ผมสัมภาษณ์อันวาร์ อิบราฮิมครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อน...ตอนที่เขากัดฟันจับมือกับศัตรูคู่แค้นท่านผู้เฒ่าอดีตนายกฯมหาธีร์ โมฮัมหมัดเพื่อร่วมกันโค่นนายกฯนาจิบ ราซัคซึ่งเป็น “ศัตรูร่วม” ในขณะนั้น
เป็นการยืนยันสัจธรรมการเมืองว่านอกจากจะ “ไม่มีมิตรและศัตรูถาวร” แล้ว
ก็ยังปะเหมาะกับจังหวะของ “ศัตรูของศัตรูคือมิตรของเรา”
ปฏิบัติการครั้งนั้นประสบความสำเร็จ ทำให้มหาธีร์ในวัย 93 ขณะนั้นได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่ง
ข้อตกลงเดิมที่มหาธีร์จะนั่งเก้าอี้นายกฯ 2 ปีแล้วส่งต่อให้อันวาร์กลายเป็นหมัน
เพราะมหาธีร์ไม่ยอมลงจากตำแหน่ง...ปล่อยให้อันวาร์อกหักอีกครั้งหนึ่ง
รวมความแล้วอันวาร์พยายามจะขึ้นเป็นนายกฯมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง
จนเมื่อวันพฤหัสฯที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจึงประสบความสำเร็จในวัย 75
ขณะที่มหาธีร์ต้องประสบกับความปราชัยทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตการเมือง 53 ปี....ในวัย 97
เป็นการสอบตกในเขตเลือกตั้งลังกาวีของตนเอง
คราวนี้จึงเป็นความปรีดายิ่งของอันวาร์ และความชอกช้ำเหลือหลายของมหาธีร์
ตอกย้ำถึงความน่าตื่นเต้นที่หลากไปด้วยสีสันแห่งการย้ายค่าย, หักหลัง, เหยียบซ้ำ, ล้างแค้นและประกาศไม่เผาผีกันอย่างจ้าละหวั่น
แม้ว่าจะได้เป็นนายกฯสมใจอยากแล้ว อันวาร์ก็ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกหลายด้าน
เพราะแม้จะได้พรรคกลุ่ม BN ที่มี UMNO เป็นแกน 30 เสียงมาสนับสนุนตนบวกกับพรรค GPS จากซาราวัคอีก 23 เสียง รวมกับเสียงของกลุ่มตัวเองคือ PH อีก 82 เสียงจะรวมกันแล้วเป็น 135 เสียง
เกินกึ่งหนึ่งที่ 111 เสียงมาพอสมควร
แต่ก็ยังไม่อาจจะไว้วางใจได้เพราะ “งูเห่า” ของการเมืองมาเลเซียมีฟาร์มเพาะเลี้ยงกันอย่างกว้างขวาง สามารถจะเลื้อยเข้าออกจากได้ตลอดเวลา
ขึ้นอยู่กับอาหารที่ป้อนให้และอุณหภูมิของรังที่พักอาศัย
อันวาร์ถูกกลุ่ม PN ที่นำโดยอดีตนายกฯมูยิดดิน ยัซซินถามว่าแน่ใจได้อย่างไรว่าจะมีเสียงส่วนใหญ่ในสภา ขอให้แสดงเอกสารที่มีรายชื่อมายืนยัน
เพราะตัวมูยิดดินเองอ้างว่ากลุ่มของตนมีเสียงรวมกับพรรคอื่นแล้วมี 115 เสียง เกินกึ่งเหมือนกัน
อันวาร์โต้ว่าจะพิสูจน์กันในสภาซึ่งจะมีการลงมติไว้วางใจรัฐบาลใหม่หรือไม่ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้
แน่นอนว่าอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้หากมีการวิ่งเต้นให้ย้ายข้างโดยมีผลประโยชน์เป็นตัวล่อ
ต่อมาอีกหนึ่งวัน อดีตนายกฯมูยิดดินก็ออกมาแสดงความยินดีกับอันวาร์ในตำแหน่งนายกฯ
และทางกลุ่มของเขาจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบและถ่วงดุลในสภาก็แล้วกัน
อันวาร์เรียกรัฐบาลชุดของเขาที่เป็นการรวมตัวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่มีจุดยืนทางการเมืองกันคนละขั้วว่าเป็น Unity Government หรือรัฐบาลเอกภาพ
กึ่ง ๆ เป็นรัฐบาลแห่งชาติ...แต่ก็ยังมีฝ่ายค้านคือกลุ่ม PN ที่มีที่นั่งอยู่ 73 ที่นั่งในสภา
ยังจะมีการประลองกำลังกันได้ตลอดเวลาเช่นกัน
อันวาร์ประกาศในวันต่อมาว่าพร้อมจะเชิญชวนพรรคอื่น ๆ ที่เหลือมาร่วมในรัฐบาลสมานฉันท์อีก
พรรค UMNO ซึ่งเป็นแกนหลักของกลุ่ม BN นั้นเคยปกครองมาเลเซียมายาวนานตั้งแต่หลังได้รับเอกราชมา
ตัวอันวาร์และมหาธีร์เองก็มีจุดกำเนิดจากพรรค UMNO
แต่เมื่อแตกออกมาแล้ว อันวาร์ก็วิพากษ์ UMNO อย่างหนักโดยเฉพาะเรื่องคอร์รัปชั่น
เคยประกาศว่าจะไม่เผาผีกับพรรคนี้ และจะไม่มีวันทำงานร่วมกันได้
โดยเฉพาะหลังเกิดกรณีฉ้อฉลอย่างใหญ่หลวงจากกองทุนรัฐบาล 1MDB ที่อดีตนายกฯนาจิบ ราซัคกลายเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ
วันนี้นาจิบติดคุก แต่อันวาร์จำใจต้องจับมือกับ UMNO เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
จึงมีภาพของคนเคยติดคุกเกือบ 10 ปีอย่างอันวาร์เดินเข้ารับตำแหน่งนายกฯ
ขณะที่นาจิบ ราซัคต้องเดินออกจากทำเนียบนายกฯไปเข้าคุก
เป็นความย้อนแย้งของการเมืองมาเลเซียที่ต้องจารึกกันไปอีกนาน
ส่วนท่านมหาธีร์นั้น หลังจากสอบตกจนกลายเป็นเรื่องช็อกไปทั่วประเทศแล้วก็เงียบไปหลายวัน
ในที่สุดเมื่อวันศุกร์ เขาก็ขึ้นข้อความแสดงความยินดีกับอันวาร์ ในตำแหน่งนายกฯพร้อมข้อความสั้น ๆ ประโยคเดียว
“ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีกับดาโต๊ะศรี อันวาร์ อิบราฮิม เนื่องในวาระได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซีย.. ด้วยความปรารถนาดี”
ความสัมพันธ์ระหว่างมหาธีร์กับอันวาร์ก็เป็นตำนานที่ต้องเล่าขานกันไปอีกนาน
อันวาร์ตอนหนุ่มเป็นนักกิจกรรมการเมืองจากปีนัง
เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวาทะแหลมคนไฟแรง
มหาธีร์เห็นศักยภาพ จึงดีงเข้าพรรคUMNO ในปี 1982
จะเรียกว่าเป็น “เด็กปั้น” จากสำนักมหาธีร์ก็ไม่ผิดนัก
เพราะไม่ช้าไม่นานหลังจากนั้น อันวาร์ก็ขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ช่วงนั้นคนข่าวอย่างผมและแวดวงสื่ออาเซียนเห็นตรงกันว่าอันวาร์คือ “ทายาททางการเมือง” ที่มหาธีร์วางตัวมารับช่วงแทนค่อนข้างแน่นอน
เขาคือเบอร์สองรองจากมหาธีร์อย่างชัดเจน
อันวาร์เคยให้สัมภาษณ์ผมว่าการเป็นเบอร์สองนั้นอันตรายที่สุด
“เพราะถ้าคุณเป็นเบอร์สอง เบอร์หนึ่งจะเริ่มระแวงว่าคุณจะวัดรอยเท้าเขา และเบอร์สามก็จะพยายามกำจัดคุณให้ตกจากตำแหน่งเพื่อเขาจะได้ขึ้นมาเป็นเบอร์สอง....”
นั่นคือสัจธรรมของการเมืองอีกหนึ่งข้อ
หมายความว่าถ้าเล่นการเมืองก็ให้เป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สาม...อย่าได้วางตัวเป็นเบอร์สองนานเกินไป
เพราะคุณจะกลายเป็นเป้าของการทำลายล้างทั้งจากข้างบนและข้างล่าง
รอยร้าวระหว่างมหาธีร์กับ “ตัวตายตัวแทน” ที่ชื่ออันวาร์เกิดขึ้นชัดเจนเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1997 หรือ “ต้มยำกุ้ง” ในไทย
แม้ว่าในช่วงนั้นอันวาร์จะเป็นหนึ่งในขุนศึกใหญ่ของ UMNOในช่วงที่พรรครุ่งเรืองอำนาจล้นฟ้า
แต่ยิ่งสูงยิ่งหนาว และถ้าร่วงลงมาจากที่สูงก็จะเจ็บหนักกว่าตกจากที่ต่ำ
มหาธีร์ต้องการจะยืนหยัดไม่ยอมตามแรงกดดันตะวันตกโดยเฉพาะจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ที่จะให้ประเทศต่าง ๆ ยอมให้ค่าเงินลอยตัวตามตลาด
แต่มหาธีร์ไม่ยอมเดินตามเส้นทางนั้น
เขาประกาศกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลริงกิตมาเลเซียกับดอลล่าร์ตายตัว ไม่ขึ้นลงตามความผันผวนของโลกในขณะนั้น
ขณะที่ไทยยอมเข้ารับความช่วยเหลือ IMF และปล่อยให้เงินบาทลอยตัวเหมือนที่อินโดนีเซียยอมในขณะนั้น
เงินบาทลอยตัวจาก 20 กว่าบาทไปอยู่ที่กว่า 52 บาทต่อดอลล่าร์ ทำให้ยอดเงินกู้ต่างประเทศของทั้งรัฐและเอกชนพุ่งพรวดพราดตนเจ๊งกันระนาว
มหาธีร์ไม่ยอมเข้า IMF แต่อันวาร์ในฐานะรัฐมนตรีคลังเห็นต่าง ยืนยันว่ามาเลเซียไม่อาจจะต้านแรงกดดันของนานาชาติได้
อันวาร์เห็นว่าการยึดอัตราแลกเปลี่ยนตายตัวของรัฐบาลจะเป็นอันตรายต่ออนาคตของเศรษฐกิจ
มหาธีร์ตัดสินใจ “จัดการ” กับอันวาร์เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าอันวาร์ไม่อาจจะเป็น “ทายาททางการเมือง” ได้อีกต่อไป
มหาธีร์พิสูจน์ว่าเขาสามารถจะยันแรงกดดันต่างชาติได้ และพาให้มาเลเซียรอดจากวิกฤตจนเป็นที่แปลกใจของนานาชาติ
ไม่ช้าไม่นานหลังจากนั้น มหาธีร์ก็ปลดอันวาร์...และไม่เพียงแต่เท่านั้นยังตั้งข้อหาเบอร์สองของเขาอย่างรุนแรง
อันวาร์ติดคุกยาวหนึ่งทศวรรษด้วยข้อหาเพศสัมพันธ์ไม่ปกติและคอร์รัปชั่น
(พรุ่งนี้: ที่มาและที่ไปของอันวาร์นายกฯคนที่ 10 ของมาเลเซีย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ