หนังไทยไม่เคยตาย?

สื่อไม่ใช่เทวดา!

นี่..ไม่รู้คนในอาชีพสื่อจะพูดเองหรือเป็นเสียงจากคนภายนอกกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของใครก็ตาม ก็ดูจะเป็นจริงที่สุด..

มนุษย์ผู้มีกิเลสหนา กิน ขี้ ปี้ นอนอย่างเราๆ ท่านๆ จะเป็น “เทวดา” ไปได้อย่างไร?

เมื่อไม่ได้เป็นเทวดา ไม่มีอภิสิทธิ์เหนืออาชีพอื่นใดแล้ว ก็อยากให้สื่อได้ลองอ่านข้อความนี้ดู.. “ภาคประชาชนตั้งฉายาให้สื่อบ้างนะจ๊ะ”

๐ ขอตั้งบ้าง ฉายาสื่อที่ทำเนียบฯ อาจไม่เนี้ยบไม่กระชาก ก็อยากตั้ง อยากสะท้อนเปรี้ยงเปรี้ยง เสียงดังดัง ให้เป็นเหมือนน้ำขัง ไว้โงกดู

๐ ฉายา ๑ ตั้งว่า “สื่อ สมอง โบ๋” แต่ชอบโชว์มุมมองสมองทู่ ชอบก๋ากั่น ชอบกร่าง ข้างๆ คูๆ หลงว่าสิ่งที่ทำอยู่ นั้นชอบธรรม?

๐ ฉายา ๒ นั้นคือ “สื่อขยะ” ขอโทษนะ ถ้าแรงไป ในขย้ำ ก็ประเมินโดยยึดพฤติกรรม แหม ขำๆ ทีสื่อตั้ง ก็ยังแรง?

๐ ฉายา ๓ “สื่อกากๆ แต่ปากคัน” ไม่สร้างสรรค์ แต่ซ้ำๆ ชอบกำแหง เหมือนถือมีดในร่างไมค์ไว้ทิ่มแทง บางครั้งแฝงอคติ ที่ผลิบาน?

๐ ฉายา ๔ “สื่อเสื่อม น่าเอือมระอา” เหมือนหมดแล้วซึ่งจรรยา โอ้ตาหวาน เอาอคติมายำการทำงาน สนุกสนาน จนลืมว่าด้อยค่าใคร?

๐ สี่ฉายา ที่ขอมั่งตั้งให้สื่อ ประเด็นคือ สื่อช่วยตอบ ว่าชอบไหม ถ้าชอบ และลึกๆ ไม่นึกอะไร จะตั้งให้อย่างสนุก ในทุกปี

๐ ถ้าไม่ชอบ ก็จงคิดพิจารณา ที่ชอบตั้งฉายา คนโน้นคนนี้ เขาก็ไม่ชอบ ไม่ชิน ไม่ยินดี กับฉายาประเพณีบ้าๆ บอๆ

เปล่านะ..ผมไม่ใช่เจ้าบท-เจ้ากลอน แต่เจ้าของ-คนเขียนนามว่า “เพลงผ้า ปรพากย์” จะเป็นใคร-ผู้ใด ผมมิอาจทราบได้ แค่เพื่อนส่งไปให้ทางไลน์อีกที อ่านแล้วก็..สนุกดี..

ส่วนพี่ๆ-เพื่อนๆ สื่อจะคิดเห็นประการใด สุดแต่ใจเถอะนะ ขอเพียง..อย่าหัวร้อนก็แล้วกัน!

ครับ..วันก่อนเห็นข่าว ดร.ประพล มิลินทจินดา ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” ที่วางโปรแกรมฉายเอาไว้ 19 มกรา.ปีหน้า

ได้จัดกิจกรรม ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ เดินสายให้โชค โรดโชว์แจกธูปตัวเลขจำนวน 100,000 ดอกให้กับพี่น้องชาวใต้และอีสาน รวมถึงปริมณฑล ตามคอนเซ็ปต์..

“ขอได้ ไหว้รับ” พร้อมแฮนด์บิล ดูไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ แค่ 99 บาท ตลอดโปรแกรม ไม่ว่าจะชมที่โรงภาพยนตร์ไหน จังหวัดใด ก็จ่ายแค่ 99 บาท

ก็..เลยให้เกิดคำถามขึ้นมา ราคาตั๋วหนัง 99 บาท จะเป็นไปได้จริงหรือ? ซึ่งประเด็นนี้ผมขออวดรู้กับเขาหน่อยว่า เป็นไปได้จริงครับ!

และไม่ใช่มาเป็น (จริง) เอาเฉพาะหนัง “ไอ้ไข่ฯ” หากแต่โรงหนังทั้งสองเครือยักษ์ใหญ่ต่างก็ใช้การตลาด-ทำโปรโมชั่นลดราคาตั๋วหนังไทยมาตลอดในห้วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ต้องบอกก่อน..เฉพาะหนังไทยฟอร์มเล็กเท่านั้น บางเรื่อง-ทุกรอบ ราคาตั๋วเหลือแค่ 69 บาท หรือ 39 บาทก็ยังมีในพื้นที่-ทำเลเล็กๆ ที่คนดูไม่พลุกพล่าน..

บางโรง-บางแห่ง ในวันธรรมดาราคาตั๋วก็อยู่ที่ 99 บาทเป็นปกติอยู่แล้ว!

ถามว่า โรงหนังอยู่ได้เรอะ? อยู่ได้แน่นอน เพราะเขามี “ป๊อปคอร์น” ข้าวโพดคั่วไงล่ะ ก็เหมือนปั๊ม ปตท.นั่นแหละ ถ้าไม่มีร้านกาแฟ “อเมซอน” ป่านนี้ ปิดปั๊มไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ราคาตั๋วหนังก็ยังคงลอยตัวตามแต่เจ้าของโรงจะกำหนด แต่ถ้ายึดมาตรฐานทั่วไปก็จะอยู่ที่ 120-140 หรือ 160 นอกเสียจากโปรแกรมหนังใหญ่-โรงไฮโซหน่อย..

ตั๋วก็อาจจะทะยานไปถึง 180-200 บาท นี่ไม่พูดถึง “วีไอพี” เก้าอี้คู่ละ 500 คู่ละ1,000 นะ!

เอาล่ะ..เมื่อรู้แล้วก็เลิกบ่นเสียทีว่า “ราคาตั๋วหนังแพงเวอร์” เพราะที่ “ถูกเวอร์” ก็มีให้ได้เลือกซื้อตามกำลังทรัพย์แต่ละคน

ส่วนที่บ่นกันพึมในวงการ..หนังไทยไปไม่รอดแล้ว ไม่มีคนดู แต่ละเรื่องที่ฉายเจ๊งระเนระนาด ก็คอยดูหนัง “ทิดน้อย” แล้วกัน ถ้าเก็บร้อยล้านได้..

never die-หนังไทย!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขึ้นอยู่กับ“กรรม”แต่ละคน!

84 วันฝันร้าย! สุดท้าย คดีดิไอคอนกรุ๊ป อัยการฝ่ายคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม” คุณยุรนันทร์ ภมรมนตรี กับ “บอสมิน” คุณพีชญา วัฒนามนตรี ทุกข้อหา..

อหังการ-ขี้โม้เป็นนิสัย

เกิดอะไรขึ้น? เพื่อนคนหนึ่งถามผมหลังเห็นข้อความที่ “เสก โลโซ” โพสต์.. “ประกาศจากพี่เสก โลโซ เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่นักดนตรีประจำสามารถนำเพลงไปร้องได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์

เก็บเชือกไว้ใช้เองเถอะ

“เส้นกูใหญ่.. ใครก็ทำกูไม่ได้ ใครก็เอากูไม่ลง เพราะกูใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่านายพล ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ใหญ่กว่า... ใหญ่กว่าทั้งหมด กูแบ็กดี

คิดถึงนักรบลุง

กองเชียร์ กองหนุน กองรักลุงตู่.. มีใครพอจะทราบไหมว่า ตั้งแต่ปีเก่าจนลุเข้าปี 2568 บุคคล 2 ท่าน คุณแรมโบ้ คุณอ้น ทิพานัน ที่เคยร่วมรบเคียงบ่า-เคียงไหล่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หายหน้า-หายตาไปไหน?

เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก

เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน

นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?

ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..