ในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา สถานการณ์ของทั่วโลกเริ่มคลี่คลายจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะประเทศไทย เปิดประเทศเต็มรูปแบบเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยความหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับมาบูมอีครั้ง แต่ก็ถูกดับฝันเมื่อโลกต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งของชาติมหาอำนาจ
โดยเฉพาะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่จะส่งผลให้ราคาพลังงานทั่วโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวจนกลายเป็นวิกฤตด้านพลังงาน ทำให้เศรษฐกิจที่กำลังเริ่มฟื้นตัวต้องหยุดชะงักลง ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเริ่้มเห็นได้ชัดเจนจากการส่งออกของไทยที่ติดลบต่อเนื่องมา 2 เดือน ถือว่าเป็นวิกฤตที่ซ้อนวิกฤตขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปัจจัยที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นจากภายนอกทั้งสิ้น โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชน ภาครัฐโดยกระทรวงพลังงานได้เดินหน้าออกมาตรการต่างๆ มาพยุงราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องให้กับประชาชน
จะเห็นได้จากล่าสุดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้เห็นชอบให้ปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือเอฟที งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2566 ส่งผลให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจออกมาแสดงความเห็นคัดค้านและเรียกร้องให้ปรับลดค่าเอฟที ดังนั้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรรอบใหม่ให้กับภาคธุรกิจถูกลงหน่วยละ 40 สตางค์ จากเดิมที่มติเดิมพิจารณาที่หน่วยละ 190.44 สตางค์ คิดเป็นค่าไฟฟ้าหน่วยละ 5.69 บาท ส่วนผลสรุปจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องมารอลุ้นกัน
นอกจากนี้ ภาครัฐโดยกระทรวงพลังงานยังได้รักษาระดับราคาขายปลีกดีเซล และตรึงราคาขายก๊าซหุงต้มให้กับกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อย คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือทางด้านพลังงานในปี 2565 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 232,800 ล้านบาท รวมทั้งยังวางมาตรการช่วยเหลือในด้านราคาก๊าซหุงต้มต่อเนื่องถึงช่วงต้นปี 2566 ด้วย เนื่องจากราคาพลังงานโลกยังมีแนวโน้มผันผวน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานอย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมติดตามสถานการณ์ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบันมีความไม่แน่นอน ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้ยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็วและกินระยะเวลายาวนาน
ดังนั้นที่ผ่านมานั้นจะเห็นว่ากระทรวงพลังงานได้ดำเนินมาตรการหลายด้านและเป็นรูปธรรม สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนเกือบตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา ตามที่กล่าวมาข้างต้น และต้องยอมรับกันว่าการแก้ปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องมีการพิจารณาหลายๆ แนวทางและมาตรการ ซึ่งบางมาตรการเป็นเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ต้องพยายามผลักดันให้ได้ผล และในบางกรณีอาจมีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงพลังงานพยายามปลดล็อกข้อจำกัดเหล่านั้น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตได้ สำหรับฉายาที่มีการตั้งกันว่า power blank นั้น ก้อไม่ใช่ซะทีเดียวกับความตั้งใจและข้อจำกัด power นั้นมันมีอยู่ แต่เราต้องใช้อย่างจำกัด และรู้ใช้กันด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐส่งออกมาเพื่อช่วยผ่อนภาระของประชาชนนั้น เป็นเพียงมาตรการที่แลกมาด้วยการเสียเงิน คือการเอาเงินในอนาคตมาใช้ก่อน และเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นๆ และก่อให้เกิดปัญหาสะสม
ดังนั้นหากจะแก้ไขกันจริงจัง สิ่งที่จำเป็นคือการสร้างสามัญสำนึกในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุด เหมือนกับที่ปัจจุบันหลายๆ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็มุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนอาจลืมเลือนการสร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด รักษ์โลก ไม่ทุจริต ทำงานอย่างโปร่งใส เต็มประสิทธิภาพ นั่นถึงจะเรียกว่าเชื่อมั่นที่จะเดินหน้าไปสู่ Net zero อย่างแท้จริง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ของขวัญรัฐบาล
อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว
ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ
ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!
“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.
ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โรงไฟฟ้าฟอสซิลต้นทุนพุ่งโตช้า
ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม
เคลียร์ปมสถานีอยุธยา
เมื่อพูดถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ไฮสปีดเทรนไทย-จีน) ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) พบว่าปัจจุบันงานโยธาทั้ง 14 สัญญาคืบหน้าไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งปัจจุบันยังมีอีก 2