มอเตอร์เวย์สายใหม่

คงต้องบอกว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวของไทยเราเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการรองรับการเดินทางด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งในอนาคต ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการโครงการที่สำคัญเพื่อการเดินทางที่สะดวกสะบาย จะเห็นได้ว่าขณะนี้เกิดปัญหาการจราจรอย่างรุนแรง ทั้งช่วงเวลาเร่งด่วน เช้าและเย็น โดยทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเทศกาลและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง จึงเร่งเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง

เริ่มจากความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 (M9) สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอนทางยกระดับบางขุนเทียน-บางบัวทอง ระยะทาง 35.85 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 56,035 ล้านบาท

ได้ผ่านความเห็นจากคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบหลักการของโครงการภายในปีนี้

โดยหลังจากนั้น ทล.จะตั้งคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 เพื่อดำเนินการจัดทำร่างเอกสารประกาศเชิญชวนคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (RFP) คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ในปี 2566 ได้ตัวผู้ชนะประมูลในปี 2567 จากนั้นจะลงนามสัญญาและดำเนินการก่อสร้างในปี 2568 เปิดให้บริการประมาณปี 2571 ส่วนรูปแบบการลงทุนโครงการฯ จะใช้รูปแบบการร่วมลงทุน PPP Netcost โดยเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างงานระบบและจัดเก็บค่าผ่านทาง (O&M) ขณะที่ภาครัฐจะเป็นผู้ดำเนินการเวนคืนที่ดิน อายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี

โครงการนี้จะก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ตามแนวถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 2 ด้านตะวันตก จุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมต่อโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 วงแหวนกาญจนาภิเษก ด้านทิศใต้ มอเตอร์เวย์หมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว และโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน

แนวเส้นทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือข้ามทางรถไฟสายแม่กลอง ถนนเพชรเกษม เชื่อมต่อทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามทางรถไฟสายใต้ เชื่อมต่อทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จากนั้นเบี่ยงแนวเส้นทางขนานไปกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง และมีจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณจุดตัดทางแยกต่างระดับบางบัวทอง เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 วงแหวนกาญจนาภิเษก ช่วงบางบัวทอง-บางปะอิน โดยมีทางขึ้น-ลง 9 แห่ง ได้แก่ 1.ทางขึ้น-ลงพระราม 2 2.ทางขึ้น-ลงเอกชัย 3.ทางขึ้น-ลงกัลปพฤกษ์ 4.ทางขึ้น-ลงเพชรเกษม 5.ทางขึ้น-ลงพรานนก-พุทธมณฑล 6.ทางขึ้น-ลงบรมราชนนี 7.ทางขึ้น-ลงนครอินทร์ 8.ทางขึ้น-ลงบางใหญ่ และ 9.ทางขึ้น-ลงบางบัวทอง

ส่วนความคืบหน้าโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (โทลล์เวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 31,375.95 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่างานโยธาและงานระบบ 31,303 ล้านบาท และค่าเวนคืน 72.95 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) พิจารณา หากคณะกรรมการ PPP เห็นชอบแล้ว

หลังจากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในปีนี้ คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลช่วงปลายปี 2566 ได้ตัวผู้ชนะและลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนภายในปี 2567 จากนั้นจะเริ่มสร้างในปี 2568 และเปิดให้บริการปี 2571 โครงการนี้มีการลงทุนในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP Gross Cost) โดย ทล.จะเป็นผู้ลงทุนการก่อสร้างงานโยธา และจ้างเอกชนบริหารจัดการ อายุสัมปทาน 30 ปี

เรียกได้ว่า อีกไม่นานเกินรอไทยเราจะมีเส้นทางมอเตอร์เวย์สายใหม่ที่จะเปิดให้บริการ อำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงวันหยุด แน่นอนว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ และเปิดประตูการค้าแต่ละภูมิภาคของไทยได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม