ปฏิเสธผู้โดยสารโดนตัดแต้ม

หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้ปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีผลเฉพาะแท็กซี่มิเตอร์ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่ในระบบทั้งหมด 80,000 คัน จากที่ให้บริการจริงในปัจจุบัน 60,000 คัน โดยหลังจากมีมติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว จำนวนรถแท็กซี่ที่มีอยู่ต้องนำมาปรับจูนมิเตอร์ค่าโดยสารใหม่ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน แน่นอนว่าการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารครั้งนี้ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลงไป และคำนึงถึงความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้ใช้บริการ

โดยในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ร่วมมือกับ 4 บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL), บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM), บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) ในการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ในการปรับจูนมิเตอร์ตามอัตราค่าโดยสารใหม่ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ตั้งแต่วันที่ 16-30 ม.ค.2566 มียอดผู้ขับรถแท็กซี่ที่นำมิเตอร์มาปรับจูน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) จำนวน 19,923 คัน

ปัจจุบันพบว่าบริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด (ยี่ห้อ Printax, ROYAL) ให้บริการปรับจูนจำนวน 5,609 คัน, บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด (ยี่ห้อมิเตอร์ 3TM) ให้บริการปรับจูนจำนวน 10,886 คัน, บริษัท จีพีเอสไทยสตาร์ จำกัด (ยี่ห้อ G-TAX) ให้บริการปรับจูนจำนวน 2,857 คัน และบริษัท ทีเอชที โปรเกรส จำกัด (ยี่ห้อ PROFITTO) ให้บริการปรับจูนจำนวน 1,658 คัน ทั้งนี้ ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้มิเตอร์ของ 4 บริษัทดังกล่าวยังสามารถนำมิเตอร์มาปรับจูนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 ก.พ.2566 ในวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แท็กซี่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่ครั้งนี้ ขนส่งทางบกประเมินว่าจะทำให้คนขับรถแท็กซี่มีรายได้เพิ่มประมาณ 180 บาทต่อคันต่อวัน โดยเน้นย้ำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัดด้วย

สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมามีข้อร้องเรียนจากผู้ขับแท็กซี่ได้ยื่นเรื่องถึงกระทรวงคมนาคมและขนส่งทางบก ขอปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (แท็กซี่มิเตอร์) ดังนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จึงสั่งการให้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเวทีสาธารณะ โดยมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาคุ้มครองผู้บริโภค นักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งสาธารณะ และองค์การนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ)​ เป็นต้น ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกัน ให้พิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ เนื่องจากดัชนีผู้บริโภค (ซีพีไอ) เพิ่มขึ้น 7% จาก 5 ปีก่อน หรือตั้งแต่ปี 2560

แน่นอนว่าขนส่งทางบกได้เน้นย้ำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้ใช้บริการในการเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ รวมถึงให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารตามประกาศดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรม

จากนี้ไปขนส่งทางบกจะนำระบบตัดแต้มรถโดยสารสาธารณะมาใช้ควบคุมและกำกับคุณภาพการให้บริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการของรถแท็กซี่ และดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนขั้นสูงสุด ซึ่งมีโอกาสถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถได้ หากประชาชนพบเห็นรถแท็กซี่มีพฤติกรรมปฏิเสธผู้โดยสาร ขับรถประมาท พูดจาไม่สุภาพ หรือเรียกเก็บค่าโดยสารเกินจากมิเตอร์ สามารถแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม

เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ

ผนึกพลังพัฒนากำลังคน

ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”

ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%

ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่

ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม