พรุ่งนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2566 คือวันครบรอบ 2 ปีของการก่อรัฐประหารที่พม่าโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย
สถานการณ์ความตึงเครียด, ปัญหาเศรษฐกิจ, การล่มสลายของประชาสังคมและการถูกประชาโลกโดดเดี่ยวดูเหมือนจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ
ทุกสัญญาณบ่งบอกว่ากองทัพเมียนมาเตรียมผนึกอำนาจต่อ
และแม้จะอ้างว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในปีนี้ แต่ก็มีการ ออกกฎเลือกตั้งตัดโอกาสคู่แข่งโดยเฉพาะแกนการเมืองที่นำโดยอองซานซูจี
ที่วันนี้กลายเป็นผู้ถูกศาลทหารสั่งจำคุกในหลายคดีเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว
สัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลทหารของเมียนมาประกาศกฎเกณธ์กติกาการเลือกตั้งใหม่สำหรับพรรคการเมืองที่จะลงเเข่งในสนามเลือกตั้งปีนี้
มีรายละเอียดที่เขียนเงื่อนไขว่าด้วยคุณสมบัติของพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เพิ่มเกณฑ์ให้ยากและสลับซับซ้อนมาขึ้น
ชัดเจนว่าเพื่อเป็นการปูทางสำหรับบทบาทของกองทัพเพื่อให้ผูกขาดอำนาจทางการเมืองต่อไป
โดยให้การจัดการเลือกตั้งเป็นเพียงการจัดฉากให้ดูดีเท่านั้น
พรุ่งนี้เมื่อสองปีก่อน กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารแล้วก็ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งในเดือนสิงหาคมปีนี้
ตามกฎกติกาชุดใหม่ที่ประกาศผ่านสื่อของรัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ต้องการลงเเข่งเลือกตั้งในครั้งนี้ ในระดับประเทศ จะต้องมีสมาชิกพรรค อย่างต่ำ 1 แสนคน เพิ่มขึ้นจากคุณสมบัติเดิมที่กำหนดให้ต้องมีสมาชิก 1 พันคนเท่านั้น
นอกจากนี้ พรรคที่เข้าเกณฑ์ใหม่ จะต้องแสดงความจำนงว่าจะลงเเข่งขันภายใน 60 วันจากนี้
หากช้ากว่านี้ก็จะถูกปลดออกจากระบบทะเบียนพรรคการเมือง
แน่นอนว่าพรรคที่มีความพร้อมที่สุดในยามนี้ก็คือพรรคที่เป็นตัวเเทนของทหารเมียนมา นั่นคือ Union Solidarity and Development Party (USDP) ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากที่เป็นอดีตนายพลของกองทัพ
พรรคนี้พ่ายแพ้เลือกตั้งต่อพรรค National League for Democracy หรือ NLD ของนางอองซานซูจี ในปี 2005 และ 2020 อย่างหมดท่า
ก่อนกองทัพทำรัฐประหารโค่นรัฐบาลของซูจีในปี 2021 โดยอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งทั้ง ๆ ที่ฝ่ายทหารไม่เคยแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างนี้อย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
วันนี้ สมาชิกพรรค NLD หรือพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ถูกคุมขังหรือถูกจับไปแล้วหลายพันคน
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกจำนวนมากที่ต้องหลบซ่อนตัวเพื่อหนีการตามไล่ล่าของทหารที่ยิ่งวันยิ่งเพิ่มความรุนแรงในการปฏิบัติต่อผู้คัดค้านการใช้อำนาจเผด็จการของกองทัพ
นักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองพม่ามายาวนานตั้งข้อสังเกตว่ากฎใหม่ที่ถูกเพิ่งประกาศออกมานั้นไม่ต้องสงสัยว่ามีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมระบบการเมืองที่ทหารสามารถมีบทบาทเข้าควบคุมได้อย่างเต็มที่
มีคำถามว่าตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าผู้นำทหารพม่าจะถูกโดดเดี่ยวโดยนานาชาติ แต่ไฉนจึงยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ถึงทุกวันนี้
ทำไมมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศต่าง ๆ จึงไม่มีผลทำให้มิน อ่อง หล่ายต้องยอมผ่อนปรนมาตรการปราบปรามประชาชนอย่างหนักของตน
คำตอบคือผู้นำทหารพม่าคนนี้พยายามฉวยจังหวะและโอกาสที่มีความปริแยกของประเทศใหญ่ ๆ ในสังคมโลกเพื่อยังสามารถแทรกตัวให้ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศที่อยู่คนละข้างกับโลกตะวันตก
เดิมทีสหรัฐฯ และยุโรปหวังว่าแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการทูตจะบีบให้กองทัพเมียนมายอมอ่อนข้อแต่ต้องเลิกใช้วิธีการเผด็จการกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตย
แต่ผู้นำทหารพม่ากลับหาประโยชน์จากความแตกแยกทั่วโลก โดยยิ่งเข้ามากลุ่มประเทศที่มีมีความขัดแย้งกับโลกตะวันตก
การจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า ลูกชายของนายพลอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูมูลค่าเกือบ 30 ล้านบาท ณ ใจกลางกรุงเทพฯ
ผลการสืบสวนยังพบสมุดบัญชีเงินฝากของลูกสาวนายพลของสถาบันการเงินชั้นนำแห่งหนึ่งของไทย
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ทหารของเมียนมาและบริษัทในเครือทางทหารหลังการยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2021
อีกทั้งทรัพย์สินของลูกๆ ของมิน อ่อง หล่ายก็ถูกอายัดในสหรัฐฯ
หลายประเทศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับพม่ารวมถึงการไม่ส่งเอกอัครราชทูตไปประจำพม่า
สถาบันป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจะหยุดรับนายทหารจากเมียนมาในปีงบประมาณใหม่นี้
กองทัพเมียนมาตอบโต้ว่ามาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
แต่จีนและรัสเซียยังคบหาพม่าในระดับเดิม
พม่ายังคงรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นกับจีนและประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ที่ไม่ฝักใฝ่ตะวันตก
น่าเชื่อได้ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับการทหารหลายคนก็คงถือครองทรัพย์สินและเป็นเจ้าของธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านพม่าเช่นเดียวกับลูกของมิน อ่อง หล่าย เช่นกัน
พม่ายังคงติดต่อค้าขายกับเพื่อนบ้านบางกลุ่ม จีน อินเดีย และไทยรวมกันมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของการค้าทั้งหมดของเมียนมา
ในทางตรงกันข้าม สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปมีสัดส่วนเพียง 14%
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเศรษฐกิจของเมียนมาวันนี้ยังมีเสถียรภาพในระดับหนึ่งแม้ว่าจะไม่เฟื่องฟูก็ตาม
กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงของเมียนมาจะเติบโตมากกว่า 3% ในปีงบประมาณปีใหม่นี้
ถือเป็นการฟื้นตัวจากการหดตัว 18% ในปีงบประมาณปี 2021
ก็ด้วยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจนี่แหละที่ทำให้กองทัพสามารถเริ่มเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปได้เร็วสุดในเดือนสิงหาคมนี้
โดยหวังว่าจะมอบอำนาจให้พรรคในเครือข่ายทหารเพื่ออ้างความชอบธรรมกับสังคมโลกว่าได้จัดให้การเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแล้ว
นอกจากนี้ เมียนมายังกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ซึ่งมีความขัดแย้งกับชาติตะวันตกในเรื่องสงครามยูเครน
พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย พบกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในเดือนกันยายน เพื่อยืนยันความร่วมมือทวิภาคี
เมื่อเดือนธันวาคมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติมติครั้งแรกที่เรียกร้องให้เมียนมาร์เป็นประชาธิปไตย
แต่รัสเซีย จีน และอินเดียงดออกเสียง
สำหรับกองทัพเมียนมา การเป็นแนวร่วมกับรัสเซียและจีนได้ประโยชน์ประการหนึ่งตรงที่ไม่กังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนมากเท่ากับสหรัฐฯและยุโรป
ทุกวันนี้ ออง ซาน ซูจี ยังถูกควบคุมตัวหลังการปฏิวัติและถูกตัดสินจำคุกรวม 33 ปีแล้วในหลาย ๆ คดี
กองทัพยังคงทรมานและประหารชีวิตฝ่ายตรงข้าม
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า พลเรือน 2,827 คนถูกสังหารตั้งแต่การยึดอำนาจ
ไม่แต่เท่านั้น กองทัพพม่ายังได้เดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มต่อต้านติดอาวุธและเผาหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านในการสู้รบ บ้านเรือนมากกว่า 48,000 หลังถูกทำลายจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม
อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่สามารถจะกดดันให้กองทัพพม่ายอมทำตาม “ฉันทามติ 5 ข้อ” เพื่อให้อาเซียนช่วยสร้างสมานฉันท์ในประเทศนั้น
ดูเหมือนว่ารัฐบาลทหารของเมียนมาจะมีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการกุมอำนาจรัฐของตนด้วยซ้ำ
ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันเอกราชปีที่ 75 ของเมียนมาเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา มิน อ่อง หล่ายประกาศจะรักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเพื่อนบ้านอย่างจีน ไทย และอินเดีย
“ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับความร่วมมือและข้อเสนอแนะขององค์กรระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคและประเทศต่างๆ ท่ามกลางแรงกดดันและการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา” เขากล่าว
ผมไม่แน่ใจว่าเราควรจะดีใจหรือกังวลที่เขากล่าวขอบคุณประเทศไทยด้วย?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ