ข่าวจากหลายแหล่งแว่วมาว่า พื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่เรารู้จักกันนี่ไม่มีความคืบหน้า ทำงานแบบซุ่มๆ แล้วก็อาจจะไม่สามารถผลักดันให้เกิดขึ้นจริงได้ หรือว่าเป็นการขายฝันจากทีมเศรษฐกิจชุดก่อนที่เข้ามาสั่งการแล้วตอนนี้ไม่มีการสานต่อ...
แต่! อย่าลืมว่าอีอีซีถือว่าเป็นเมกะโปรเจ็กต์สำคัญของรัฐบาลเลยก็ว่าได้ ที่จะทั้งผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ผลักดันการลงทุนและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผลักดันเศรษฐกิจให้มีการเติบโต สนับสนุนด้านการท่องเที่ยว รวมถึงพัฒนาศักยภาพแรงงาน และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรอบหรือทั่วประเทศเลยด้วยซ้ำ แบบนี้รัฐบาลจะปล่อยให้อีอีซีเป็นแค่โครงการขายฝันไม่ได้ จำเป็นต้องสานต่อและดันจนกว่าจะเกิดขึ้นได้จริง
รวมถึงในแง่ของข้อเท็จจริงแล้วด้วย อีอีซีเป็นโครงการที่มีกฎหมายเป็นของตัวเอง และมีแผนงาน โรดแมปที่ชัดเจน จำเป็นจะต้องพัฒนาตามแผนงานนั้นๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งคนทำงานเองก็ออกมายืนยันหลายเสียงแล้วว่าอีอีซีมีความคืบหน้าไปอย่างมาก! แม้ว่าช่วงนี้จะเงียบไปบ้างแต่ก็อยู่ในขั้นตอนการทำงาน เนื่องจากโครงการหลักๆ ทั้ง 5-6 โครงการนั้น หลายโครงการกำลังลงมือทำอยู่ จึงไม่ใช่ช่วงที่ต้องออกโปรโมตหรือโฆษณาแบบโหมโรง
ขณะที่โครงการต่างๆ ย่อยๆ ที่มีเป้าหมายจะพัฒนาพื้นที่อีอีซี สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ก็เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นล่าสุด...สกพอ.ก็ได้มีการเสวนา “เปิดความสำเร็จการเป็นต้นแบบแผนงานบูรณาการ สู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จจากโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการอีอีซีให้แก่ผู้เข้าร่วมรับฟังจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่นกว่า 500 คน จาก 150 หน่วยงาน
และจากงานนั้นก็ได้เสนอแผนภาพรวมการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกให้เป็นรูปธรรม ผ่านแผนงานบูรณาการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก รวมทั้งเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจทิศทางการพัฒนาอีอีซี และแผนงานบูรณาการฯ นำเสนอโครงการที่ประสบผลสำเร็จและการพัฒนาด้านอื่นๆ ในพื้นที่ รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานจัดทำข้อเสนอโครงการและงบประมาณให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมทั้งเตรียมกำหนดเป้าหมาย แนวทาง ตัวชี้วัดให้มีประสิทธิภาพบรรลุเป้าหมายของแผนงานบูรณาการฯ ในการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2566 ไว้ด้วย
ซึ่งแผนการขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการในปีงบประมาณ 2566 สกพอ.ได้กำหนด 4 แนวทางตามภารกิจที่สำคัญ ที่เชื่อมโยงส่งต่อการดำเนินงานร่วมกันในลักษณะต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้แก่ 1.ต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค และระบบดิจิทัล เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานกับพื้นที่เศรษฐกิจอย่างไร้รอยต่อ ควบคู่การวางโครงข่ายดิจิทัลเพื่อดึงทุนเอกชน รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 2.พัฒนาและยกระดับบุคลากร การศึกษา วิจัย และนวัตกรรม หลอมรวมการศึกษา พัฒนาทักษะบุคลากร สู่การปฏิบัติงานจริงในภาคอุตสาหกรรม และพัฒนาพื้นที่นวัตกรรมรองรับการวิจัยชั้นนำ พร้อมขยายผลเชิงพาณิชย์
3.พัฒนาเมืองเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน พลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างระบบนิเวศเมืองด้วยการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เกษตรอัจฉริยะ สาธารณสุข เมืองน่าอยู่ และสิ่งแวดล้อม และ 4.ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนการลงทุนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระยะยาว
แน่นอนว่า แผนงานบูรณาการนี้น่าจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่อีอีซีให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของจีดีพี ทั้งในระดับพื้นที่และในภาพรวมของประเทศ อย่างที่รัฐบาลได้วาดฝันไว้ และตั้งเป้าที่จะทำให้ได้ ไม่ใช่แค่มาขายฝัน ขายอุดมการณ์ให้ทั้งเอกชน และประชาชนซื้อกินอย่างแน่นอนนะ.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.
ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โรงไฟฟ้าฟอสซิลต้นทุนพุ่งโตช้า
ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม
เคลียร์ปมสถานีอยุธยา
เมื่อพูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ไฮสปีดเทรนไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พบว่าปัจจุบันงานโยธาทั้ง 14 สัญญาคืบหน้าไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งปัจจุบันยังมีอีก 2
แจกเงินหวังคะแนน
เก็บตกการประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ ตอนแรกก็รอลุ้นโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ที่ช่วงเช้า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้ข่าวว่า จะให้ที่ประชุมอนุมัติในวันนี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นรอเก้อ เพราะ ครม.ไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากยังติดขัดปัญหาบางประการ
เทรนด์Pet Parentบูมไม่หยุด
คงต้องยอมรับว่า Pet Parent ยังคงเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน สะท้อนแนวโน้มและรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงสมือนคนในครอบครัว ยิ่งกว่านั้น
ปี 67 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยหืดจับ!!
ปี 2567 เป็นอีกปีที่มีความท้าทายอย่างมากสำหรับ “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ที่ยังคงเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นปัจจัยที่กดดันการเติบโตของธุรกิจ ซึ่ง KKP Research