลำดับ
ในอีกด้านหนึ่ง ขึ้นกับแผนรัสเซียว่าจะเปิดฉากรุกหนักหรือต้องการทำศึกยืดเยื้อลากยาว หรือเป็นเพราะศักยภาพกองทัพรัสเซียมีเท่านั้น นาโตที่ช่วยอยู่เบื้องหลังต้านทานรัสเซียอย่างแข็งขัน อีกทั้งรัสเซียสูญเสียกำลังพลไม่น้อย สูญเสียทางเศรษฐกิจมากเช่นกัน เมื่อการศึกครบ 1 ปีจึงดูเหมือนว่าอาจต้องรบต่ออีกเป็นปีๆ
ยูเครนยิ่งรบยิ่งพัง และพังเศรษฐกิจสังคมบางประเทศ สหรัฐทนได้ดีแต่บางประเทศไม่ใช่ เกิดคำถามว่าพันธมิตรอเมริกาบางประเทศจะทนอยู่ในสภาพเงินเฟ้อพุ่ง สินค้าขึ้นราคา แพงทั้งแผ่นดินได้อีกนานแค่ไหน
3 ทศวรรษนับจากประกาศเอกราชแยกตัวออกจากโซเวียตรัสเซีย บัดนี้ยูเครนกำลังเผชิญภัยความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่สุด รัฐบาลเซเลนสกีที่ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็นฮีโร่ของฝ่ายประชาธิปไตย แต่วิเคราะห์แล้วอนาคตไม่แน่นอน แผ่นดินยูเครนถูกรุกรานและแบ่งออกไป ระบบเศรษฐกิจพังทลาย เสียหายมหาศาล นับวันประเทศมีแต่จะกลายเป็นเศษซาก คนตายทุกวัน ล่าสุดชาวยูเครน 15.3 ล้านคน กับอีกกว่า 4 ล้านคนที่ลี้ภัยในต่างแดน อยู่ได้ด้วยอาหาร สิ่งของบรรเทาทุกข์จากสหประชาชาติและองค์กรอื่นๆ
ประชาชนยูเครนหลายสิบล้านคนกำลังทุกข์ยากเพื่อประชาธิปไตยยุโรป เพื่อการอยู่ดีมีสุขของคนต่างชาติ หวังว่ารัฐบาลชาติประชาธิปไตยจะไม่ลืมเรื่องนี้ ตอบแทนคนยูเครนสมกับราคาที่พวกเขาจ่ายไป
อีกหลายปีข้างหน้าเมื่อหวนมองสงครามยูเครนอีกครั้ง น่าจะได้คำตอบว่ายูเครนเป็นแค่สมรภูมิหนึ่งของฝ่ายสหรัฐกับรัสเซีย เป็นเพียงฉากหนึ่งของการช่วงชิงแข่งขันระหว่างมหาอำนาจเท่านั้น เหมือนนิยายเรื่องเก่าที่นำมาแสดงใหม่ สหรัฐกับรัสเซียยังคงอยู่ ส่วนยูเครนเหลือแต่ซาก
นี่ยังไม่เอ่ยถึงประชากรโลกหลายร้อยล้านคนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการคว่ำบาตรที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกกระทำต่อรัสเซีย เงินเฟ้อพุ่ง สินค้าขึ้นราคา แพงทั้งแผ่นดิน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เส้นทางสายไหมตะวันออกแห่งศตวรรษที่21
BRI จะเป็นแค่การพัฒนาร่วมหรือเป็นยุทธศาสตร์ครองโลกของจีนเป็นที่ถกแถลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนานาชาติเฝ้าติดตาม จริงหรือเท็จกาลเวลาจะให้คำตอบ
ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู2024 (2)
เนทันยาฮูย้ำว่า อิสราเอลหวังอยู่ร่วมกับนานาชาติโดยสันติ แต่กระแสโลกต่อต้านอิสราเอลส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของอิสราเอล นโยบายกับความจริงจึงย้อนแย้ง
ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู 2024 (1)
บัดนี้สถานการณ์ชี้ชัดแล้วว่าอิสราเอลกำลังจัดการฮิซบุลเลาะห์ต่อจากฮามาส ทำลายอิหร่านกับสมุนให้เสียหายหนัก
เลือกตั้งสหรัฐ2024เลือกสังคมนิยมหรือฟาสซิสต์
ทรัมป์ชี้ว่าแฮร์ริสเป็นพวกสังคมนิยม ส่วนแฮร์ริสชี้ว่าทรัมป์เป็นเผด็จการ สหรัฐกำลังเข้าสู่การเลือกระหว่าง “สังคมนิยม” กับ “ฟาสซิสต์”
ทรัมป์จะเป็นเผด็จการหากชนะอีกสมัย?
หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยและปกครองแบบเผด็จการ ก็ต้องถือว่าเป็นเผด็จการที่มาจากความต้องการของคนอเมริกันตามระบอบประชาธิปไตยสหรัฐ
ทรัมป์คุกคามโลกเสรีประชาธิปไตย?
การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน อาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโต ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่