ตีระฆังส่งสัญญาณการจัดทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพัน ตำแหน่ง สารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2565 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปีนี้ ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี วางกฎเหล็กเอาไว้ 18 ข้อ ให้ ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า จัดทำบัญชี เนื้อหาหลักๆ ยังคงยึดกฎ กติกาเดิม กลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นทุกราย ตำรวจที่ได้ผ่านการคัดเลือกจากสถานีตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นให้เสนอเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น หากยังมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูงขึ้นอย่างชัดเจน การแต่งตั้งระดับ ผกก.ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
ให้คำนึงถึงการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเป็นสำคัญ หัวหน้าสถานีระดับ ผกก.ดำรงตำแหน่งเดียวติดต่อกันครบ 4 ปี ให้แต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่นทุกราย การแต่งตั้งตำรวจเลื่อนสูงขึ้นตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจระดับ ผกก.เป็นครั้งแรก ไม่ควรพิจารณาเสนอแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งในสถานีตำรวจที่มีปริมาณและคุณภาพงานสูง เป็นต้น ๐
ที่น่าสนใจในกฎเหล็ก 18 ข้อนั้น ผบ.เด่น กำชับให้ ศฝร.ถือเป็นหน่วยงานสำคัญ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพบุคลากร โดยทำหน้าที่ในการฝึกอบรม เพิ่มพูนความรู้และทักษะการปฏิบัติงานให้แก่ข้าราชการตำรวจ ดังนั้น ข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสังกัด ศฝร. จึงควรพิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความกระตือรือร้น มีบุคลิกลักษณะที่เหมาะสม มีภาวะผู้นำเป็นแบบอย่างที่ดีในการประพฤติปฏิบัติให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม หน่วยจึงควรคำนึงถึงคุณลักษณะดังกล่าวเป็นสำคัญในการพิจารณาแต่งตั้ง ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติภารกิจด้านการพัฒนาคุณภาพบุคลากรของ ตร.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน หากหน่วยพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ หรือไม่มีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติงานใน ศฝร. ก็ให้หน่วยพิจารณาแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดำรงตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมต่อไป...ข้อนี้ถือเป็นการโชว์วิสัยทัศน์ ผบ.เด่น อย่างยอดเยี่ยม ๐
สิ่งที่เหล่าบรรดา นักวิ่ง ระดับนายพัน ต้องจด ต้องจำเอาไว้ คือไทม์ไลน์การจัดทำบัญชีครั้งนี้ การเลื่อนเป็นระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ให้ บช.รวบรวมข้อมูลแล้วเสนอ ตร.ใน 12 ธ.ค.65 เลื่อนเป็นระดับ สว. และ รอง ผกก. ให้ บช.รวบรวมข้อมูลใน 19 ธ.ค.65 การจัดทำบัญชีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงความอาวุโส ประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ ความรู้ความสามารถประกอบกัน และให้ดำเนินการ บช. และ บก.ขึ้นตรง ในสังกัด สง.ผบ.ตร. ระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ส่งบัญชีข้อมูลเสนอแต่งตั้งไปยัง ตร.ใน 20 ธ.ค.65 ระดับ สว. และ รอง ผกก. จัดส่งบัญชีข้อมูลเสนอแต่งตั้งไปยัง ตร.ใน 26 ธ.ค. บช.ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. ระดับ ผกก. และ รอง ผบก. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีแต่งตั้งไปยัง ตร.ใน 20 ธ.ค.65 ระดับ สว. และ รอง ผกก. ซึ่งเป็นอำนาจของ ผบช. ให้ดำเนินการจัดทำบัญชีการแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นใน 28 ธ.ค.65 แล้วให้ทุกหน่วยส่งบัญชีการแต่งตั้งตำรวจไปยัง ตร.ใน 29 ธ.ค.65 เพื่อตรวจความซ้ำซ้อนของตัวบุคคลกับตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้ง ส่วนวันมีผลใช้บังคับใช้ยังไม่มีการเคาะออกมา ๐
เดินหน้าช่วยเหลือครอบครัวตำรวจอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิบุณยะจินดา เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว ปีนี้จัดพิธีมอบถ้วยรางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการตำรวจดีเด่นต้นแบบและพลเมืองดี และมอบทุนสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเพราะได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ มี “ผบ.เด่น” เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ประธานกรรมการมูลนิธิบุณยะจินดา เพื่อข้าราชการตำรวจและครอบครัว ประธานจัดงาน แต่ที่น่าสนใจคือบรรดาอดีตตำรวจที่มาร่วมงาน ล้วนใกล้ชิด ล้วนผูกพันครอบครัว “บุณยะจินดา” ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนี, พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ, พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ, พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต, พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา, พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ, พล.ต.ท.กิตติโชติ แสงนิล, พล.ต.ท.วรเทพ เมธาวัธน์, พล.ต.ท.หญิง ศิริจันทร์ จันทร์แสงสว่าง และ พล.ต.ต.ปราโมทย์ อ่อนปาน เห็นแล้วชื่นใจแทนครอบครัวบุณยะจินดา
บิ๊กเกรียง-พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ลงพื้นที่ภาคใต้ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ทำหน้าที่ประธานในพิธีสดุดีวีรไทย 2484 ประจำปี 2565 ที่ค่ายวชิราวุธ อ.เมืองนครศรีธรรมราช และได้ตระเวนมอบของและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีส่วนในการช่วยเหลือทำการรักษาผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลงจอดฉุกเฉินจนผ่านพ้นวิกฤต หายดีเป็นปกติ จึงขอตอบแทนโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ และโรงพยาบาลเทพา ซึ่งเป็นสถานพยาบาลแรกรับผู้บาดเจ็บทั้ง 7 นายส่งต่อรักษาตัว โดยบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต่างดีใจที่เห็น บิ๊กเกรียง เดินเหินได้เป็นปกติ และมีกำลังใจที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ยังมีโครงการบริจาครถเข็นผู้พิการให้ผู้ด้อยโอกาสอีกด้วย ๐
หลังจากขึ้นเหนือเยี่ยมและมอบของขวัญให้ทหารกองกำลังชายแดนแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ไปเยี่ยมหน่วยทหารกลางกรุงให้กำลังใจหน่วยฝึกทหารใหม่ ที่อยู่ในระหว่างการฝึกทางยุทธวิธีและเสริมสร้างความสมบูรณ์ของร่างกาย ที่ หน่วยฝึกทหารใหม่ 5 หน่วยฝึกในพื้นที่ กทม. ได้แก่ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 รักษาพระองค์, กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์, กองพันทหารสื่อสารที่ 12 พร้อมสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ ณ แหล่งสมาคมนายทหาร กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ พร้อมอวยพรปีใหม่ทหารกองประจำการ และครูฝึก กว่า 3,000 นาย ใน 29 หน่วยฝึก ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1๐
มาดูที่ความเคลื่อนไหวของกองทัพเรือว่าด้วยเรื่อง เรือดำน้ำ ที่ยังค้างเติ่งเรื่องเครื่องยนต์ รอผลการทดสอบการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรม และการหารือสามฝ่ายในช่วงสัปดาห์หน้า ที่ผู้บริหารของ CSOC บริษัทที่เซ็นสัญญาต่อเรือกับ ทร.ไทย โดยมีผู้ช่วยทูตทหารจีนประจำประเทศไทยประสาน แต่ก่อนหน้านั้น พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เคยให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องไทม์ไลน์ต่างๆ มีความสำคัญ เพราะ ทร.ต้องวางแผนด้านงบประมาณ โดยเฉพาะงบผูกพันที่ต้องจ่ายเป็นเงินงวด หากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อ หรือพอแค่นี้ และในกรณีที่เดินหน้าต่อต้องใช้เวลาในการทดสอบนานแค่ไหน ทร.อาจต้องปรับแผนโครงการเพื่อจัดหาเรือฟริเกต เพื่อรองรับแผนพัฒนากองทัพให้มีความต่อเนื่อง โดยให้ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้ทำรายละเอียดเสนอขึ้นมา ซึ่งขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณ ก็ต้องนำเสนอรัฐบาลเพื่ออนุมัติตามขั้นตอน จะใช้วิธีโยกงบไม่ได้ ๐
งานดีๆ ของโรงเรียนการบินกำแพงแสน เปิดบ้านฐานบิน เปิดฟ้า เปิดใจ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา มี พล.อ.ต.พิทูร เจริญยิ่ง ผู้บัญชาการโรงเรียนการบินเป็นประธานในการจัดกิจกรรม 2022 KPS Air Force Base Open House เพื่อให้ประชาชนและสถานศึกษาต่างๆ ได้เข้าชมกิจกรรมการบิน และการแสดงขีดความสามารถต่างๆ ของหน่วยงานในโรงเรียนการบินกำแพงแสนอย่างใกล้ชิด นอกเหนือจากการจัดแสดงการบินในภาคอากาศของทั้ง 2 ฝูงบิน (ฝูงฝึกขั้นต้นฯ และฝูงฝึกขั้นปลายฯ) กิจกรรมภายในงานยังประกอบด้วย การตั้งแสดงอากาศยานแบบต่างๆ ได้แก่ CT-4E, DA-42, PC-9 และ T-6C พร้อมทั้งการสาธิตการปฏิบัติงานของหน่วยอากาศโยธิน, หน่วยสุนัขทหาร K-9, การสาธิตการโดดร่มแบบพาราเซล, การดำรงชีพในป่า และระบบเครื่องช่วยฝึกบิน VR Simulator ที่ใช้เพิ่มทักษะในการฝึกบิน ๐
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน
'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม
ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท