ต้องกลับมาคิดใหม่ครับ
เดิมทีถ้าจะให้คะแนนว่า วันพุธ พฤหัสบดี ที่ผ่านมาใครอภิปรายและมีข้อมูลเจ๋งสุด
ตอบแบบไม่ต้องคิดเยอะ...ไม่มี
ยากครับ!
เพราะแย่งกันหาเสียงมากกว่าที่จะทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๒
แต่...เจอจนได้
คนที่มีข้อมูลเจ๋งสุด ไม่ใช่ รังสิมันต์ โรม ครับ
แต่เป็น "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์"
อ้าว..."เฮียชู" ไม่ใช่ส.ส. แล้วจะมีคะแนนได้ไง
ให้ๆไปเถอะครับ เพราะข้อมูลที่ รังสิมันต์ โรม อภิปราย "เฮียชู" เป็นคนป้อนให้ล้วนๆ ทุกตัวอักษร
เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เขาก็บอกชัดเจนว่า มีส่วนร่วมกับการอภิปรายในสภาด้วย
โพสต์ไว้แบบนี้ครับ...
...จีนเทาเข้าสภา
ข้อมูล “จีนเทา” ที่ผมไม่ได้พูดนอกสภา ได้ถูกส่งต่อให้คุณโรมใช้ในการอภิปราย
“หยู ซินฉี” คือกรณีแอบอ้าง และอวดอ้าง ความใกล้ชิดสถาบันที่เทิดทูนของคนไทย ไปใช้ในการหลอกลวงคนจีนเข้ามาในประเทศไทย
จัดตั้งสมาคมเก๊ อ้างไปถึงความสัมพันธ์กับเบื้องสูง พอผมพูดเรื่องจีนเทา ขนทั้งป้ายและสำนักงานหนีทันที
จีนไม่มีระบบกษัตริย์ ไม่รู้ศาสนา แต่สิ่งหนึ่งที่จีนเทารู้ คือ หากจะทำอะไรที่ผิดกฎหมายเทาๆ ในไทย ต้องรู้จัก ทหาร ตำรวจ
หยู ซินฉี จึงอวดอ้างสรรพคุณสารพัด แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมนานากับบรรดาผู้ใหญ่ในวงการ ลามไปถึงพระสงฆ์องค์เจ้าก็ไม่เว้น
อิทธิฤทธิ์ของจีนเทาลามไปทุกที่
การอภิปรายของคุณโรมทำได้ดีต้องขอชื่นชม
เพราะเป็นผู้ปกป้องสถาบันไม่ให้เป็นเครื่องมือของสารพัดชาติเทา
ในฐานะรุ่นพี่ ทั้งธรรมศาสตร์ สภา และคุก ขอให้ทำเพื่อประชาชนต่อไป
พี่ขอสู้อยู่นอกสภาในภาคประชาชน...
รุ่งขึ้น คือวานนี้ (๑๗ กุมภาพันธ์) ตำรวจฉับไวปานกามนิตหนุ่ม บุกจับ “หยู ซิน ฉี” เป็นที่เรียบร้อย
"บิ๊กโจ๊ก" ช่วงนี้กำลังขึ้นหม้อ ฉวยงานไหนก็ดังไปหมด
จับ “หยู ซิน ฉี” ก็เหมือนกับ บทบาทก็ตกกับ "บิ๊กโจ๊ก" เหมือนเดิม
แต่ก็น่สนใจตรงคำให้สัมภาษณ์ของ "บิ๊กโจ๊ก" หลังจับ “หยู ซิน ฉี” นี่แหละครับ
...การแอบอ้างเบื้องสูง จะเป็นวิธีการซ้ำเดิมๆ มีการถ่ายรูปแต่งเครื่องแบบยศนายพล ต้องเข้าใจว่าประเพณีคนจีนถ้าตั้งสมาคมได้เป็นเรื่องที่มีศักดิ์ศรีมาก เป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ
สังเกตคนจีนเมื่อเข้ามาในประเทศจะมีการตั้งสมาคม แล้วจะนำสมาคมที่ตั้งไปหลอกคนจีนอีกครั้งเพื่อชักชวนเข้ามาประเทศไทย
โดยการตั้งสมาคมจะเชิญผู้ใหญ่แล้วถ่ายรูปร่วม ภาพของผมยังมี ผู้ใหญ่ที่ถ่ายรูปด้วยก็ไม่รู้เรื่อง
จากนั้นเขาจะนำไปสร้างโปร์ไฟล์นำไปหลอกคนจีน....
ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ทุนจีนสีเทา เล่นใหญ่แอบอ้างเบื้่องสูง
แล้วปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ที่แน่ๆก่อน “หยู ซิน ฉี” ต้องเจอกับ "บิ๊กโจ๊ก" ตัวเป็นๆมาก่อน เพราะ รองผบ.ตร. บอกเองว่า พวกนี้ถ่ายรูปกับตนเองด้วย
วันนั้น "บิ๊กโจ๊ก" คงอาจไม่รู้ว่า “หยู ซิน ฉี” ตั้งสมาคมขึ้นมาทำอะไร แอบอ้างเบื้องสูงหรือเปล่า
แต่การอภิปรายของ "รังสิมันต์ โรม" ใช้ลักษณะตีวัวกระทบคราด
คือตี “หยู ซิน ฉี” แต่กระทบไปถึงรัฐบาล รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
เป็นวิธีเดิมๆที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ใช้อ้างว่าเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
แต่เจตนาซ่อนเร้น
ใช่ครับในแง่ความมั่นคงรัฐบาลต้องรู้เรื่องนี้
มีกรณีเดียวที่รัฐบาลไม่มีข้อมูลคือ เจ้าหน้ารัฐปิดบัง นักการเมืองมีส่วนร่วมรู้เห็นกับ “หยู ซิน ฉี”
ฉะนั้นต้องทำความจริงต้องปรากฎ
ที่สำคัญ อย่าเข้าใจผิดเหมารวมว่า "ตู้ ห่าว" กับ “หยู ซิน ฉี” เป็นพวกเดียวกัน และพัวพันคนในรัฐบาลเหมือนกัน
เพราะการอภิปรายในสภาของฝ่ายค้าน จับโยงจนสร้างความเข้าใจผิดได้ว่า แก๊งทุนจีนทุกแก๊งเป็นพวกรัฐบาล
แก๊งจีนในประเทศไทยมีเยอะครับ
ใช่ว่าเพิ่งจะมีในรัฐบาลประยุทธ์
พวกนี้เข้ามาหากินในไทยหลากหลายรูปแบบนานหลายสิบปีแล้ว ที่ติดคุกไปแล้วก็มีเยอะแยะ
ที่ยังรอดบางส่วนกบดาน
บางส่วนหนีกลับจีนไปแล้ว
ฉะนั้นวันข้างหน้า หากพรรคเพื่อไทย และก้าวไกล เป็นรัฐบาล ต้องระวัง ทุนจีนสีเทา โผล่มาอีกแน่ ถึงวันนั้นอาจมีหลักฐานว่าพันกับรัฐบาลก็เป็นได้ ใครจะไปรู้
ก็เหมือนการอภิปรายเรื่องคอร์รัปชั่นนั่นแหละครับ
ที่ฝ่ายค้านโจมตีว่า ๘ ปีรัฐบาลประยุทธ์มีแต่คอร์รัปชั่น มีการโกงกันมาที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่มียุคไหนโกงมากกว่านี้อีกแล้ว
หาเสียงเลือกตั้งจะพูดอย่างไรก็ได้ครับ ไม่ต้องมีหลักฐาน ไม่ต้องเอาข้อเท็จจริงมาแสดง
ประชาชนฟังแล้วเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็แล้วไป
แต่ในแง่ความรับผิดชอบต่อประชาชน สอบตกกันหมด
ย้ำอีกทีเป็นครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว รัฐบาลเพื่อไทย คอร์รัปชั่นกันมโหฬาร
นายกฯหนี
รัฐมนตรีติดคุก
ข้าราชการหมดอิสรภาพกันระนาว
ขณะที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่องคอร์รัปชั่น ได้นึกภาพเหล่านี้บ้างหรือเปล่า
หรือประเทศไทย ต้องทนอยู่กับนักการเมืองคอร์รัปชั่นที่ไร้จิตสำนึกเหล่านี้ไปเรื่อยๆ
วันหนึ่งเป็นรัฐบาลพากันกินอย่างมูมมาม
อีกวันเป็นฝ่ายค้านตื่นขึ้นมาบอกประชาชนว่าขอเป็นผู้ปราบโกง
วนเวียนอยู่แบบนี้ ไม่มีที่จบสิ้น
ที่จะสิ้นไปเสียก่อนคงจะเป็น "ชาติ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนีคุก-ตั้งบ่อน
ก็ยังเงียบๆ อยู่ครับ... ครบกำหนด ๑๕ วัน บรรดาหมอๆ โรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ ต้องส่งเอกสารหลักฐานการรักษาตัว "นักโทษเทวดา" ให้แก่แพทยสภาแล้ว
ปั้น 'จีดีพีเลือด'
เชื่อเถอะครับ... ที่รัฐบาลพ่อเลี้ยงประกาศจะปั้นจีดีพีให้โตพรวดๆ นั้น ทำได้จริง
กาสิโนต้องเร่งด่วน!
ไม่รู้จะแปลความอย่างไรครับ... นอกจากรัฐบาลลักไก่! ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาสะกิดรัฐบาลเอากลับไปทำเสียให้ถูกต้อง ให้มันครบวงจรจริงๆ
จะล้มทั้งกระดาน
น่าเห็นใจครับ... วานนี้ (๑๒ มกราคม) หมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ "พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์" รูดซิปปากแน่น ใส่กุญแจอีก ๑๔ ชั้น ไม่บอกนักข่าวว่าส่งเอกสาร หลักฐาน การรักษาตัว "นักโทษเทวดา" ไปให้ คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา แล้วหรือยัง
อย่าปล่อยให้เหลิง
นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ
เจอตอ ชั้น ๑๔
งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์