นายกฯ ญี่ปุ่นบอกว่าปัญหาประชากรลดลง และสภาพสังคมผู้สูงวัยกำลังจะเป็นวิกฤตทางสังคมที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ถึงขั้นที่บอกว่าในภาวะเช่นนี้ ญี่ปุ่นจะกลายเป็น “สังคมที่ชะงักงัน” ไม่อาจจะเดินไปข้างหน้าได้ ทำให้เราต้องหันมามองปัญหาของไทยเราในเรื่องนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน
เพราะไทยเราก็กำลังจะเข้าสู่สังคมคนสูงวัยอย่างสมบูรณ์เช่นกัน
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ บอกวันก่อนว่ารัฐบาลของเขาจะเร่งดำเนินการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของอัตราการเกิดใหม่ที่ยังดำเนินอยู่
แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางการจะพยายามสนับสนุนให้ประชาชนมีลูกเพิ่มขึ้นด้วยแรงจูงใจหลายอย่าง เช่น แจกเงินโบนัสและผลประโยชน์ต่างๆ เพิ่มแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
ตามสถิติทางการนั้น อัตราการเกิดใหม่ของญี่ปุ่นร่วงลงมาถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว ด้วยตัวเลขประชากรที่เพิ่มไม่ถึง 800,000 คนเป็นครั้งแรก
เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่รัฐบาลคาดไว้ถึง 8 ปี สัญญาณทั้งหลายชี้ไปว่าญี่ปุ่นน่าจะประสบภาวะประชากรหดตัวหนักขึ้นไปอีก
จากที่ปัจจุบันมีค่ามัธยฐานของอายุพลเมืองที่ 49 ปี ซึ่งสูงเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงประเทศโมนาโกซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก
นายกฯ คิชิดะประกาศในรัฐสภาในวันเปิดสมัยประชุมสภาแรกของปีนี้ว่า เขาจะส่งแผนเพิ่มงบประมาณเพื่อกระตุ้นให้พ่อแม่มีลูกเพิ่มขึ้น
โดยงบประมาณเพื่อการนี้จะสูงขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า อีกทั้งจะมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ของรัฐที่รับผิดชอบงานด้านเด็กและครอบครัวในเดือนเมษายนเพื่อมาดูแลเรื่องนี้เป็นการเฉพาะด้วย
มีงานวิจัยที่ระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีต้นทุนการเลี้ยงเด็กสูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ตามหลังจีนและเกาหลีใต้
จีนก็เพิ่งจะประกาศตัวเลขของประชากรที่หดตัวลง จนรัฐบาลปักกิ่งต้องเตรียมออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังเช่นกัน
สำหรับไทยเรานั้น ถูกคาดว่าจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society)
นั่นหมายถึงสัดส่วนประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นแตะ 14% ของประชากรทั้งหมดในปี 2565 สาเหตุเป็นเพราะอัตราการเกิดของคนไทยมีแนวโน้มลดต่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 10 ของประชากร 1,000 คน หรือมีจำนวนการเกิดเพียงประมาณ 6 แสนคนต่อปี
สาเหตุเป็นเพราะการแต่งงานที่ช้าและความไม่ต้องการมีบุตรที่เพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จำนวนการเกิดก็เริ่มมีอัตราที่ติดลบหรือหดตัวลงแล้ว
หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นอกจากจำนวนประชากรไทยจะเริ่มลดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้ว ไทยน่าจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเข้าหา 20% โดยใช้เวลาเพียง 9 ปีหลังการเป็นสังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์
ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่รวดเร็วกว่าประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ระยะเวลา 11 ปี
ปัญหาที่ตามมาคือ คนสูงวัยของเราส่วนใหญ่เข้าข่าย “จนก่อนแก่”
มีงานวิจัยที่บอกว่า จำนวนประชากรสูงอายุไทยที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีในระดับปานกลางขึ้นบน น่าจะมีสัดส่วนไม่ถึง 20% ของจำนวนประชากรสูงอายุทั้งหมด
ที่เหลืออีกกว่า 80% อาจมีรายได้เฉลี่ยต่อปีในระดับปานกลางลงล่าง
แต่การใช้จ่ายของกลุ่มผู้สูงอายุน่าจะมีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยมากกว่า 5% ต่อปี หรืออาจอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 350,000 บาทต่อคนต่อปี
โดยค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นชัดเจน สิ่งที่จะตามมาคือปัญหาแรงงานก็จะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ
มีการประเมินไว้ว่า ครอบครัวที่มีแต่ผู้สูงอายุต้องประหยัดและจะมีการใช้จ่ายที่ตํ่ากว่าปกติประมาณ 30% ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อในอนาคตหดหายอย่างมาก
สิ่งที่ตามมาคือ การลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทยก็จะยิ่งยากขึ้น
แล้วหนทางแก้ไขคืออย่างไร
เมื่อคนแก่มากขึ้นและคนวัยทำงานเท่าเดิมหรือลดลง ก็จะส่งผลให้ค่าแรงสูงขึ้นได้ หรือเกิดการขาดแคลนแรงงาน
จึงเริ่มมีการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยการใช้เครื่องมือเครื่องจักรหรือนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานคน หรือการนำเข้าแรงงานต่างด้าวมากขึ้น
อีกด้านหนึ่งคือการลงทุนและการออม
เมื่อวัยสูงอายุหรือวัยเกษียณขาดรายได้หรือมีรายได้น้อยลง ทำให้มีการออมลดลง ในขณะที่วัยทำงานต้องรับภาระมากขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้มีเงินออมน้อยลงและเงินลงทุนลดลง
ภาครัฐบาลจำเป็นต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายทางด้านสวัสดิการมากขึ้น เพื่อบริการสังคมทางด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้การลงทุนและการออมของประเทศลดลงด้วย ในแง่ผลผลิตหรือรายได้ประชาชาติ เมื่อสัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือ GNP รายได้ประชาชาติน้อยลง และรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลลดลง รวมถึงคุณภาพการผลิตลดลง
เรื่องงบประมาณก็เป็นเรื่องใหญ่
เมื่องบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้น ภาครัฐจำเป็นต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุข การแพทย์ บริการสังคมแก่ผู้สูงอายุมากขึ้น และต้องเพิ่มงบประมาณรายจ่ายเพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากไร้ และการเก็บภาษีรายได้น้อยลงเนื่องจากมีวัยผู้สูงอายุซึ่งไม่มีรายได้มีสัดส่วนที่มากขึ้น
นั่นย่อมแปลว่า เราต้องเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งควรจะร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน และประเทศ
โดยเฉพาะการร่วมกันกระตุ้นเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีการเตรียมวางแผนการออม การใช้ชีวิตในบั้นปลาย การร่วมมือกันในชุมชน การจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ทางด้านสุขภาพอนามัยของผู้สูงอายุ การปรับตัวทางด้านสังคมและจิตใจของผู้สูงอายุ
รวมทั้งการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและการออมเพื่อเตรียมพร้อมเมื่อถึงวัยผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้เกิดการบริหารจัดการและพัฒนาที่ดี
ปัญหาเรื่องสังคมคนสูงวัยไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะแนวโน้มวันข้างหน้ายังไม่มีสัญญาณว่านโยบายชักชวนให้คนไทยมีลูกมากขึ้นนั้นจะได้ผล
เพราะความขัดข้องด้านเศรษฐกิจ, วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และแรงกดดันจากด้านต่างๆ ของสังคม
เมื่อคนวัยทำงานหดตัวแต่ต้องสร้างรายได้เพื่อดูแลผู้สูงวัยมากขึ้นตลอดเวลา สังคมจะตั้งรับภาระหนักอึ้งเช่นนี้อย่างไร
นั่นเป็นคำถามหนักหนาสาหัสที่ไทยและอีกหลายประเทศกำลังเผชิญอยู่วันนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ