การไปเยือนซาอุดีอาระเบียของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสร้างความฮือฮาในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศพอสมควร
หะแรกคือภาพการต้อนรับที่ค่อนข้างอลังการและอบอุ่นเมื่อเปรียบเทียบกับการไปเยือนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ก่อนหน้านั้นไม่นาน
หนีไม่พ้นว่านักวิเคราะห์มองว่าจีนแซงหน้าสหรัฐฯ ไปสร้างมิตรกับประเทศยักษ์ใหญ่ในตะวันออกกลางอย่างซาอุฯ
และเมื่อโลกกำลังแบ่งเป็น 2 ขั้วใหญ่ ซาอุฯ ก็ย่อมจะต้องปรับยุทธศาสตร์ของตนเช่นกัน
ยิ่งมีการประชุมสุดยอดกับผู้นำของกลุ่มประเทศอาหรับในจังหวะเดียวกันกับการลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ
ก็เท่ากับเป็นการประกาศ “ศักราชใหม่” ของความเป็นหุ้นส่วนจีน-อาหรับอย่างชัดแจ้ง
พิจารณาจากสื่อทางการจีนที่ลงข่าวและภาพการไปเยือนครั้งนี้อย่างเอิกเกริกก็ยิ่งเห็นถึงความกระตือรือร้นของฝ่ายจีนต่อการเปิดช่องทางใหม่ระหว่างจีนกับตะวันออกกลาง
สี จิ้นผิง ต้องการจะแสดงให้ประเทศอาหรับเห็นคุณค่าของจีนในฐานะผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
อีกทั้งจีนก็จะยื่นมือมาช่วยในการสร้างความเติบโตของภูมิภาค รวมถึงในด้านพลังงาน ความมั่นคง และการป้องกันประเทศ
แน่นอนว่าสหรัฐต้องมองการไปเยือนประเทศอาหรับครั้งนี้ของสี จิ้นผิง เป็นการท้าทายอิทธิพลของวอชิงตันในโลกอาหรับที่ก่อนหน้านี้เคยมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับอเมริกา
สหรัฐฯ ซึ่งให้คุณค่าการเป็น “พันธมิตรทางยุทธศาสตร์” กับซาอุดีอาระเบียมายาวนานกว่า 8 ทศวรรษ
แต่วันนี้อเมริกาพบว่าพันธมิตรเก่ากำลังเสาะแสวงหาเพื่อนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจีน
จีนก็ไม่ลังเลที่จะแสดงว่าตนพร้อมที่จะยื่นมือแห่งมิตรภาพให้กับพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐฯ
ไม่ว่าวอชิงตันจะมองปักกิ่งในทางลบอย่างไรก็ตาม
ผู้นำของซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณชัดเจนว่าแนวทางของตนคือการปฏิเสธแนวคิดการแบ่งขั้วหรือ “การถือหาง” มหาอำนาจข้างใดข้างหนึ่ง
อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าสามารถสร้างความร่วมมือกับจีนเชิงลึก โดยปราศจากการวิจารณ์ หรือ “การแทรกแซง” ในนโยบายภายในของตน
อย่างที่ตะวันตกถูกมองมาตลอด
สี จิ้นผิง กับผู้นำซาอุดีอาระเบีย โมหะหมัด บิน ซัลมาน (MBS) แลกเปลี่ยนแนวทางในด้านสำคัญๆ หลายด้าน
ทั้ง 2 ประเทศตกลงที่จะร่วมมือกันในการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ
และทำงานร่วมกันในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และสร้างสรรค์นวัตกรรมภาคส่วนพลังงาน
มีการออกแถลงการณ์ร่วมเกือบ 4,000 คำ โดยสรุปความสอดคล้องต้องกันในประเด็นทางการเมืองที่หลากหลาย
และสัญญาว่าจะร่วมมือกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นในประเด็นอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยอวกาศ เศรษฐกิจดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
และมีการแลกเปลี่ยนความเห็นประเด็นสงครามเยเมนและสงครามของรัสเซียในยูเครน
ริยาดและปักกิ่งต้องการจะบอกชาวโลกว่าทั้ง 2 มีความเห็นไปในทางเดียวกันในนโยบายหลักส่วนใหญ่
นี่เป็นการเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งแรกของสี จิ้นผิง ใน 6 ปี
ที่เห็นได้ชัดอีกประเด็นหนึ่งคือ ทั้ง 2 มีแผนใหญ่สำหรับการรักษาความปลอดภัยและน้ำมัน
ในการประชุมสุดยอดระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ของสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ในกรุงริยาด สีกล่าวว่า จีนต้องการสานต่อความร่วมมือด้านพลังงานระหว่าง GCC และจีนในปัจจุบัน
ในฐานะลูกค้ารายใหญ่ ผู้นำจีนบอกว่าปักกิ่งจะยังคง “นำเข้าน้ำมันดิบในลักษณะที่สม่ำเสมอและในปริมาณมากจาก GCC รวมถึงเพิ่มการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ” จากภูมิภาคนี้ด้วย
จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยซาอุดีอาระเบียเป็นคนขายรายใหญ่ที่สุดเช่นกัน
Aramco ยักษ์ใหญ่น้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย และ Shandong Energy Group ของจีนบอกว่า กำลังร่างรายละเอียดความร่วมมือเกี่ยวกับโอกาสในการกลั่นและปิโตรเคมีแบบบูรณาการในประเทศจีน
น่าสังเกตว่าถ้อยแถลงที่ถ้อยทีถ้อยให้ความร่วมมือกันระหว่างจีนกับซาอุฯ นั้นมีขึ้นท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนพลังงานทั่วโลก
และในขณะที่โลกตะวันตกเรียกร้องให้ผลิตน้ำมันโลก รวมถึงซาอุฯ เพิ่มผลผลิตเพื่อลดผลกระทบอันเกิดจากน้ำมันและก๊าซที่หดหายไปจากรัสเซียอันเกิดจากสงครามยูเครน
ซาอุฯ เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในจีนด้วยการลงทุนมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ผ่าน Aramco
โดยจะลงทุนในการสร้างโรงกลั่นและปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ไม่ต้องสงสัยว่าปักกิ่งมีความสนใจที่จะร่วมมือกับซาอุดีอาระเบียในด้านความมั่นคงและการป้องกัน
ซึ่งแต่ก่อนนี้หัวข้อที่อ่อนไหวเช่นนี้เคยเป็นเรื่องระหว่างอเมริกากับซาอุฯ เป็นหลัก
แต่วันนี้ซาอุฯ พร้อมจะเปิดช่องทางการพูดคุยเรื่องความมั่นคงและทางทหารกับจีนด้วย
นั่นย่อมชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญยิ่ง
ซาอุดีอาระเบียและประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวอาหรับรู้สึกกังวลใจกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอิหร่าน
ในขณะที่บทบาทด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้กำลังลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
อีกด้านหนึ่งคือ ข้อตกลงที่จะไม่ “แทรกแซงกิจการภายใน” ของกันและกัน
อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐฯ และมหาอำนาจตะวันตกอื่นๆ ซับซ้อนขึ้น คือการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายภายในประเทศและต่างประเทศ
เช่น กรณีการสังหารจามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ สงครามเยเมน และนโยบายน้ำมันของซาอุฯ
นักการเมืองสหรัฐฯ กล่าวหาซาอุฯ ว่าเข้าข้างรัสเซียในสงครามยูเครน
จีนก็ไม่พอใจตะวันตกเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความกังวลระหว่างประเทศเกี่ยวกับไต้หวัน
และข้อหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในเขตซินเจียงทางตะวันตกของจีน
อีกด้านหนึ่งคือ การที่จีนเชิญชวนให้ใช้เงินสกุลหยวนในการซื้อขายน้ำมัน
สีเรียกร้องให้คู่ค้า GCC ของเขา “ใช้ประโยชน์จาก Shanghai Petrol and Gas Exchange อย่างเต็มที่เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการขายน้ำมันและก๊าซโดยใช้สกุลเงินของจีน”
นี่ย่อมทำให้จีนขยับเข้าใกล้เป้าหมายในการทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นในระดับสากล
และจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอเมริกาได้
แต่จุดยืนทางการของรัฐบาลซาอุฯ ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างใดข้างหนึ่งในเวทีการแข่งขันของมหาอำนาจ
โดยเน้น “ความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
นั่นคือการตอกย้ำถึงความสำคัญที่จะต้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับพันธมิตรดั้งเดิมอย่างสหรัฐฯ และประเทศเศรษฐกิจกำลังเติบโตอื่นๆ เช่น จีน เป็นต้น
แต่บวกลบคูณหารแล้วสรุปได้ว่า สี จิ้นผิง เยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้สร้างภาพที่ขึงขังและเปิดกว้างกว่าครั้งใดๆ ในอดีตแน่นอน
วอชิงตันเต้น...แต่ก็ยังพยายามรักษาฟอร์มเดิมเอาไว้
เชื่อเถอะว่าทีมงานของประธานาธิบดีไบเดนกำลังถูกสั่งให้ทบทวนนโยบายต่อตะวันออกกลางโดยด่วน เพื่อสกัดจีนและวิ่งเข้าหาผู้นำซาอุฯ และโลกอาหรับอย่างเร่งรัดร้อนแรงแน่นอน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ