Adios Buenos Aires

การเจ็บไข้ได้ป่วยคือสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว พอๆ กับที่ต้องระมัดระวังตัวไม่ให้โดนปล้น แต่การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงอากาศหนาวมากๆ ระมัดระวังอย่างไรก็มักจะพลาด เพราะผมแพ้อากาศง่าย

ตอนเย็นและค่ำของเมื่อวานผมเดินฝ่าลมหนาวนานไปหน่อย แม้สวมเสื้อผ้าถูกต้องป้องกันอย่างดีแล้วก็ไม่วายรู้สึกว่าร่างกายไม่ปกติตอนกลับถึงโรงแรม ตื่นมามีน้ำมูกและจาม หลังมื้อเช้าอาการยิ่งหนักขึ้นไปอีก 

ผมเช็กเอาต์จากโรงแรมบนถนน Tucuman เขต San Nicolas ฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่โรงแรม กินมื้อเที่ยงในร้านอาหารแบบ Comida para peso หรือบุฟเฟต์ชั่งกิโล ร้านอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เจ้าของเป็นคนจีน ราคาถูกกว่าร้านอื่นๆ ในย่านนี้ คงเพราะว่ามีแต่อาหารมังสวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์ ต้นทุนน้อยกว่าก็ขายถูกกว่า 

จากนั้นเดินไปร้านกาแฟสตาร์บัคส์บริเวณหัวมุมถนน Av. Cordoba ตัดกับถนน San Martin ปกติผมไม่ใช้บริการของสตาร์บัคส์ แต่จะต้องส่งคอลัมน์ในอีก 2 วันข้างหน้า คืนนี้ต้องนั่งรถบัสทั้งคืน พรุ่งนี้เช้าถึงเมืองโปซาดัส ทางเหนือของอาร์เจนตินา กังวลว่าจะไม่มีเวลาเขียน วันนี้มีเวลาครึ่งวันก่อนรถออก 2 ทุ่ม จึงคิดว่าเขียนในร้านกาแฟนี่แหละ เหมาะที่สุด และร้านนี้มีพื้นที่กว้างขวาง เพดานสูง โต๊ะเก้าอี้ว่างหลายตัว

ผมสั่งอเมริกาโน พนักงานพูดภาษาสเปนล้วนๆ ผมฟังไม่ค่อยออก เธอยกแก้วกระดาษใบใหญ่ขึ้นมาแล้วยื่นให้ผมชี้ที่แก้วเพื่อบอกระดับกาแฟที่ต้องการ ผมเอานิ้วจิ้มไปตรงประมาณกลางแก้ว แต่ตอนรับกาแฟผมได้มาเกือบเต็มแก้ว เพราะระดับที่ชี้คือระดับของเอสเปรสโซก่อนเติมน้ำร้อน ไม่มีทางที่ผมจะดื่มหมด ดับเบิลเอสเปรสโซเมื่อตอนเช้ายังออกฤทธิ์อยู่เลย

อพาร์ตเมนต์ Bencich สร้างเมื่อ ค.ศ.1927 บนถนน Av. Cordoba

เปิดโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์แล้วเขียนไปเช็ดน้ำมูกไปได้ไม่เท่าไหร่แบตเตอรีก็หมด พอจะชาร์จหาปลั๊กไฟไม่เจอ ร้านไม่ได้ทำเต้ารับไว้บริการลูกค้าแม้แต่จุดเดียว ผมเลยต้องเก็บโน้ตบุ๊กใส่เป้ กาแฟเหลืออีกครึ่งแก้วก็ปิดฝาแล้วใส่เป้ในช่องสำหรับใส่ขวดน้ำดื่ม ออกจากร้าน เดินไปบนถนน Av. Cordoba ชมตึกรามบ้านช่องในเขต San Nicolas

ผมไม่มีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมแต่ชอบดูอาคารบ้านเรือนยามเดินทางท่องเที่ยวต่างแดน มันเป็นหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่ดูแตกต่างจากบ้านเราอย่างสิ้นเชิง ให้ความรู้สึกว่ากำลังเดินทางท่องเที่ยวจริงๆ

มุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้า Galerias Paficico บนถนน Av. Cordoba

ชาวยุโรปย้ายถิ่นเข้ามาตั้งรกรากในกรุงบัวโนสไอเรสเป็นจำนวนมากช่วงระหว่าง ค.ศ.1880–1920 ผู้อพยพได้นำเอาลักษณะสถาปัตยกรรมที่กำลังนิยมในเวลานั้นเข้ามาด้วย ทั้งสถาปนิกและคนที่มีเงินจ้างสถาปนิก

เท่าที่ผมอ่านพบ อาคารในเขตนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบ Neoclassical หรือ Neo-renaissance ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมยอดนิยมของโลกตะวันตกในยุคคริสต์ทศวรรษที่ 1860 ถึง 1920 เป็นการผสมผสานระหว่างคลาสสิกแบบอิตาเลียนและวิชาการแบบฝรั่งเศส

ลักษณะเด่นๆ ที่พอสังเกตได้ เช่น รูปปั้นบนตัวตึกที่เป็นเทพและเทพีจะมีรายละเอียดยิบย่อยและซับซ้อน มีโดม มีเสาคอลัมน์ ประตูและหน้าต่างเป็นรูปโค้ง เห็นหน้าตึกหรือ Façade 3 ด้าน เพราะใช้มุมที่ถนนตัดตั้งฉากกันเป็นด้านหน้าของตึก เรียกว่า Ochava ประตูทางเข้าอยู่ตรงหัวมุมนี้ ทำให้หน้าตึกดูมีมิติ มีความสมมาตรซ้าย-ขวา

ประตูทางเข้าตึกที่ตัดปาดตรงหัวมุมแบบนี้เรียกว่า Ochava

นอกจากลักษณะสถาปัตยกรรมแบบ Neoclassical แล้ว ในกรุงบัวโนสไอเรสยังโดดเด่นด้วย Art nouveau และ Art Deco โดย Art Nouveau นั้นเกิดขึ้นก่อนที่เบลเยียมในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1890 จากนั้นเข้าสู่ฝรั่งเศสและได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 20 ลักษณะเด่นคือ มีเส้นสายคดโค้งเป็นธรรมชาติกว่า Neoclassical ไม่เน้นความสมมาตร (Asymmetrical) หน้าตึกมีลวดลายเป็นรูปร่างของสตรี ดอกไม้ ต้นไม้ และรูปสัตว์ 

ส่วน Art Deco ถือกำเนิดขึ้นที่ฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ.1925 ได้รับความนิยมในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ไปจนถึงประมาณ ค.ศ.1940 ด้านหน้าตึกมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิต เส้นตรงๆ แข็งๆ

ผมเดินชมตึกในเขต San Nicolas อยู่จนเย็น อาการน้ำมูกไหลและจามทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตัวเริ่มร้อนคล้ายจะมีไข้ เอาเป้ลงจากหลังก็พบว่ากาแฟในช่องใส่ขวดน้ำหกเลอะเทอะส่วนหนึ่งของเป้ และลามลงไปถึงขากางเกง

เข้าซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อกระดาษทิชชูแล้วเดินกลับโรงแรม รับกระเป๋าที่ฝากไว้ จากนั้นเดินมุ่งหน้าสถานีขนส่ง Retiro ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

โรงละคร Teatro Colon สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1908

แต่ระหว่างทางมีบาร์แห่งหนึ่งเปิดอยู่ มีโต๊ะนอกร้าน บนโต๊ะมีเมนูวางไว้ ผมเข้าไปพลิกดูเมนู เห็นรายการเครื่องดื่มมีจินอยู่ด้วย ผู้รู้ท่านหนึ่งเคยบอกผมว่าจินเพียวๆ ช่วยทุเลาอาการคัดจมูกน้ำมูกไหลได้ ผมมีเวลาอีกตั้งเกือบ 2 ชั่วโมงกว่ารถจะออก เข้าไปนั่งในร้านเพราะนอกร้านลมพัดแรง สั่งจินกับพนักงานสาว อายุประมาณยี่สิบกลางๆ ถึงปลายๆ เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่คำว่าจินเธอเข้าใจ

สักพักเธอถือแก้วค็อกเทลมาวางบนโต๊ะ ผมบอกเธอว่าไม่ได้สั่งค็อกเทล สั่งจินเป็นช็อตต่างหาก สื่อสารอยู่นานกว่าจะเข้าใจ ระหว่างที่เธอไปบอกบาร์เทนเดอร์ให้รินจินใส่แก้วช็อต ผมเผลอไปจิบค็อกเทลจินแก้วนั้น

เธอนำจินในแก้วช็อตมาวาง พูดขึ้นว่า Ginebra en shot แปลว่าจินในแก้วช็อต แล้วหยิบแก้วค็อกเทลถือกลับไป สักพักถือมาวางบนโต๊ะใหม่ คงเพราะบาร์เทนเดอร์สังเกตเห็นว่าระดับเครื่องดื่มพร่องลงไป แสดงว่าผมดื่มแล้ว จึงคืนไม่ได้

โรงเรียน Escuela Presidente Roca สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1903

  

หมดจินในแก้วช็อต อาการน้ำมูกไหลดีขึ้นทันตาเห็น ผมสั่ง Ron หรือรัมอีกช็อต และเนื่องจากว่าท้องว่างทำให้รู้สึกหน้าตึงหัวตึงเร็วกว่าปกติ รีบเรียกเช็กบิล ก่อนออกจากร้านพนักงานสาวถามว่ามาจากประเทศอะไร ถ้าเป็นบทสนทนาพื้นฐานผมพอโต้ตอบได้ คุยกันสั้นๆ เธอชื่อเอลีนา ผมขอให้เธอโชคดี Suerte เธออวยพรกลับมาว่าขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ Buen viaje 

นอกจากหยุดจาม หยุดน้ำมูกไหลแล้ว สองช็อตนั้นยังช่วยทานลมหนาวได้อีกด้วย ผมเดินถึงสถานีรถบัส Terminal de Omnibus Retiro ตอน 1 ทุ่มตรง คู่รักชาวไทยที่กรุณามาเป็นเพื่อนซื้อตั๋วเมื่อวานมาถึงก่อนผมราว 5 นาที วันนี้ทั้งคู่มาส่งผมพร้อมทำข้าวผัดกุ้งใส่กล่องมาเป็นมื้อค่ำให้อีกด้วย

และเนื่องจากเหล้า 2 ช็อตนั้นได้เรียกน้ำย่อยออกมาเต็มที่ ผมจึงเปิดกล่องข้าวกินทันที ระหว่างกินอยู่มีคนจรจัดคนหนึ่งยื่นมือมาและทำสัญลักษณ์ว่าตัวเขาก็หิวนะ คุณแจ็คควักเงินให้ 100 เปโซ เขารับแล้วเดินจากไป

โบสถ์ Primera Iglesia Metodista บนถนน Av. Corrientes

เรามาถึงก่อนเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงเพื่อจะได้มีเวลานั่งคุยกัน คุณแม็คบอกว่าถึงอย่างไรผู้โดยสารก็ต้องมาให้ถึงชานชาลาก่อนเวลาเดินทางที่ระบุในตั๋ว 15 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพราะเขาเคยมาถึงตรงเวลาพอดี แต่ปรากฏว่าวันนั้นรถเข้ามาจอดเร็วกว่าปกติ และรถออกไปก่อนโดยไม่ตรวจสอบว่าผู้โดยสารมาครบหรือยัง ทำให้ตกรถและต้องซื้อตั๋วใหม่

วันนี้รถมาช้ากว่าเวลานิดหน่อย ผมฝากกระเป๋าลากและเป้ใบใหญ่ใต้ท้องรถ คุณแม็คยื่นทิปให้คนยกกระเป๋า 100 เปโซ แสดงว่ารถบัสที่เก็บค่าฝากกระเป๋าเท่าที่ผมมีประสบการณ์มีเพียงคนยกกระเป๋าของบริษัทรถ Estrella Condor ตอนมาถึงบัวโนสไอเรสใหม่ๆ เมื่อ 3 เดือนก่อน หมอนั่นเก็บเงินค่ากระเป๋าใบละตั้ง 400 เปโซ สำหรับการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงไปเมืองชาสโคมุส  

ผมกอดลาคนไทยน้ำใจงามทั้งสองคน เพิ่งรู้จักกันไม่ถึง 1 เดือน แต่เราสรุปตรงกันว่าเหมือนรู้จักกันมานาน ขึ้นรถได้ปุ๊บรถเคลื่อนออกจากที่จอดทันที ผมได้นั่งฝั่งเดียวกับที่สามารถมองผ่านหน้าต่างออกไปเห็นคุณแม็คและคุณแจ็ค เราโบกมือให้กันจนกระทั่งมองอีกฝ่ายไม่เห็น

บาร์ Porto Pirata บนถนน Reconquista ตัดกับถนน Marcelo Torcuato de Alvear

ก่อนนี้คุณแม็คให้ข้อมูลว่าคนไทยในกรุงบัวโนสไอเรสนั้นมีอยู่น้อยมาก นอกจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ ที่เหลือส่วนใหญ่คือคนที่มีคู่สมรสเป็นชาวอาร์เจนตินา และคิดว่าที่เมืองอื่นๆ ของอาร์เจนตินาก็คงมีคนไทยอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น

ข้อมูลในเว็บไซต์กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อ พ.ศ.2559 ระบุว่ามีคนไทยในอาร์เจนตินาเพียง 114 คน รวมนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการ AFS แล้ว 52 คน สาเหตุที่มีคนไทยอยู่น้อยก็ชัดเจนว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจในอาร์เจนตินานั้นตกต่ำย่ำแย่มาอย่างยาวนาน ข้อมูลจำนวนคนไทยในอาร์เจนตินาปีหลังๆ ผมหาไม่เจอ สันนิษฐานเอาเองว่าน่าจะลดลงไปกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

สถานีรถไฟ Retiro สาย Mitre

เวลาประมาณ 5 ทุ่มผมก็หลับและหลับยาวจนถึงเช้า ปกติผมนอนในรถบัสไม่ค่อยหลับ แต่รถบัสบริษัท Singer (อ่าน “ซิงเก”) ที่ผมใช้บริการคันนี้เก้าอี้กว้างและสามารถปรับเอนนอนได้ 180 องศา ตั๋วที่ซื้อนั้นแพงกว่ารถบริษัทอื่นๆ ในเส้นทางเดียวกันประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าคุ้มมาก พนักงานขายตั๋วบอกว่าบริษัทอื่นยังไม่มีรถแบบเดียวกันนี้

ผมตื่นนอนแล้วแหวกม่านมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี วิวทิวทัศน์ของรัฐมีซีโอเนสดูคล้ายเมืองไทย ลักษณะภูมิอากาศก็ไม่ต่างกันมาก รัฐมีซีโอเนสมีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นกึ่งเขตร้อน ชาวลาวอพยพอาศัยอยู่มากที่สุดในรัฐนี้

รถวิ่งเข้าเขตเมืองโปซาดัส เมืองหลวงของรัฐมีซีโอเนส แม่น้ำปารานาอยู่ทางขวามือ อีกฝั่งแม่น้ำคือประเทศปารากวัย เวลา 08.15 น. รถเข้าเทียบจอดที่สถานีขนส่ง Terminal Posadas ผมลงจากรถด้วยความสดชื่น

เกือบลืมไปเลยว่าเมื่อวานนี้ยังต่อสู้อยู่กับอาการจามและน้ำมูกไหล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้

เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ

เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม

จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!

ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก

ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ

ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร

จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย