สงครามยูเครนปี 2023 จะออกได้กี่ทาง?

พอเปิดปีใหม่มา คำถามใหญ่สำหรับคนที่ติดตามสงครามยูเครนก็คือ : จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

รัสเซียจะชนะหรือยูเครนจะมีชัย?

โอกาสการเจรจาสงบศึกมีแค่ไหน?

ปูตินกับเซเลนสกีจะยังอยู่ในอำนาจอีกนานเพียงใด?

หรือสงครามจะบานปลายกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค?

เศรษฐกิจโลกจะถูกกระทบหนักต่อเนื่องมากน้อยเพียงใด?

และที่ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดก็คือ :

ไม่ว่าสงครามจะเดินไปในทิศทางใด “ระเบียบโลก” จะถูกเขย่าให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างไร?

คำถามทั้งหมดนี้มีความสำคัญต่อคนไทยทั้งสิ้น เพราะไม่ว่า “ฉากทัศน์” ของสงครามจะออกมาทางไหน ก็ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม

ผมแบ่งแนวทางการวิเคราะห์ออกเป็นสองสายใหญ่...คือ สายที่เชียร์ปูตินกับสายเชียร์เซเลนสกี

สำหรับคนที่ลุ้นให้รัสเซียแพ้นั้น นักวิเคราะห์ด้านนี้มองว่าจะเกิดการสู้รบครั้งใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิหลังฤดูหนาวผ่านไป

และการตัดสินใจของรัสเซียที่จะเปิดศึกครั้งใหญ่ในต้นปีหน้านั้นจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของสงคราม

บทเรียนในอดีตมีให้เห็นไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็นนโปเลียน ฮิตเลอร์ และสตาลิน ต่างก็เคยต้องเผชิญกับการวางแผนให้กองทัพเคลื่อนพลเมื่อเผชิญกับฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ

ในกรณีของสงครามยูเครน เมื่อรบกันมา 11 เดือนแล้ว ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องหยุดพัก

แต่นักวิเคราะห์ที่เทใจไปข้างเซเลนสกีบอกว่ายูเครนมีความพร้อมกว่า

และมีขวัญกำลังใจกับแรงจูงใจที่จะเดินหน้าต่อไป

และคาดหวังว่าทหารยูเครนน่าจะสามารถยังเดินหน้ากดดันทหารรัสเซียในแนวรบหลายจุด...อย่างน้อยก็สมรภูมิทางตะวันออกคือดอนบาส

นักวิเคราะห์ทางทหารบางค่ายมองว่า รอบๆ เมืองเครมินนาและสวาโตฟทางตะวันออกนั้น ทหารยูเครนเตรียมการบุกทะลวงครั้งใหญ่ที่จะมีผลทำให้กองกำลังรัสเซียต้องถอยร่นไปอย่างน้อย 60 กิโลเมตร ซึ่งหมายถึงการถูกดันกลับไปยังแนวป้องกันตามธรรมชาติถัดไป

หรือใกล้กับจุดที่ทหารรัสเซียคุมกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่รุกเข้ามาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

จึงเชื่อได้ว่าทหารยูเครนจะยังไม่หยุดการสู้รบทางตะวันออก แต่ก็อาจจะชะลอการรุกคืบทางตะวันตกเฉียงใต้หลังจากการฟื้นตัวของกองทัพที่ภูมิภาคเคอร์ซอน

นักการทหารที่เกาะติดความเคลื่อนไหวของทหารฝั่งยูเครนบอกว่า การคาดการณ์ว่าพวกเขาจะข้ามไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ Dnipro เพื่อกดดันถนนและทางรถไฟที่เปราะบางของรัสเซียที่เชื่อมโยงเข้าสู่ไครเมียอาจเป็นการคาดหวังทางบวกมากเกินไป

สำหรับปี 2566 ใหม่นี้ปัจจัยสำคัญคือชะตากรรมของการรุกในฤดูใบไม้ผลิของรัสเซียว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่

ปูตินยอมรับว่ากองกำลังที่เพิ่งระดมพลประมาณ 50,000 นายอยู่แนวหน้าแล้ว

แต่อีก 250,000 คนที่เพิ่งระดมกำลังกำลังฝึกเพื่อความพร้อมในวันข้างหน้า

ทั้งสองฝ่ายพูดถึงการเจรจาเพื่อสันติภาพ

แต่ก็เห็นชัดว่า การบรรลุข้อตกลงเช่นนั้นเป็นเรื่องยากเย็นยิ่ง

เพราะยูเครนประกาศแล้วว่าจะไม่หยุดยิง เพราะเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ปูตินพักรบ จัดทัพใหม่เพื่อจะรุกหนักกว่าเดิม

เซเลนสกีไม่เชื่อว่าปูตินมีความจริงใจที่จะแสวงหาสันติภาพ

และปูตินก็ระแวงเซเลนสกีว่าอาจจะพยายามใช้อาวุธชุดใหม่จากตะวันตกเพื่อโหมการสู้รบเพื่อสร้างความได้เปรียบในสนามรบ

ฉากทัศน์อีกด้านหนึ่งคือ หากการสู้รบยังดำเนินไปในแนวทางที่เห็นอยู่ขณะนี้ ยูเครนอาจจะสามารถตีคืนดินแดนที่ทหารรัสเซียยึดครองเอาไว้ในขณะนี้ได้

นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งทางตะวันตกเชื่อว่ายูเครนจะได้รับชัยชนะโดยการฟื้นฟูบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างสมบูรณ์ภายในฤดูใบไม้ผลิในปีนี้เป็นอย่างช้า

แนววิเคราะห์นี้ฟังดูจะ “โลกสวย” ไปหน่อยไหม

แต่นักวิเคราะห์สายนี้อ้างว่ามีปัจจัยสนับสนุนอย่างน้อยสองประการ

หนึ่งคือ แรงจูงใจ ความมุ่งมั่น และความกล้าหาญของกองทัพยูเครนและประชาชนชาวยูเครนโดยรวม ที่อยู่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์สงครามสมัยใหม่

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ โลกตะวันตกพอจะสรุปได้แล้วว่าจะต้องสนับสนุนยูเครนให้ได้ชัยชนะ เพราะหาไม่แล้วหากรัสเซียสามารถปราบยูเครนสำเร็จ สมการแห่งอำนาจในยุโรปจะถูกกระทบอย่างหนัก

ถือเป็นความท้าทายทางประวัติศาสตร์ที่ยุโรปตะวันตกไม่อาจจะยอมรับได้

อ่านถ้อยแถลงล่าสุดของ Jens Stoltenberg เลขาธิการใหญ่ของ NATO ก็พอจะเข้าใจถึงความตระหนักของโลกตะวันตกต่อรัสเซียวันนี้

 “ราคาที่เราจ่ายคือเงิน ในขณะที่ชาวยูเครนจ่ายด้วยเลือด หากรัฐบาลเผด็จการเห็นว่ากองกำลังได้รับรางวัลจากการรุกราน เราทุกคนจะต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่ามาก และโลกจะกลายเป็นโลกที่อันตรายมากขึ้นสำหรับพวกเราทุกคน”

และแน่นอนว่าจังหวะที่จะคว้าชัยชนะของยูเครนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นจะถูกกำหนดโดยความเร็วที่นาโตสามารถส่งชุดอาวุธโจมตีทางทหารชุดใหม่ที่สามารถเปลี่ยนเกมในสนามรบได้อย่างเป็นรูปธรรมให้กับยูเครน

นั่นหมายรวมถึงรถถัง เครื่องบิน และขีปนาวุธพิสัยไกล เป็นต้น

นักวิเคราะห์สายนี้คาดว่า Melitopol จะกลายเป็นแนวรบของการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกไม่กี่เดือนหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

เหตุก็เพราะหากทหารยูเครนเข้ายึดครองเมลิโทโปลได้สำเร็จก็จะสามารถเคลื่อนทัพเข้าสู่ทะเล Azov ได้อย่างง่ายดาย

นั่นเท่ากับเป็นการตัดสายส่งและการสื่อสารไปยังคาบสมุทรไครเมียที่ทหารรัสเซียยึดครองมา 8 ปี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากเป็นเช่นนี้ รัสเซียก็จะต้องยอมรับว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ของปูตินครั้งนี้ล้มเหลว

เมื่อรัสเซียไม่สามารถเอาชนะในสนามรบได้ ก็ต้องยอมเจรจาภายใต้เงื่อนไขส่วนใหญ่ของยูเครน

และฉากทัศน์ที่แนววิเคราะห์นี้มองก็คือ ประเทศด้านตะวันตกและยูเครนจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบ “สถาปัตยกรรมความมั่นคง” ระหว่างประเทศใหม่

ยังมีรายละเอียดที่ต้องวิเคราะห์กันอีกหลายแง่มุม พรุ่งนี้ว่าต่อครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ