สี จิ้นผิง กับบทบาทเป็น ‘ผู้ไกล่เกลี่ย’ ยุติสงคราม

ผมเพิ่งจะได้ยินจากสื่อทางการของจีนเป็นครั้งแรกว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมจะเล่นบท ผู้ไกล่เกลี่ย ให้ยุติสงครามยูเครน

สอดคล้องกับที่ผมเคยวิเคราะห์ว่า ในเวทีระหว่างประเทศ จีนน่าจะมีบทบาทในฐานะ คนกลาง ในข้อพิพาทนี้มากที่สุด

การเสนอตัวเป็นหนึ่งในประเทศที่จะช่วยระงับศึกนั้นมาในระหว่างการพบปะระหว่างสี จิ้นผิง กับอาคันตุกะจากมอสโก...

ดมิทรี เมดเวเดฟ คนใกล้ชิดของประธานาธิบดีปูติน

เมดเวเดฟมีหลายตำแหน่งเช่น

อดีตประธานาธิบดี

รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

หัวหน้าพรรค United Russia ของปูติน

แต่ที่สำคัญที่สุดคือตำแหน่งไม่เป็นทางการ นั่นคือในฐานะ มือขวาของปูติน

อีกทั้งในระยะหลัง เมดเวเดฟออกมาสวมบท เหยี่ยว เต็มตัว ด้วยการออกข่าวตอกย้ำถึงจุดยืนที่แข็งกร้าวของรัสเซียในการเผชิญหน้ากับตะวันตกผ่านสนามรบในยูเครน

วันที่เมดเวเดฟนำคณะจากรัสเซียไปเยือนปักกิ่งนั้น เป็นจังหวะใกล้กับที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีบินไปทำเนียบขาวที่วอชิงตัน...นอกจากจะพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว เขาก็ยังขึ้นกล่าวปราศรัยกับสภาคองเกรสอีกด้วย

จะถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์ทั้งสองกรณีก็ได้

นั่นคือการที่เซเลนสกีบินไปวอชิงตัน และเมดเวเดฟโฉบไปปักกิ่งโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า

แต่มีความหมายที่สำคัญทั้งคู่

เพราะเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าโลกกำลังแบ่งเป็นสองค่ายอย่างชัดเจน

ที่แตกต่างกันก็คือ ขณะที่เซเลนสกีไปขอให้สหรัฐฯ ส่งอาวุธมาช่วยเหลือเพิ่มเติม และขอให้ส่งอาวุธที่ทันสมัยกว่าเดิมเพื่อต่อกรกับทหารรัสเซียนั้น

เราไม่ได้ยินว่าเมดเวเดฟขอให้จีนส่งอาวุธมาช่วยรัสเซียรบในยูเครนแต่อย่างใด

ความแตกต่างตรงนี้มีความหมายหลายประการ
เพราะสี จิ้นผิง ได้แสดงจุดยืนที่ค่อนข้างแน่ชัดมาตลอดว่า แม้ว่าปักกิ่งจะยืนเคียงข้างมอสโกในฐานะพันธมิตรเก่า

แต่จีนก็ไม่พร้อมจะผลักดันให้มีการสู้รบด้วยการส่งอาวุธให้กับฝ่ายรัสเซีย

ทั้งๆ ข่าวบางกระแสชี้ไปว่ารัสเซียได้ติดต่ออิหร่านและประเทศอื่นในการแสวงหาอาวุธมาเพิ่มในคลังแสง

ดังนั้น การที่สี จิ้นผิง บอกเมดเวเดฟว่าจีนพร้อมจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกในการประสานให้มีการเจรจาเพื่อสงบศึก จึงเป็นแนวทางที่ไปคนละทางกับสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติต่อยูเครนโดยสิ้นเชิง

ทำนองว่า สหรัฐฯ ส่งเสริมให้สู้ต่อจนกว่าจะได้ชัยชนะในสนามรบแล้วจึงพูดถึงเรื่องการเจรจา

แต่จีนมีจุดยืนว่า ควรจะหยุดการสู้รบกันตอนนี้ และหันมาเจรจากันเสีย

ปัญหาอยู่ที่ว่ารัสเซียและยูเครนพร้อมจะฟังเสียงของจีนที่ให้หยุดการรบพุ่งเพื่อหันมาต่อรองทางการทูตหรือไม่

จีนมี แรงจูงใจ อะไรให้กับทั้งรัสเซียและยูเครนหรือไม่

สำคัญกว่านั้นคือ สี จิ้นผิง จะยกหูถึงปูติน, โจ ไบเดน, เซเลนสกี, เอมมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส, โอลาฟ ชอลซ์  ของเยอรมนี เพื่อเสนอแผนสันติภาพที่ยั่งยืนสำหรับยูเครนหรือไม่

ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวของจีน สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนยินดีที่จะมีบทบาทในการไกล่เกลี่ยวิกฤตยูเครนตามคำเรียกร้องของผู้นำยุโรป

แม้ว่าปูตินและสี จิ้นผิง จะสนิทชิดเชื้อกัน แต่ชาติตะวันตกเรียกร้องให้จีนดำเนินการ มากกว่าที่ผ่านมา หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน

สี จิ้นผิง บอกว่าจีนยินดีที่จะ ทำงานอย่างแข็งขัน กับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อไกล่เกลี่ยสงครามในยูเครน

แต่นักข่าวที่เกาะติดเรื่องนี้บอกว่าได้พยายามจะเสาะแสวงหารายละเอียดของแนวคิดของจีน แต่ก็ไม่มีเบาะแสเพิ่มเติมที่พอจะนำไปวิเคราะห์ก้าวต่อไป

แต่สีย้ำว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซียเช่นกัน

แปลว่าจีนกำลังบอกโลกตะวันตกว่าอย่างไรเสียจีนก็ยังมีเรื่องที่ต้องยืนอยู่ข้างเดียวกับรัสเซียอยู่หลายประการ

ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี Olaf Scholz ของเยอรมนี และประธานาธิบดี Emmanuel Macron ของฝรั่งเศส สี จิ้นผิง ย้ำว่าสถานการณ์ในยูเครนนั้น น่าเป็นห่วง

และจีนก็ เสียใจอย่างสุดซึ้งกับการเกิดสงครามอีกครั้งในทวีปยุโรป

ประโยคของสีทั้งหมดนี้ ปรากฏเป็นหลักฐานจากคำแถลงจากกระทรวงต่างประเทศของจีน

ถ้อยแถลงทางการจีนที่อ้างถึงสีในเรื่องนี้น่าสนใจ

อีกตอนหนึ่งบอกว่า “จีนจะยังคงสื่อสารและประสานงานกับฝรั่งเศส  เยอรมนี และสหภาพยุโรป และในแง่ของความต้องการของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะทำงานร่วมกันอย่างแข็งขันกับประชาคมระหว่างประเทศ”

ถ้อยแถลงเสริมว่า ความพยายามทั้งหมด เอื้อต่อการปูทางสู่สันติภาพหลังระบบวิกฤตสงคราม

ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศจีน ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสต่างก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานกับปักกิ่งเพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพ

แน่นอนว่า จีนและรัสเซียมีความผูกพันกันเป็นพิเศษในเชิงกลยุทธ์ร่วมกันในอันที่จะยืนหยัดท้าทายแรงกดดันจากตะวันตก

แต่พอเกิดสงครามยูเครน (โดยที่รัสเซียจะได้ปรึกษาขอความเห็นจากจีนก่อนหรือไม่ก็ตาม) ก็กลายเป็น บททดสอบมิตรภาพ ของสองประเทศนี้อย่างชัดเจน

จีนไม่ได้ประณามการโจมตีของรัสเซียโดยตรง หรือกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก

แต่ก็ไม่ได้เร่งรีบช่วยเหลือรัสเซียหลังจากที่เศรษฐกิจของตนได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรจากทั่วโลก

โดยผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์รอบด้านก็ยอมรับว่า จริงๆ แล้วทางเลือกของปักกิ่งมีจำกัดพอสมควร

ธนาคารและบริษัทต่างๆ ของจีนก็กลัวการคว่ำบาตรโดยตะวันตกเช่นกัน

น่าสังเกตเช่นกันว่า ปักกิ่งปฏิเสธมาโดยตลอดที่จะเรียกสงครามในยูเครนว่าเป็น การรุกราน

โดยเจ้าหน้าที่จีนมักชี้ไปที่การขยายตัวไปทางตะวันออกของนาโตว่าเป็นต้นตอของความขัดแย้ง

ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่รัสเซียอ้างในการเปิด ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร  ในคำแถลงของทางการจีนนั้น สีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพและสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่าย รักษาการเจรจาต่อไป และนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่สันติ

เป็นอีกครั้งที่จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ใช้ ความยับยั้งชั่งใจขั้นสูงสุด เพื่อป้องกันวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่

และระบุว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแก่ยูเครน

สี จิ้นผิง ไม่ลืมที่จะประณามการคว่ำบาตรของตะวันตกอีกครั้งในระหว่างการพบกับเมดเวเดฟ

โดยเตือนว่า การทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการ “บั่นทอนเศรษฐกิจโลกที่ถูกทำลายโดยโรคระบาดไปแล้ว”

“มาตรการเหล่านั้นไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครเลย เราจำเป็นต้องสนับสนุนวิสัยทัศน์ของความมั่นคงร่วมกัน ครอบคลุม ร่วมมือ และยั่งยืนอย่างแข็งขัน” สีกล่าว

ไม่แน่ ถ้าสี จิ้นผิง เล่นบท ท้าวมาลีวราช อย่างจริงจัง ก็อาจจะกลายเป็นแคนดิเดตเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพก็ได้...ใครจะรู้!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ