ไม่ทราบเหมือนกันว่า "ตำรวจ-อัยการ" จะรู้สึกอย่างไร?
ต่อคดี "หลงจู๊สมชาย"
ที่ศาลตัดสิน "ยกฟ้อง" ไปเมื่อศุกร์ที่แล้ว
คงจำกันได้ ช่วงโควิดระบาดหนักปี ๖๓ คนติดเชื้อบอกไปเล่นบ่อน "หลงจู๊สมชาย" ที่ระยองมา จนเป็นคลัสเตอร์แพร่เชื้อไปทั่ว
ตำรวจไปทลายบ่อน ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทา "หลงจู๊สมชาย" กับ "นายตำรวจใหญ่" ในพื้นที่ "เอื้ออาทรต่อกัน"
การทลายบ่อนและตามจับหลงจู๊สมชายต่อมา เป็นข่าวครึกโครมมาก
ตำรวจทำสำนวนคดีส่งอัยการ บอกมั่นใจ หลักฐานแน่น ดิ้นไม่หลุด ทั้งเรื่องบ่อน เรื่องฟอกเงิน
อัยการพิจารณาความสมบูรณ์ของสำนวนแล้ว พอใจ
"พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ๑" นำคดีขึ้นสู่ศาล
เป็นโจทก์ฟ้อง "นายสมชาย จุติกิติ์เดชา" หรือ "หลงจู๊สมชาย" กับพวก รวม ๔ คน
เป็นจำเลยในฐานความผิด พ.ร.บ.การพนัน, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ พ.ร.บ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
๒๓ ธ.ค.๖๕ หลังไต่สวนและสืบพยานครบถ้วนแล้ว ศาลก็มีคำพิพากษา ว่า
"พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานโจทก์ที่นำสืบมา ยังมีข้อน่าสงสัยหลายประการ
พยานหลักฐานโจทก์ จึงยังเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัย และยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า "จำเลยได้ร่วมกันกระทำความผิด"
จึงพิพากษา "ยกฟ้อง" หลงจู๊สมชาย"
ครับ....
คำพิพากษาออกมาพอดีในช่วง "คดีตู้ห่าว" กำลังอื้อฉาวและถูกสังคมเพ่งเล็ง ด้วย "ไม่เชื่อใจ" ว่าตำรวจนครบาล ที่ทำคดีนี้ จะ "ซื่อสัตย์-สุจริต"
ซ้ำรอยคดี "หลงจู๊สมชาย" เป็นไปได้สูงระดับ ๙๙%
เพราะ "ตู้ห่าว" มีเมียเป็นถึง "พันตำรวจเอก"
คือ "พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์" ผกก.งานฝ่ายประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ กองบังคับการกองการต่างประเทศ
ซ้ำเป็น "หลานสาว" พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" อดีต ผบ.ตร. และอดีต "รองนายกฯ" ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ตู้ห่าวคือ "หลานเขย" พล.ต.อ.ประชา!
ภาพงานเปิดบริษัททัวร์ของตู้ห่าวที่ "จรเข้น้อย" ย่านลาดกระบัง กทม. อย่างที่เห็นตามโซเชียล
บารมีตู้ห่าวในแวดวงตำรวจและการเมืองขนาดไหน ดูได้จากภาพนั้น
นอกจาก พล.ต.อ.ประชาแล้ว ยังมีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.เจ้าถิ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมัยนั้น น่าจะเป็น ส.ส.สอบตกของพรรคเพื่อไทย และ พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน ลูกเขย พล.ต.อ.ประชา
และมีนายตำรวจ "ในเครื่องแบบ" นายหนึ่งยืนเคียงข้างนายตู้ห่าวด้วย หะแรก ผมไม่ทราบว่าใคร
มาทราบเอาตอน "ท็อปนิวส์" ไปสัมภาษณ์ออกอากาศ จึงทราบว่าเป็น "พล.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ" ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในปัจจุบัน
ท่านบอก ภาพนั้น ตั้งแต่สมัยท่านเป็น "รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ "พล.ต.อ.ประชา เป็นรองนายกฯ รัฐบาลเพื่อไทย
ส่วนตัว "ไม่รู้จัก" ตู้ห่าว
วันนั้น พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน มาชวนไปงานเปิดบริษัททัวร์หลานเขยท่านประชา จึงไป
พล.ต.อ.ภาณุรัตน์ นี่คือใคร ทราบมั้ย?
ทราบ...คือ "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ขณะนี้
แต่ควรทราบต่ออีกซักนิด พล.ต.อ.ภาณุรัตน์ คืออดีต "นายเวร" ของ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"
น้องชาย "บิ๊กป้อม"....
ที่ช่วยบิ๊กป้อม "บริหาร-จัดการ" พรรคพลังประชารัฐอยู่เบื้องหลังขณะนี้
ก็ไม่มีอะไร เพียงยกมาให้เห็นว่า "ตู้ห่าว" ระดับหลานเขย อดีต ผบ.ตร., อดีตรองนายกฯ แถมเมียเป็น "ผู้กำกับ" ระดับพันตำรวจเอกหญิง
แล้วยังต้องให้จาระไนอีกมั้ยว่า "ตู้ห่าว" กับ "ตำรวจ" จะเผ่งอิ้วซี้ "ทุกระดับประทับใจกัน" ขนาดไหน?
ที่ "ชูวิทย์" ออกมาเหมือนดึงแย้ออกจากรูนั่นน่ะ ไม่เกินความจริงหรอก
ถ้าชูวิทย์ไม่บ้าชนิด "ระห่ำลำหัก" ออกมาดับเครื่องชน ปล่อยให้ตำรวจนครบาลทำคดีตามปกติละก็
ขึ้นศาลวันไหน ก็หวังได้วันนั้น..........
"คดีตู้ห่าว" จบแบบคดี "หลงจู๊สมชาย" พันเปอร์เซ็นต์!
ตำรวจน่ะ เชื่อใจได้ทุกคน
แต่การ "ทำสำนวน" เชื่อไม่ได้ทุกคน!!!
ก็ดูซี วันที่ไปจับผับจินหลิง เป็นข่าวครึกโครมขนาดนั้น ยังมีนายตำรวจ จาก สน.ลาดพร้าว, สน.ยานนาวา เอง และระดับรองผู้บังคับการนครบาล
"ช่วยโจร" ซึ่งๆ หน้า จนถูกดำเนินคดีตอนนี้่
แต่ตอนหน้า พอเรื่องเงียบ จะเข้าอีหรอบเดิมหรือไม่ ก็ต้องฝากคุณชูวิทย์ "ผู้ควบคุมตำรวจ" ช่วยสอดส่องเป็นระยะ
สรุป.....
ประชาชน ไม่ไว้เนื้่อเชื่อใจ "ในความซื่อสัตย์สุจริต" ของตำรวจต่อการทำคดีเลย!
ลำพัง "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์" ผบ.ตร.คนเดียว แม้ว่องไวขนาดไหน ก็ไล่ตะกวดไม่ทัน
จนเมื่อท่านอัยการสูงสุด "นางสาวนารี ตัณฑเสถียร" ตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลคดี ตรงนี้แหละ
เรียกความมั่นใจต่อการทำ "คดีตู้ห่าว" กลับคืนมาได้กว่า ๗๐-๘๐%
กรณี "ตู้ห่าว" แยกเป็นหลายคดี ทั้งฟอกเงิน ทั้งแปลงวีซ่า
เฉพาะ "ผับจินหลิง" ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาตู้ห่าวตอนนี้....
"ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาอี, เฮโรอีน) อันเป็นการมีไว้จำหน่ายเพื่อการค้า อันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
ร่วมกันเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ"
การทำคดี ตามคำสั่งอัยการสูงสุด จะเป็นแบบนี้ คือ
-ให้ ผบ.ตร. "เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ"
พนักงานสอบสวนร่วม ประกอบด้วย.....
-พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล, สอบสวนกลาง, กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด
และกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ทั้งหมดนี้ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแล, ตรวจสอบ, แนะนำ, เร่งรัดให้เป็นไปตามกรอบเวลา และการวางแนวทาง ของ "คณะทำงาน" ที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้น ประกอบด้วย
-อัยการสูงสุดและ ผบ.ตร.เป็นที่ปรึกษา
-รองอัยการสูงสุด เป็น "หัวหน้าคณะทำงาน"
ทีมงานเป็นอัยการเป็นส่วนใหญ่ มี "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" เป็นคณะทำงาน
คดี "จินหลิง" ตำรวจ-อัยการ จะทำงานร่วมกันตามผังนี้
พูดกันตรงๆ นับตั้งแต่อัยการสูงสุด "หญิงคนแรก" ท่านนี้เข้ามาสั่งการ
ประชาชนมั่นใจด้วย "หวังผลสำเร็จ" สูงระดับ ๘๐-๙๐% เลยทีเดียว!
เมื่อวันเสาร์ (๒๔ ธ.ค.) ตำรวจนำหมายศาลไปจับ "พ.ต.อ.หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์" เมียนายตู้ห่าวแล้ว
ฐานความผิด "ฟอกเงิน"
พร้อมพวกรวม ๗ คน หลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีส่วนพัวพันการฟอกเงินกับนายตู้ห่าว
๗ คน ก็มี.....
พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์, นายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง, นายสิทธิไพบูลย์ คำนิล
นายฉัตรชัย ลาภอำนวยเจริญ, นายณัฐวุฒิ ศรีอ่อน, นายสิทธิกร ประภาจรัสวงศ์, นางสุรัสวดี ทองเพิ่มพลอย
ส่วนอีก ๑ คนที่ตำรวจเคยเรียกมาสอบสวนแล้วปล่อยไปตัวไปคือ “นางพัชรินทร์” ที่ว่าเป็นมือสองรองจากตู้ห่าวนั้น ขณะนี้ ถูกควบคุมตัวแล้วเช่นกัน
เฉพาะคดี "จินหลิง" ทั้งที่จับแล้วและกำลังตามจับ รวมๆ ประมาณ ๑๕ คน รวมทั้ง "หลานชาย" ตู้ห่าว ที่บินหนีไปก่อน
ก็สรุปยอดให้ทราบกัน
ตอนนี้ทุกคนเป็น "ผู้ถูกกล่าวหา" เท่านั้น ตำรวจต้องสอบสวนให้ทันกรอบเวลาควบคุมตัว ไม่งั้นต้องปล่อย
"นายตู้ห่าว" ที่ฝากขังศาลเหมือนกัน มีกำหนด ๘๔ วัน จะครบราวๆ กุมภา. ถ้าทำสำนวนคดีไม่เสร็จ ก็ต้องปล่อย
แต่ ผบ.ตร.ในฐานะ "หัวหน้าพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ" ยืนยันแล้ว ทำงานกันไม่มีวันพระ-วันโกน รับรองเสร็จทันแน่
ต้องเชื่่อท่าน เชื่อ "คณะทำงาน" ของท่านอัยการสูงสุด
ถ้าคดีตู้ห่าว "ล้ม"
"อสส.-สตช." ก็สมควร "ล้ม" ด้วย!
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กาสิโน "งาบก่อนพัง"
เรื่อง "กาสิโน" มีได้! แต่ภายใต้เงื่อนไข ๒ ข้อที่ "ภาครัฐ" ต้องปฏิบัติให้เห็นผลเป็นที่ประจักษ์ก่อน
ทำให้โง่ 'ง่ายปกครอง'
สมมุติ "ชาวบ้าน" ไม่รู้ว่า..... "อบจ." "คืออะไร" และ "มีไว้ทำไม" เป็นเรื่้องพอเข้าใจได้
เปลี่ยน เพื่อ...เปลี่ยน!? | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
เปลี่ยน เพื่อ...เปลี่ยน!? จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568
แม่หมอ..มองทะลุ ปี 68 เปลี่ยนนายกฯ ..ยุบสภา-ลาออก!!.. I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
เอาซะทีเถอะน่า...กกต.!
หมาน่ะ .... จุ๊ๆ ปาก มันยังหยุด เอียงคอ ตาจ้อง หูตั้ง และฟัง แต่ที่ "นายอิทธิพร บุญประคอง" ประธาน กกต. กระแอมถึงนายทักษิณ ผู้ช่วยหาเสียง "ผู้สมัครนายก อบจ." พรรคเพื่อไทย
ใคร 'เจ้าภาพบ้านเมือง'?
ดูคลิปและฟังคำที่.... "ทักษิณ" ทอล์กกับบรรดา "หมาในคอก" ของเขาวันก่อนแล้ว