จีน “เปิดประเทศ” รอบนี้ต่างกับตอนที่เติ้ง เสี่ยวผิงประกาศ “เปิดประเทศ” เมื่อกว่า 40 ปีก่อนเพื่อคบหากับสังคมโลกเพื่อสร้างประเทศจีนให้ทัดเทียมกับต่างชาติ
คราวโน้นเกิดจากความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันกับโลกตะวันตก
คราวนี้ การเปิดประเทศคือการรักษาสถานภาพของความเป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจ
และเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันทางการเมืองอันเกิดจากความไม่พอใจของประชาชนที่ถูกล็อกดาวน์มาเกือบ 3 ปี
คนไทยที่กำลังลุ้นว่าทัวร์จีนกำลังจะแห่แหนกันกลับมาเที่ยวเมืองไทยคงต้องรอจังหวะให้เหมาะเจาะก่อน
เพราะการเปลี่ยนนโยบายของจีนครั้งนี้เป็นไปอย่างฉับพลัน และการระบาดของโควิดในจีนยังมีอย่างกว้างขวาง
จำเป็นที่เราจะต้องให้แน่ใจว่าการพลิกนโยบายแบบ 360 องศาครั้งนี้จะไม่เกิดปัญหาที่ทางการจีนอาจจะต้องวกกลับไปใช้มาตรการควบคุมบางส่วนเพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาสังคมอีกด้านหนึ่ง
การประกาศปรับมาตรการโควิด-19 ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา
สร้างความแปลกใจให้กับผู้คนทั้งโลกก็ว่าได้
เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมปีใหม่นี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ
การเดินทางเข้าจีน จะ "ไม่มีการกักตัว และตรวจโควิด-19 เมื่อเข้าจีนอีกต่อไป
แต่ยังคงมีการแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง
ใครเดินทางเข้าจีนได้โดยตรงไม่ต้องยื่นคำร้องขอ health code หรือการรับรองตรวจสุขภาพผลตรวจโควิดจากสถานทูตหรือสถานกงสุลอีกต่อไป
นั่นหมายถึงเพียงแค่กรอกผลตรวจโควิด-19 ในใบ ตม. ตามปกติเหมือนการเดินทางเข้าประเทศอย่างที่เคยทำมา
อีกทั้งยังมีการประกาศว่าจีนจะไม่มีการ "ล็อกดาวน์" และ "จัดพื้นที่เสี่ยงสูง" ในจีนอีกต่อไป
อีกด้านหนึ่งมีการประกาศลดระดับการจัดการบริหารโควิดจาก "โรคประเภท A" เป็น "โรคประเภท B"
แปลว่าโควิดจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ HIV ไวรัสตับอักเสบ และไข้หวัดนก H7N9
ซึ่งก็เคยถูกจัดอยู่กลุ่มนี้ ในช่วงแรกของการพบโรคโควิด-19 ที่ตอนนั้นยังไม่ได้เรียกโควิด-19 อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2020
ที่ผ่านมาในจีนเรียกโควิดเป็น "โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่"
แต่นับจากนี้ จะเปลี่ยนไปเรียกว่า "การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่"
ทางการจีนบอกว่าการแพร่ระบาดโควิดทุกวันนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) เป็นหลัก
ส่วนใหญ่มีอาการน้อย หรือไม่มีเลย ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ติดเชื้อแล้วจะสีอาการปอดอักเสบ
ต่อมาก็มีการประกาศผ่อนคลายเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศอีก
โดยทางการบอกว่าจะออกหนังสือเดินทางให้คนจีนที่ต้องการออกนอกประเทศ
และจะเปิดให้มีการออกวีซ่าอย่างสะดวกมากขึ้นสำหรับการเดินทางเข้าและออกประเทศจีน
และมีคำประกาศย้ำว่า "การเดินทางระหว่างประเทศในช่องทางต่างๆ จะกลับมาทยอยให้บริการอีกครั้ง เช่นเที่ยวบินระหว่างประเทศก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน"
พอเปิดกว้างอย่างนี้ คนจีนก็เช็คหาข้อมูลจองเที่ยวบินและที่พักไปต่างประเทศกันอย่างคึกคัก
และประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนจีนสนใจจะมาเที่ยวกันเต็มที่
แต่ในระยะแรกน่าจะเป็นการเดินทางแบบบุคคล หรือกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มขนาดเล็ก
ส่วนทัวร์กรุ๊ปคงจะต้องรอให้สถานการณ์การควบคุมจำนวนคนป่วยและเสียชีวิตนิ่งเสียก่อน
ผมเชื่อว่าช่วงตรุษจีนคือปลายเดือนมกราคมซึ่งคนจีนจะเที่ยวภายในประเทศกันอย่างกว้างขวางคงจะเป็น ช่วงเวลาทดสอบว่าทางการจีนจะควบคุมดูแลโควิดได้มากน้อยเพียงใด
หลังจากนั้นเราจึงจะเห็นการเปิดให้ทัวร์กรุ๊ปออกจากประเทศ
ต้องไม่ลืมว่าคนป่วยในเมืองจีนยังพุ่งสูงและโรงพยาบาลในหลาย ๆ เมืองก็กำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวอย่างมาก
สื่อทั้งในและจากต่างประเทศต่างรายงานตรงกันว่าโรงพยาบาลล้น
ผู้ป่วยสูงอายุที่มีไข้เกือบ 40 องศาเซลเซียสมีทางเลือกคือรอหกชั่วโมงนอกโรงพยาบาลหรือกลับบ้านไปรักษาตามอาการ
หลายคนเลือกอย่างหลัง
“ตอนนี้พนักงาน 1 ใน 2 คนติดเชื้อและไม่สามารถมาทำงานได้” ตัวแทนของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งมีการดำเนินงานในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้บอกนักข่าว
พิจารณาจากข้อมูลในพื้นที่แล้ว อัตราการติดเชื้ออาจสูงกว่า 50% ในพื้นที่มหานครปักกิ่ง
เป็นการยากที่จะหาครอบครัวที่มีสมาชิกสามหรือสี่คนที่ปลอดจากโควิด บางคนบอกว่าอัตรานี้เกิน 70% ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
ชายวัย 50 ปีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองเสิ่นหยางทางตะวันออกเฉียงเหนือบอกว่าตอนนี้เขาและครอบครัวกำลังต่อสู้กับโรคโควิดที่ร้ายแรง และทุกคนมีไข้ 39 องศาเซลเซียสมาหลายวันแล้ว
แต่ร้านขายยาในบริเวณใกล้เคียงไม่มียาลดไข้เพราะชาวบ้านต่างแย่งกันซื้อตุนด้วยความตื่นตระหนก
คนมีสตางค์ของจีนกำลังสะสมเสบียงของ Paxlovid ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิดของ Pfizer และแจกจ่ายให้กับเพื่อนในวงการเดียวกัน
โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนหลายแห่งบอกกับ Financial Times ว่ายาดังกล่าวซึ่งมีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศฝั่งตะวันตกนั้นหมดสต็อกหรือมีให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะสุขภาพที่รุนแรงเท่านั้น
ราคาของยาตัวนี้จึงถูกดันจนราคาแพงหูฉี่
ทำให้เกิดประเด็นความเหลื่อมล้ำในสังคมขึ้นมาอีก
บางสำนักพยากรณ์ว่าจะมีคนจีนติดเชื้อ 250 ล้านคนภายใน 20 วัน เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ที่มีประชากรมากที่สุด ซึ่งรวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง
จีนนำเข้า Paxlovid ชุดแรกจำนวน 21,200 กล่องในเดือนมีนาคมเนื่องจากเซี่ยงไฮ้ประสบปัญหาการระบาดครั้งใหญ่
แต่การจัดส่งยังมีปัญหา เพราะที่นำเข้ามีเพียงไม่กี่หลายแสนกล่อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการ
“เราไม่ต้องการพึ่งพาประเทศอื่นสำหรับยาต้านโควิด” ที่ปรึกษาทางการแพทย์บอกกับนักข่าว “เราจำเป็นต้องสร้างพื้นที่ทางการตลาดสำหรับยาที่ผลิตในท้องถิ่น”
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปักกิ่งพยายามส่งเสริม LianhuaQingwenอย่างคึกคัก
เพราะเป็นยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่มีส่วนประกอบของสายน้ำผึ้ง รากชะเอมเทศ และต้นซีเทีย
ยาอีกตัวหนึ่งที่ทางการจีนส่งเสริมคือAzvudineซึ่งเป็นยาต้านไวรัสในประเทศ
แพทย์จีนบอกว่าเป็นยารักษาที่มีประสิทธิภาพแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลทางคลินิกก็ตาม
ทางการปักกิ่งแจ้งคลินิกชุมชนของรัฐว่าพวกเขาจะได้รับยา Paxlovid สำหรับผู้ป่วยสูงอายุแต่ในจำนวนจำกัด
แต่โรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมียาตัวนี้ในบัญชีประกันสุขภาพของรัฐ ระบุว่า ยาเม็ดที่ว่านี้จะถูกสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
“Paxlovid ของเราให้บริการผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายและไตวาย ซึ่งมีจำนวนมาก” แพทย์จากโรงพยาบาล Peking Union Medical College Hospital ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐกล่าว “เราไม่เหลืออะไรให้ผู้ป่วยที่ป่วยน้อยแล้ว”
ตอนนี้ที่เมืองจีนมีการบอกข่าวต่อ ๆ กันว่าคนจีนแย่ง Paxlovid ยิ่งกว่าเหล้าเหมาไถเสียอีก!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ