เมื่อวานผมตั้งคำถามในคอลัมน์นี้ว่าใครจะเป็นตัวแทนของพม่าในการประชุมสุดยอดผู้นำจีนกับอาเซียน
คำตอบก็คือ ไร้เงาของ มิน อ่องหล่าย หรือตัวแทนของรัฐบาลทหารพม่าเลยแม้แต่คนเดียว
ดูจากรูปนี้จะเห็นว่า ช่องขวาสุดแถวกลางมีธงพม่าและคำว่า Myanmar แต่ที่นั่งทิ้งว่างไว้
ผมตรวจสอบข่าวแล้วได้ความว่า ตอนแรกจีนก็มาล็อบบี้กับประเทศในอาเซียนเพื่อให้ มิน อ่องหล่าย ได้เข้าร่วมประชุม
แต่หลายชาติในอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์และบรูไน ยืนกรานว่าหากเชิญผู้นำทหารมาร่วมประชุมจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับอาเซียนอย่างมาก
เพราะก่อนหน้านี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเองก็ไม่เชิญ มิน อ่องหล่าย เพราะเขายังไม่ทำอะไรเกี่ยวกับฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ว่าด้วยเรื่องความขัดแย้งในเมียนมา
อาเซียนขอให้พม่าส่งตัวแทนที่ “ไม่เกี่ยวกับการเมือง” มาร่วมประชุม
แต่ มิน อ่องหล่าย ปฏิเสธ เป็นที่มาของการทิ้งเก้าอี้พม่าว่างไว้ในการประชุมคราวที่แล้ว
มาคราวนี้เป็นโอกาสพิเศษ ครบรอบ 30 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียน
ที่พิเศษมากกว่านั้นคือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอกว่าจะมานั่งเป็นประธานร่วมกับประธานอาเซียนปีนี้คือ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุซซาลามด้วย
งานใหญ่อย่างนี้จะให้มีรอยด่างแห่งความสัมพันธ์ไม่ได้
สัปดาห์ที่แล้วจีนส่งทูตพิเศษชื่อ ซุ่น กั๋วเสียง มาล็อบบี้ที่เนปยีดอว์ เข้าพบ มิน อ่องหล่าย คาดว่าไปพยายามหว่านล้อมให้ยอมลดราวาศอกลงบ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
ทูตพิเศษจีนบินไปสิงคโปร์และบรูไนเพื่อไกล่เกลี่ยให้อาเซียนยอมลดเงื่อนไขลงบ้าง เพื่อให้ มิน อ่องหล่าย เข้าร่วมประชุม
แต่ก็เจอกับการยืนยันว่า อาเซียนอยากจะใช้รูปแบบเหมือนคราวการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา
นั่นคือให้เชิญตัวแทนจากเมียนมาที่ไม่ใช่การเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเข้าข้างใดข้างหนึ่งในพม่า
จีนก็ดูเหมือนจะเห็นพ้อง เพราะต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ในอาเซียน
ข่าวบอกว่าจีนเสนอว่าทูตเมียนมาประจำปักกิ่งเป็นตัวแทนในการประชุมร่วมกับ สี จิ้นผิง เป็นสูตรประนีประนอม
ดูเหมือนอาเซียนส่วนใหญ่จะยอมรับได้ แต่ท้ายที่สุดในนาทีสุดท้าย มิน อ่องหล่าย ก็ไม่ยอมตามสูตรนั้น
จึงกลายเป็นการปล่อยให้ที่นั่งพม่าว่างลงในการประชุมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
กรณีนี้ทำให้เห็นถึงการใช้การทูตระหว่างจีนกับอาเซียน และระหว่างสมาชิกอาเซียนกันเองในกรณีพม่าอย่างน่าสนใจยิ่ง
เพราะต่างฝ่ายต่างพยายามจะแสวงหาสูตรที่ทุกฝ่ายพอจะรับกันได้โดยที่ไม่ทำให้อาเซียนเสียความเป็นตัวของตัวเองมากไปกว่านี้
เพราะถึงวันนี้ มิน อ่องหล่าย ยังไม่ยอมให้ทูตพิเศษอาเซียน (รัฐมนตรีต่างประเทศบรูไน เอรวัน ยูซอฟ) ไปเยือนพม่าเพื่อพบกับฝ่ายต่างๆ ก็เท่ากับว่าผู้นำทหารเมียนมา
เท่ากับไม่สนใจกับฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนเลยแม้แต่น้อย
ทั้งๆ ที่ มิน อ่องหล่าย เป็นคนไปร่วมประชุมที่จาการ์ตาเองเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมาด้วยตนเอง
สมาชิกอาเซียนอาจจะมีจุดยืนที่แข็ง-อ่อนต่างระดับกัน แต่ในท้ายที่สุด จีนก็ต้องเคารพในกลุ่มอาเซียนที่แสดงความขึงขังเรื่องนี้
หาไม่แล้ว หากปักกิ่งตัดสินเองว่าจะให้ มิน อ่องหล่าย เข้าร่วมประชุมเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศที่ สี จิ้นผิง มานั่งหัวโต๊ะเอง ก็อาจจะถูกมองว่าเข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของอาเซียน
นั่นย่อมทำให้จีนถูกมองว่าเป็นการใช้ความเป็นพี่ใหญ่กดดันบังคับให้อาเซียนต้องทำตามปักกิ่ง
เมื่อภาพออกมาอย่างเมื่อวานนี้ มิน อ่องหล่าย จึงควรจะได้รับบทเรียนว่า หากยังยืนกระต่ายขาเดียวไม่ร่วมมือกับอาเซียน ก็คงจะต้องกลายเป็น “สุนัขหัวเน่า” ในเวทีระหว่างประเทศไปจนกว่าจะยอมแสดงท่าทีที่ผ่อนปรนกว่านี้
เดิมที มิน อ่องหล่าย อาจจะหวังว่าจีนจะใช้บารมีของตนในการน้าวโน้มให้อาเซียนอื่นๆ ยอมให้ตนนั่งร่วมประชุมออนไลน์ด้วย
เพราะปีนี้เมียนมามีฐานะเป็น “ผู้ประสานงาน” ระหว่างอาเซียนกับจีน จึงมีความหวั่นเกรงก่อนหน้านี้ว่า มิน อ่องหล่าย อาจจะใช้จังหวะนี้เบียดตัวเองเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้ประสานงานด้วย
แต่แล้วอาเซียนอย่างน้อย 4 ประเทศ ก็ยืนยันนั่งยันว่า ยังไงๆ มิน อ่องหล่าย ก็ต้องอยู่นอกวงไปก่อนจนกว่าเขาจะยอมแสดงอะไรบางอย่างที่สะท้อนความพร้อมจะให้ความร่วมมือกับอาเซียนและประชาคมโลกในเรื่องนี้
พอ สี จิ้นผิง ประกาศระหว่างการประชุมสุดยอดเมื่อวานนี้ จีนจะไม่ใช้วิธีการ “บูลลี่” ประเทศที่เล็กกว่า
และยืนยันว่าปักกิ่งจะไม่ใช้นโยบายครอบงำประเทศอื่น แต่จะคบหากันอย่างเสมอภาค และใช้หลักพหุภาคีในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ก็ทำให้พอจะเห็นว่าจีนตระหนักในความละเอียดอ่อนของการประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเมียนมาด้านหนึ่ง และจีนกับอาเซียอีกด้านหนึ่ง
เป็นปรากฏการณ์ที่น่าเฝ้ามองว่าจะมีการปรับเปลี่ยนดุลแห่งอำนาจระหว่างจีนกับอาเซียนและภูมิภาคนี้อย่างไรต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ