สะพานรักสารสิน

เงียบเสียงกันลงหน่อยได้ไหมครับ?

โดยเฉพาะ “นักการเมือง” และ “สื่อ” ..พูด-คุยกันแต่พอได้ยิน เพื่อให้คนในชาติไทยได้มีสมาธิ ร่วมกันส่งกำลังใจ..

ถวายแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ได้ฟื้น-หายจากพระอาการประชวรในเร็ววันเถิด!

ครับ..หนังมีกำหนดจะเข้าโรงฉายวันที่ 19 มกรา.ปีหน้า และในขณะที่ผู้กำกับคือคุณเอกชัย ศรีวิชัย วุ่นวายอยู่กับการวางแผนประชาสัมพันธ์-การตลาด

ฟาก “ผู้เขียนบท” คุณอาคม อาษาชำนาญ หรือ “อาร์ม อิสระ” ดูเหมือนจะกระวนกระวายอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะหลังจากได้คุยโม้กับผมเมื่อไม่กี่วันผ่าน

วานซืน ก็ได้เขียนเล่าเบื้องหลังของหนังเรื่อง “สะพานรักสารสิน” ตำนานความรักของนักศึกษาครูกับหนุ่มรถสองแถว

ที่นอกจากจะโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว ยังได้อีเมลไปถึงผมเหมือนกับรู้ว่า เป็นหนังคุณเอกชัยกำกับ อย่างไรเสียผมคงจะไม่นิ่งดูดาย!

ก็..จริงของคุณอาร์ม เมื่ออ่านแล้วก็ให้เกิดอยาก คือ ทั้งอยากดู และอยากสนับสนุน หรือพูดให้ตรง “อยากเชียร์” หนังขึ้นมาทันที ทั้งนี้คุณอาร์มในฐานะคนเขียนบทได้เล่าว่า..

“..สะพานรักสารสิน จะเน้นการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่ต้องการนำเอาเรื่องราวความรักมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจเด็กรุ่นใหม่ เชื่อมช่องว่างระหว่างพ่อแม่กับลูกให้เข้าใจกัน

เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำขึ้นมาอีก โดยตัวหนังจะเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวใต้ ในหัวอกของความเป็นพ่อว่าทำไมถึงได้ห้าม และกีดกันลูกเช่นนั้น

ที่เอกชัยเลือกผมมาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า "ผมเป็นคนใต้ ผมเป็นพ่อคน ผมต้องเข้าใจความรู้สึกของคนใต้เราว่ารู้สึกอย่างไรในเกียรติและศักดิ์ศรีของคนใต้

และผมต้องเข้าใจว่าความรักลูกนั้นมันมีมากแค่ไหน ทำไมพ่อคนนี้จึงไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับคนขับรถ"

เพราะคนใต้อย่างเรานั้น หยิ่งในเกียรติของตนเอง กริ่งเกรงคำคนครหานินทามากที่สุด แม้พ่อจะรักลูกแค่ไหน พ่อก็ไม่มีวันให้ลูกมาย่ำยีศักดิ์ศรีของครอบครัวได้

การที่ลูกสาวซึ่งกำลังจะเป็นครู เป็นข้าราชการ แต่ต้องมาแต่งงานกับคนขับรถที่ไม่มีความรู้เลยนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีใครค่อนขอดนินทา

ถามว่าพ่อเสียใจมั้ยที่กีดกั้นความรักของลูกสาวที่ตนเองรักดั่งแก้วตาดวงใจ บอกเลยว่า โคตรเสียใจ เพราะคำพูดของคุณแม่ตอนที่ผมลงไปสัมภาษณ์ท่านนั้น

ท่านบอกว่า คุณพ่อบ่นเสียใจ และรู้สึกผิดที่ทำให้ลูกต้องตาย มันคือบาดแผลที่ฝังอยู่ในใจของท่านจนถึงวันสิ้นลม..

"กูไม่น่าไปขวางพวกมันเลย" นั่นคือคำพูดที่คุณพ่อบอกกับคุณแม่ก่อนจากไป แม้จะเสียใจ มันก็สายไปแล้ว

และนั่นเองที่ทำให้ผมนำสิ่งเหล่านี้มาถ่ายทอดออกไปในบทของ "โกฮวด" ซึ่งรับบทโดยเอกชัย ศรีวิชัย ผู้ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับด้วย...

แรงบันดาลใจจากการที่ได้ลงไปพบกับคุณแม่ของพี่สาวผู้สร้างตำนาน ได้ยินคำบอกเล่าของท่าน ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของบุพการีผู้สูญเสียลูกไป

ได้สัมผัสกับความเสียใจ ความทุกข์ทรมานที่กัดกร่อนกินใจมากว่า 47 ปี สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นแรงผลักดันให้ผมได้มีแรงบันดาลใจที่สุดในการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา..

ผมเน้นความรู้สึกของทั้งสองคนเพื่อตอบโจทย์ที่ทุกคนตั้งคำถามว่า "ทำไมทั้งสองคนจึงต้องโดดน้ำตาย" ทำไมพวกเขาจึงไม่หนีตามกันไป เพื่อสร้างครอบครัวของตนเองที่ในจังหวัดอื่น

ทำไมถึงเลือกความตาย เป็นจุดจบของชีวิตรัก และทำไม ถึงต้องไปกระโดดน้ำตายที่สะพานสารสินด้วย ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีคำตอบให้กับทุกคำถามนั้นครับ”

ครับ..คำตอบจะเป็นอย่างไร รอดู-รอฟังได้ 19 มกรา.ปีหน้า แต่ที่ยังให้คำตอบไม่ได้ก็เห็นจะเป็นลุง เพราะถึงตอนนี้ก็ยังกระมิดกระเมี้ยน สงวนท่าที-ลีลาอยู่เหมือนเดิม สงสัย..

“ผมพอแล้ว” เป็นคำตอบสุดท้ายซะกระมัง?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ได้อภิสิทธิ์เหนือคนไทยทั้งมวล?

“ผมพอแล้ว”! คำพูดประโยคนี้ไม่เคยหลุดจากปากนักการเมือง หรือจะหลุดให้ได้ยินบ้าง ก็ประเภทตอแหล ปลิ้นปล้อน กะล่อน อย่างเช่นว่า..

เผ่นได้เผ่นก่อน?

ใกล้จะ 70 แล้ว แต่ “พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ใบหน้ายังเต่งตึงใสไม่ต่างไปจากวัย 40-50 ปี ส่วนจะยังมีกำลัง-เรี่ยวแรง ร้อง-เต้นหน้าเวทีเหมือนสมัยรุ่นๆ หรือไม่?

นิราศเมืองสงขลา

นั่งเครื่องมาดูให้เห็นกับตา.. ก็..เมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา นั่นสิครับ หลังจากที่คนในและต่างพื้นที่ต่างอึดอัดคับข้องใจกับแผงขายสินค้า หลังคา กันสาดที่รกพะรุงพะรัง..

“ผีโม่แป้ง”..เป็นคำตอบ

Let It Be Take..ช่าง (แม่ง) มันเถอะ! เมื่อมันจะเอา และต้องเอาให้ได้ ก็เห็นจะไม่ใช่แค่ “ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย” เป็นแน่..

ยกเลิก..“แบนหนัง”?

คุณนุชี่-อนุชา บุญยวรรธนะ.. อดีต.. “นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งถึง 2 สมัย (4 ปี) ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนเมื่อหลายวันก่อนนู้น