ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าเมื่อวานก็รู้สึกได้ถึงความเครียดของโลก...เมื่อสหรัฐฯตัดสินใจส่งเครื่องบินรบ F-22 ขึ้นไปสอยบอลลูนยักษ์ของจีนเหนือท้องฟ้าอเมริกา
วอชิงตันอ้างว่าเป็นบอลลูนจารกรรม
จีนบอกว่าเป็น “เรือเหาะ” พลเรือนเก็บข้อมูลอุตุนิยมวิทยา
รัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคนเลื่อนการไปเยือนปักกิ่งทันทีเพื่อประท้วง
สหรัฐฯยิงร่วงลงมาไม่กี่ชั่วโมง จีนก็ออกแถลงการณ์ประท้วงดุดัน บอกว่าอเมริกา “กระทำการเกินเหตุ” และละเมิดกติกาสากล
บอลลูนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความบาดหมางครั้งใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
พอเกิดกรณีสหรัฐฯโวยวายว่าจีนส่ง “บอลลูนสอดแนม” มาลอยอยู่เหนืออเมริกา ก็มีคำถามตามมามากมาย
เป็นเรื่อง “กระต่ายตื่นตูม” หรือ “จับได้คาหนังคาเขา”?
จีนมีเทคโนโลยีล้ำหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดาวเทียม, ไซเบอร์และ apps ในมือถือที่สามารถเก็บข้อมูลของคนทั้งโลกได้ ทำไมจะต้องส่ง “เรือเหาะ” ลำเบ้อเร้อไปสืบข่าวราชการลับให้เป็นข่าวใหญ่โต?
บางคนบอกว่าแค่ Tiktok ก็สืบข้อมูลลับทั้งส่วนตัวและราชการของตะวันตกได้หมดแล้ว
ทำให้บอลลูนกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย
ไม่จำเป็นต้องส่ง “เรือเหาะ” ยักษ์ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่ามาให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย
กลายเป็นเรื่องที่สองยักษ์ต้องมาเผชิญหน้ากันอีก...คล้ายกับยุคสงครามเย็นที่ต่างฝ่ายต่างต้องส่งจารชนแอบหาข้อมูลของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อไปวางแผนทำลายล้างกัน
ยังจำได้ว่าเมื่อปี 1960 สหภาพโซเวียตยิงเครื่องบิน “สอดแนม” U-2 ตก
จนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ทำให้ประธานาธิบดีไอเซ็นฮาว์ต้องยกเลิกการไปเยือนมอสโกในปีนั้น
ครั้งนี้พอเกิดเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศแอนโทนี บลิงเคนก็เลื่อนการไปเยือนปักกิ่งที่เดิมกำหนดไว้ 5-6 กุมภาพันธ์
เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของวอชิงตัน
โดยระบุว่าการที่จีนส่งบอลลูนสอดแนมมาบินเหนือสหรัฐฯนั้นเป็นเรื่องที่ “ยอมรับไม่ได้และไร้ความรับผิดชอบ”
ทันทีที่เกิดเรื่อง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เรียกร้องให้สหรัฐฯ “ใจร่ม ๆ” เพราะจีนไม่เคยมี
นโยบายละเมิดน่าฟ้าประเทศอื่นอยู่แล้ว
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีแถลงการณ์จากรัฐบาลจีนจีนแสดงความเสียใจต่อกรณี “เหตุสุดวิสัย” นี้
โดยบอกว่าเป็นเรือเหาะพลเรือนวิจัยเรื่องอุตุนิยม แต่สภาพอากาศไม่ดี ถูกพัดหลงเข้าไปในน่านฟ้าของอเมริกา “โดยไม่ตังใจ”
บลิงเคนบอกว่าเป็นการ "ละเมิดอำนาจอธิปไตยของเรา
เป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้และไร้ความรับผิดชอบ” และยังโยงไปถึงการเตรียมตัวไปเยือนจีนของเขาด้วย
"การเข้ามาของบอลลูน 1 วัน ก่อนการออกเดินทางเยือนที่วางแผนไว้นานเป็นเรื่องที่ไร้ความรับผิดชอบยิ่ง"
บอลลูนยักษ์ที่ลอยอยู่บนระดับสูงกว่าเครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์ปกตินี้ตอนที่ออกข่าวบินอยู่เหนือรัฐมอนแทนา ทางตะวันตกของประเทศติดกับชายแดนแคนาดา
ตอนแรกมีการเสนอให้ “สอย” ลงมาเลย แต่กองทัพสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่ยิงบอลลูนลูกนี้ เพราะเกรงว่าเศษซากจะร่วงหล่นกระจายลงมาจนเป็นอันตรายต่อผู้คนข้างล่าง
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯบอกว่าตอนแรกเห็นบอลลูนลูกนี้ลอยอยู่เหนือหมู่เกาะอะลูเชียน ในรัฐอลัสก้า ลอยผ่านแคนาดา ก่อนจะมาปรากฏอยู่ที่เมืองบิลลิงส์ รัฐมอนแทนา เมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
พอรับทราบเรื่องนี้ กองทัพสหรัฐฯก็ถือเป็นเรื่องฉุกเฉิน เตรียมครื่องบินขับไล่ ซึ่งรวมถึงเครื่อง F-22 รอคำสั่งเผื่อประธานาธิบดีให้ยิงบอลลูนนี้
แคนาดาก็บอกว่าจับตาเฝ้าวัตถุนี้อยู่เช่นกันเพื่อ “ปกป้องข้อมูลละเอียดอ่อนของประเทศจากภัยจารกรรมข้อมูลลับจากต่างชาติ”
ทว่าแล้วเหล่าแม่ทัพนายกองก็สุมหัวประชุมกันฉับพลัน
พลเอก ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และพลเอก มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ต่อสายประชุมออนไลน์กันทันที
ในช่วงเวลานั้น รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯยังเยือนมะนิลาอยู่ และเพิ่งทำข้อตกลงกันประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ที่จะให้สหรัฐฯเข้าถึงอีก 4 ฐานทัพของประเทศนั้น
นั่นก็เป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้ปักกิ่งออกมาชี้นิ้วกล่าวหาว่ากำลังจะปิดล้อมจีนทางด้านทหารอีกเช่นกัน
ประเด็นเรื่องบอลลูนนั้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับรัฐมอนทานาก็เพราะเป็นที่ตั้งของ 1 ใน 3 ฐานยิงระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ
ณ ฐานทัพอากาศมาล์มสตรอมซึ่งเป็นหนึ่งในฐานทัพอากาศที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง
เจ้าหน้าความมั่นคงมะกันเองยอมรับว่าถึงตอนที่แจ้งภัยนั้น บอลลูนลูกนี้ยังไม่ได้เป็น “ภัยคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
และก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อการบินของพลเรือน
เพราะบอลลูนบินอยู่เหนือระดับความสูงที่สายการบินพาณิชย์ใช้มาก
แต่ก็ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นต่อสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน ดีซี และต่อรัฐบาลจีน
แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่บอลลูนใหญ่ลอยผ่านสหรัฐฯ เพราะในหลายปีที่ผ่านมาก็มีการตรวจพบบอลลูนลักษณะนี้หลายลูก เพียงแต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะลอยตัวอยู่นานที่สุด
นักการเมืองมะกันถือโอกาสนี้ออกมาแสดงความเห็นที่ค่อนข้างโอนเอียงไปทางไม่เป็นมิตรกับจีน
เช่นวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน มาร์โก รูบิโอ ในฐานะคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า บอลลูนสอดแนมเป็นสิ่งที่น่าตกใจแต่ไม่น่าประหลาดใจนัก โดยทวีตข้อความว่า
“ระดับของการจารกรรมที่มุ่งเป้ามายังประเทศของเราโดยฝีมือรัฐบาลปักกิ่ง เริ่มรุนแรงและโจ่งแจ้งมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา”
จะว่าไปแล้วบอลลูนเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลที่เก่าแก่ที่สุดชุดหนึ่ง
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นใช้บอลลูนทิ้งบอมบ์ใส่เป้าหมายของฝ่ายตรงกันข้าม
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งสหรัฐฯและสหภาพโซเวียตก็ใช้บอลลูนสำหรับการเก็บข้อมูลทั้งภาพและเสียงของอีกฝ่ายหนึ่ง
นักวิเคราะห์ฝ่ายจีนก็ออกมาโต้ฝ่ายสหรัฐฯว่าทุกวันนี้จีนไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้บอลลูนเพื่อการ “สอดแนม” อีกต่อไปแล้ว
เพราะระบบดาวเทียม, เทคโนโลยีทางไซเบอร์และแม้แต่ apps ต่าง ๆ ในมือถือก็สามารถจะเก็บข้อมูลทั้งที่เปิดเผยและที่เป็นความลับได้...หากรัฐบาลปักกิ่งต้องการจะทำเช่นนั้น
โลกตะวันตกก็คงจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เจาะหาข้อมูลเหล่านี้จากฝั่งจีนเช่นเดียวกัน
ใครจะทำอะไรเชย ๆ ด้วยการส่งบอลลูนยักษ์ยินว่อนไปทั่วให้อีกฝ่ายหนึ่งจับได้?
แต่กระนั้นก็ยังไม่วายทำให้วอชิงตันกับปักกิ่งมีเรื่องระหองระแหงประเด็นใหม่จนได้
เพราะความระแวงสงสัยต่อกันและกันไม่มีข้อจำกัด...ใครขยับอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกพลาดท่าเสียที หรือล่วงล้ำเข้ามามาเขตของตนก็มีอันต้องกลายเป็นเรื่องร้อนแรงกันเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ