สงครามยูเครน ณ ‘จุดชะงักงัน’

หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนชื่อ Kyrylo Budanov ไม่ตอบคำถามของนักข่าวต่างประเทศว่ายูเครนแอบเข้าถล่มโจมตีเป้าหมายทางทหารในรัสเซียจริงหรือไม่

 “ผมจะตอบคำถามนี้ได้เมื่อสงครามจบแล้ว”

ถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับการที่เป้าหมายทางทหารในรัสเซียถูกโจมตี เขาตอบว่า

 “ผมรู้สึกดีใจ”

ถามต่อว่าหากเป็นเช่นนี้แปลว่าจะมีการโจมตีเป้าหมายในรัสเซียลึกเข้าไปอีกใช่หรือไม่

 “ใช่ ยิ่งวันยิ่งลึก”

แล้วเป้าหมายในคาบสมุทรไครเมียล่ะ?

 “ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน ดังนั้นเราย่อมมีสิทธิ์จะใช้อาวุธอะไรในดินแดนของเราก็ได้”

โดยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม คนที่ติดตามข่าวสงครามยูเครนย่อมจะเห็นภาพแล้วว่าการสู้รบในยูเครนกำลังขยายวงไปในทิศทางใด

แต่บูดานอฟก็ยอมรับว่าการสู้รบในยูเครนกำลังเข้าสู่ภาวะ "หยุดชะงัก" หรือที่ศัพท์ทางทหารฝรั่งเรียกว่า stalemate

นั่นแปลว่าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถพิชิตอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ไม่ว่าจะเป็นเฉพาะแนวรบใดแนวรบหนึ่ง...หรือในภาพรวมของสงครามครั้งนี้

เหตุที่สถานการณ์สู้รบตกอยู่ในภาวะ “ชะงักงัน” นั้น เขาอธิบายว่าเป็นเพราะทั้งยูเครนและรัสเซียไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่จะผลักดันให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องถอยกรูดได้

 หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนบอกว่ายูเครนกำลังรออาวุธที่มีประสิทธิภาพทำลายล้างสูงชุดใหม่จากพันธมิตรตะวันตก

เขาเรียกภาวะปัจจุบันว่า “สถานการณ์ติดขัด มันไม่ขยับ"

แต่การที่ทหารยูเครนใช้ปืนใหญ่มาตรฐานสูงของสหรัฐฯ อย่าง HIMARS ถล่มใส่ทหารรัสเซียเกณฑ์ใหม่ที่ Makiivka ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ สังหารไป (ตามตัวเลขของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย) 89 คนนั้นก็อาจจะพลิกสถานการณ์การสู้รบได้ในระดับหนึ่ง

ฝั่งยูเครนอ้างว่ายอดทหารรัสเซียที่เสียชีวิตครั้งนี้อาจจะสูงถึง 400 คนด้วยซ้ำไป

ก่อนหน้านั้นในเดือนพฤศจิกายน กองทหารยูเครนยึดเมืองเคอร์ซอนทางตอนใต้คืนได้

จากนั้นก็เกิดการรบพุ่งที่ดุเดือดเลือดพล่านที่สุดครั้งหนึ่งในบริเวณรอบๆ Bakhmut ในภูมิภาคโดเนตสค์ตะวันออก

แต่ ณ จุดอื่นๆ กองกำลังรัสเซียดูเหมือนจะตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ตั้งรับมากกว่าเป็นฝ่ายรุก

การย่างเข้าฤดูหนาวได้มีผลทำให้มีการชะลอการปฏิบัติการภาคพื้นดินของยูเครนตลอดแนวยาว 1,000 กิโลเมตร

บูดานอฟบอกกับบีบีซีในการให้สัมภาษณ์พิเศษว่า "ตอนนี้สถานการณ์ถึงทางตัน"

เขาอ้างว่ารัสเซียประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

และเชื่อว่าเครมลินได้ตัดสินใจที่จะประกาศระดมทหารเกณฑ์อีกครั้ง

แต่ก็ยอมรับว่าฝั่งยูเครนยังขาดทรัพยากรที่จะลุยไปข้างหน้าในหลายพื้นที่

 “เราไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ในทุกแนวรบ พวกเขาก็ทำกับเราไม่ได้เช่นกัน”

พร้อมเสริมว่า "เราตั้งตาคอยอย่างมากที่จะได้เสบียงอาวุธใหม่ๆ และการมาถึงของอาวุธขั้นสูง"

ก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่กองกำลังรัสเซียจะรุกจากทิศเหนือ คือจากเบลารุส เพื่อจะเปิดศึกภาคพื้นดินอีกครั้งในช่วงต้นปี 2566 นี้

ซึ่งหากเป็นไปตามแนวพยากรณ์นี้ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่จะพยายามครั้งที่ 2 ที่จะยึดเมืองหลวงเคียฟ

แต่บูดานอฟไม่ใส่ใจทฤษฎีเกี่ยวกับการรุกคืบจากเบลารุส รวมถึงการเคลื่อนกำลังทหารหลายพันนายมากนัก

เพราะเขาเชื่อว่ารัสเซียและเบลารุสยังไม่พร้อมที่จะเปิดแนวรบด้านนี้

เหตุเพราะรัสเซียต้องการจะพิชิตศึกในสมรภูมิทางใต้และตะวันออกไปทางเหนือให้ได้ก่อน

"ถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ของการเตรียมการสำหรับการรุกรานเคียฟหรือพื้นที่ทางตอนเหนือจากเบลารุส" เขาบอก

แม้ว่ามีรายงานข่าวว่ากองกำลังรัสเซียใช้เบลารุสเป็นฐานยิงสำหรับการโจมตียูเครน แต่บูดานอฟเชื่อว่าคนเบลารุสส่วนใหญ่จะไม่สนับสนุนการมีส่วนร่วมในสงครามอีกต่อไป

เป็นไปได้ว่าด้วยกองทัพที่มีกองกำลังประมาณ 48,000 นาย ประธานาธิบดี Lukashenko ก็พยายามจะต้านแรงกดดันจากมอสโกที่จะให้เข้าร่วมรบ

แต่หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองทหารของยูเครนคนนี้เชื่อว่า “เป็นไปได้ว่าผู้นำเบลารุสกำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อป้องกันภัยพิบัติในประเทศของเขา”        

เขาบอกว่าหน่วยรุกนำโดยกลุ่มทหารรับจ้าง Wagner Group นำโดย Yevgeniy Prigozhin คงพยายามจะยึดแนวรบหลายแห่งทางตะวันออกเพื่อเป็นรางวัลทางการเมือง

ในขณะที่เกิดการแย่งชิงเครดิตในหมู่แม่ทัพนายกองของรัสเซีย

นอกเหนือจากการถล่มโจมตีในสนามรบแล้ว รัสเซียได้ทุ่มสรรพกำลังในการดำเนินการรณรงค์ทางอากาศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม

ด้วยการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรน

ผลที่ตามมาคือ ทำให้คนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน และน้ำ

บูดานอฟเชื่อว่าการโจมตีลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

แต่ก็เชื่อว่ารัสเซียไม่น่าจะสามารถรักษาระดับของการโจมตีไว้ได้นานนัก

เพราะสต็อกสำรองขีปนาวุธที่ลดน้อยลง และโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาวุธของรัสเซียไม่สามารถเร่งเครื่องเพื่อผลิตออกมาทดแทนได้

ข่าวกรองบางกระแสแจ้งว่าอิหร่านจะจัดหาโดรนส่วนใหญ่ที่ใช้ในการโจมตีของรัสเซีย

แต่เขาเชื่อว่าอิหร่านก็ต้องคิดหนักหากจะเดินหน้าส่งขีปนาวุธให้รัสเซีย

เพราะอิหร่านต้องรู้ว่าหากถลำตัวเข้ามาช่วยรัสเซียเรื่องสงครามก็อาจจะถูกโลกตะวันตกเพิ่มมาตรการลงโทษต่อตนได้อีก

ทุกวันนี้อิหร่านก็กลายเป็นเป้าของการคว่ำบาตรจากตะวันตก เพราะโครงการนิวเคลียร์อยู่แล้ว

การสู้รบในแนวรบทั้งหลายอาจจะมีอาการชะงักบ้างในตอนนี้ แต่บูดานอฟยืนกรานว่า ท้ายที่สุดแล้วยูเครนจะยึดดินแดนทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การยึดครอง

รวมถึงไครเมียซึ่งเป็นคาบสมุทรของยูเครนที่รัสเซียผนวกกลับไปเป็นของตนเมื่อ 8 ปีก่อน

เขาเชื่อว่าเมื่อยูเครนได้ชัยชนะแล้ว ก็จะกลับไปสู่เส้นพรมแดนแบ่งกับรัสเซีย ณ จุดเดียวกับเมื่อปี 1991

อันเป็นปีที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย และ 14 ประเทศในเครือข่ายนี้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากมอสโก

นั่นเป็นความฝันหรือความจริงที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่มีใครตอบได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ