ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" ลอยความขัดแย้ง! คำอธิษฐานล่วงหน้าของ "บิ๊กป้อม" ก่อนจะลอยกระทงจริงวันศุกร์นี้ ในงาน "ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ปลอดโรค ปลอดภัย" ซึ่ง "บิ๊กตู่" จะควงอาจารย์น้อง นำ ครม.และคู่สมรส รวมถึงข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูงของทำเนียบรัฐบาล โดยทุกคนจะมาในชุดผ้าไทย มาร่วมกันลอยกระทง ณ คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล แอบส่องกำหนดการ จะเริ่มประมาณห้าโมงเย็น ด้วยการชมนิทรรศการองค์ความรู้ สาระคุณค่า และข้อปฏิบัติสำหรับเทศกาลประเพณีลอยกระทงในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อด้วยชมการแสดงชุดสายน้ำแห่งวัฒนธรรม
โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หลังนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวรายงานการจัดงานนี้แล้ว นายกฯ และภริยา ครม.และคู่สมรส ถือกระทง ร่วมกันถ่ายภาพ ก่อนจะร่วมลอยกระทง พร้อมกับชมการจำลองวิถีชีวิตตลาดน้ำ แม้จะเป็นงานลอยกระทงปีที่ 2 แบบนิวนอร์มอล แต่ปีนี้คุมเข้มโควิดมากกว่าเยอะเลย ยึดมาตรการเคร่งครัดตามที่ ศบค.กำหนด อาทิ ผู้เข้าร่วมงานจะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และต้องตรวจ ATK โดยสำนักอนามัย กทม. หรือมีผลตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมง ที่สำคัญเข้างานได้ไม่เกิน 100 คน ปีนี้สื่อทำเนียบฯเลยอดร่วมลอยกับนายกฯ เพราะกองทัพสื่อก็ปาไปร่วม 100 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ เลยจัดให้ไปลอยริมคลองฝั่งตรงข้ามแทน
๐ เล่นใหญ่ "หมอชลน่าน ศรีแก้ว" สวมบทว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านไอเดียบิ๊กตู่ “ข้อเสนอของนายกฯ เป็นในลักษณะของการไม่ง้อ โดยให้กระทรวงคมนาคมใช้รถขนส่งสาธารณะ และให้ทหารนำรถทหารทำการขนส่งแทน วิธีคิดแบบนี้ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองหาทางออกไม่ได้ เหมือนเป็นการยั่วยุให้เขาเพิ่มมาตรการกดดัน ในฐานะ ส.ส. และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอกราบเรียนไปยังนายกฯ เวลาพูดอะไรขอให้พูดออกมาจากมันสมองของผู้นำประเทศบ้าง ขออนุญาตพูดแรง ขอให้ใส่ใจพี่น้องประชาชนบ้าง” จัดหนักขู่จะร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อหาจงใจกระทำผิดต่อหน้าที่ โทษฐานใช้รถทหารมาเป็นรถบรรทุกขนส่ง ผิด พ.ร.บ.การขนส่งทางบก หยิบมาแค่บริบทเดียวแต่ไม่พูดถึงองคาพยพทั้งหมด ดูบทบาทหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ดีกรีร้อนแรงขึ้น แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในการเมืองยุคเก่า คงต้องรอชมผลงานซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ที่จะนำทีมพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นสภากลางเดือนหน้าขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 152
๐ ดรามาอีกจนได้! สังคมไทยยุคนี้ช่างอ่อนไหวเสียจริง ท่องแต่คำว่าสิทธิเสรีภาพ (ของตัวเอง แต่ไม่ยักคำนึงของผู้อื่น) ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหน้าที่ ประเด็นฉีดวัคซีนเป็นเรื่องของความสมัครใจอยู่แล้ว ไม่มีข้อกฎหมายบังคับได้ แต่อย่าลืมว่าการฉีดวัคซีนก็ถือว่าเป็นการรับผิดชอบต่อตัวเอง ครอบครัว และสังคมอย่างหนึ่งเหมือนกัน ถ้าเราร่วมมือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โรคโควิดก็ไม่สามารถทำร้ายเราให้เจ็บหนักหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ โควิดก็จะกลายเป็นโรคติดต่อประจำถิ่นอย่างที่อาจารย์หมอพูดกัน ทางเดียวที่จะช่วยให้ทุกคนฉีดวัคซีนได้ก็คือมาตรการทางสังคม ฟังที่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ออกมาเคลียร์ปมร้อนหลังให้สัมภาษณ์เรื่องวัคซีนไปเมื่อวันพุธ จะว่าไปสิ่งที่เสี่ยหนูพูดก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ต้องตื่นเต้นตกใจ เพราะทุกวันนี้ก็กลายเป็นมาตรการที่เกิดขึ้นในยุคนิวนอร์มอลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขหนึ่งของสถานที่ทำงาน ข้อกำหนดของการเข้าสถานที่ รวมถึงสถานบริการต่างๆ อย่างร้านอาหาร ร้านตัดผม โรงหนัง หรือแม้แต่การขึ้นเครื่องบิน เพราะวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิดก็คือความร่วมมือ และการฉีดวัคซีนก็เป็นหนึ่งในนั้น ขอแค่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ก็ไม่ใช่ทำเพื่อใคร ก็เพื่อตัวเองก่อนอันดับแรก ผลที่ตามมาก็จะส่งถึงครอบครัว และสังคมตามลำดับ จะได้ไม่ต้องเจอวิกฤตโควิดซ้ำแล้วมัวแต่โทษคนอื่นอีก.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0


