เชื่อกันบ้างไหมว่า..เวลาเดินทางไปไหนๆ ในต่างประเทศ หากฝรั่งมังค่า หรือชนชาติใดๆ ที่เราได้เจอะเจอ รับรู้ว่าเราเป็นคนไทยมาจากไทยแลนด์ล่ะก็ พวกเขามักจะส่งเสียงทักทาย..สวัสดีคร้าบ!! ด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
เหตุผลง่ายๆ คือ พวกเขาเคยมาเที่ยวเมืองไทยแล้ว และรู้สึกประทับใจกับเมืองไทยมาก
ตลอดระยะเวลาที่บรรดาประเทศต่างๆ ทั่วโลก เปิดประตูรับนักท่องเที่ยว เฉพาะปี 2565 นี้มนุษย์ป้าไปมาแล้วทั้งยุโรป อเมริกา รวมทั้งตะวันออกกลาง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบ้าง ตำรวจประจำสนามบินก็มี รวมไปจนถึงผู้จัดการร้านอาหาร และบริกรในโรงแรม ต่างบอกว่าคิดถึงเมืองไทย!! ส่วนเป็นที่ไหนบ้างนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละนางแต่ละนาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่พ้น ภูเก็ต เกาะสมุย เชียงใหม่ รวมทั้งแบงค็อก
ดังนั้น ช่วยๆ กันภูมิใจและอวยความเป็นดินแดนแห่งความสุขของประเทศเราก็จะดีนะคะ อย่างน้อยก็เป็นขวัญและกำลังใจกับธุรกิจภาคบริการทั้งหลายที่เกี่ยวเนื่องกับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ อีกทั้งจะเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนว่า เราต้องช่วยกันรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม และทะนุบำรุงสถานที่ท่องเที่ยวของเราให้ดีเลิศประเสริฐศรีเข้าไว้ ทั้งนี้เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตลอดไป
อีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ป้าขออวยการบริหารจัดการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวของไทยแลนด์ ก็คือ ระบบในการอำนวยความสะดวกภายในสนามบินค่ะ เพราะมนุษย์ป้าเพิ่งกลับจากปีนัง ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ นี่เอง ขอบอกว่า..สอบตก!! สำหรับเจ้าหน้าที่ของสายการบินบริษัทชื่อดังที่นั่น
ปล่อยให้ผู้โดยสารเดากันเองว่า ที่เข้าคิวนั้นใช่หรือเปล่า เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีแถวที่ให้คนแทรกคิวข้ามหน้าข้ามตาคนที่เขาเข้าคิวรอแทบแย่แบบหน้าตาเฉย เพียงเพราะเขาสามารถพูดภาษาท้องถิ่นได้ อีกทั้งทำงานได้ช้ามากกกกก ขนาดถึงขั้นใช้เวลามากกว่า 30 นาทีกว่าจะติดแท็กกระเป๋าให้ผ่านสายพานไปได้
ยัง..ยังไม่พอ ผ่านเข้าไปในส่วนของการตรวจสัมภาระ ผ่านเครื่องเอกซเรย์ ปรากฏว่า ถาดที่จะให้ใส่สิ่งของ มีไม่ถึง 10 อัน เรียกว่าผู้โดยสารต้องคอยชะเง้อ แย่งชิงกันราวกับเป็นของมีค่า ทั้่งนี้เพราะต้องแข่งกับเวลาที่เสียไป จนได้เวลาจะขึ้นเครื่องนั่นแหละ
บอกตรงๆ เห็นแล้วคิดถึงบ้านเรามากๆ เรียกว่า สนามบินเล็กๆ อย่างนครศรีธรรมราช ขอนแก่น สุโขทัย ของเราดีกว่าสนามบินนานาชาติบางแห่งเสียอีกนะ
สรุปว่า รักเมืองไทยค่ะ.
'ป้าเอง'
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คอนเทนต์...คนวัยตกกระ
เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
เงิน..ก้อนสุดท้าย!!
สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย
คิดถึงพ่อ ทำความดี ด้วยการบริจาคโลหิต
ทุกวันที่ 5 ธันวาคม นอกจากเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว พวกเราพสกนิกรชาวไทยระลึกอยู่เสมอว่าเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ทำตัวเป็นแสงสว่าง
อ่านเรื่องนี้แล้วชอบค่ะ ..จึงอยากให้ทุกคนได้อ่านบ้าง.. มีตรอกอยู่ตรอกหนึ่ง ที่ทั้งมืดและทั้งแคบ คืนหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกดังกล่าว เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม