สงครามยูเครนกลายเป็นการสร้างสมรภูมิสำหรับนวัตกรรมทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ล่าสุดที่มีพลังทำลายสูงกว่าทุกสงครามที่ผ่านมา
ที่เห็นได้ชัดคือปรากฏการณ์ Drone Warfare หรือ “สงครามโดรน” ได้เปิดตัวอย่างเต็มที่
เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้วนส่ง “โดรนสงคราม” หรือ “โดรนกามิกาเซ่” มาปะทะกันอย่างดุเดือด
ล่าสุด ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนประกาศจะระดมทุนครั้งใหญ่เพื่อสร้าง “กองกำลังโดรนทางทะเล” เพื่อปกป้องน่านน้ำของตนเองอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
นั่นหมายถึงการก่อตั้ง “กองทัพโดรน” ที่อาจจะมีทั้งที่อยู่บนฟ้าและอยู่ใต้น้ำพร้อมๆ กันไปด้วย
เป็นการสร้างกองกำลังแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากวิธีการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา
และเป็นวิวัฒนาการของการใช้โดรนที่ก้าวไปไกลกว่าที่เคยเห็นในสมรภูมิตะวันออกกลาง, ซีเรีย หรืออัฟกานิสถานก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำไป
มองอีกนัยหนึ่ง สมรภูมิสงครามยูเครนกลายเป็น “โชว์รูม” สำหรับการสำแดงเทคโนโลยีโดรนทางการทหาร
อเมริกาส่งโดรน Phoenix Ghost มาให้ยูเครน
อิหร่านส่ง Shahed-136 มาให้รัสเซีย ซึ่งส่งมาถล่มเป้าหมายในยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเหนือน่านฟ้าเมืองหลวงกรุงเคียฟ
ตุรกีมี Bayraktar TB2 ที่ยูเครนนำมาใช้ในการต่อสู้กับรัสเซียในหลายแนวรบ
แม้ว่ารัฐบาลอิหร่านจะเคยปฏิเสธว่าไม่เคยส่งโดรนมาให้รัสเซีย...แต่ล่าสุดก็ยอมรับว่าได้ส่งมาให้มอสโกจริง
เพียงแต่ว่าเป็นการส่งมอบก่อนที่สงครามยูเครนจะระเบิดขึ้น
และส่งมอบเป็นจำนวนจำกัดเท่านั้น
โดนประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนโต้ว่าการพูดเช่นนั้นเป็นเรื่อง “โกหก” เพราะทหารยูเครนสามารถสอยโดรนอิหร่านลงมาจากท้องฟ้าได้วันละกว่า 10 ตัว
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัสเซียกำลังใช้ “โดรนสงคราม” ที่ผลิตในอิหร่านอย่างกว้างขวางในสงครามยูเครน
ตอกย้ำถึงการแพร่กระจายของเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่งเคยมีเพียงกองทัพของประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้นที่มีใช้
และที่ผ่านมาเป็นการใช้ของฝ่ายที่บุกรุกประเทศอื่น โดยที่ฝ่ายตั้งรับไม่มี “เครื่องบินทิ้งระเบิดไร้คนขับ” เช่นนี้มาต่อสู้ด้วยแต่อย่างใด
ความจริง เทคโนโลยีโดรนทางการทหารมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา
โดยเฉพาะหลังจากที่อิสราเอลเริ่มใช้โดรนเพื่อการลาดตระเวนหลังสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี 1973
หลังจากนั้น วิศวกรจากประเทศต่างๆ มุ่งหน้าไปศึกษาข้อมูลและเทคนิคการสร้างโดรนที่สหรัฐอเมริกา
โดยเน้นการสร้างอุปกรณ์ที่บินได้แบบไร้คนขับซึ่งมีระบบควบคุมที่ล้ำสมัยและเครื่องยนต์ขนาดกะทัดรัดทำให้สามารถพัฒนาโมเดลใหม่ๆ ได้มากมาย
ดูเหมือนการสู้รบด้วยโดรนจะเริ่มต้นเมื่ออเมริกาส่งเจ้า “เครื่องบินทิ้งระเบิดไร้คนขับ” ติดอาวุธไปทำศึกในอัฟกานิสถานและอิรัก
ต่อมาในปี 2011 อิหร่านได้เลียนแบบโดรน RQ-170 ของสหรัฐฯ และนำไปพัฒนาด้วยการคัดลอกแบบเพื่อผลิตอาวุธลอยฟ้าราคาถูกเช่นนี้เป็นจำนวนมาก
อิสราเอลในฐานะเป็นคู่แค้นของอิหร่านก็เริ่มตอบโต้เวอร์ชันอิหร่านในซีเรียในปี 2018
จากนั้นเป็นต้นมา หลายประเทศก็เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้กันอย่างคึกคัก
จนกลายเป็นอาวุธทางเลือกในสงครามหลายแห่ง...และล่าสุดก็คือสมรภูมิยูเครน
มาถึงวันนี้ ความขัดแย้งในยูเครนได้กลายเป็น “ห้องแสดงสินค้าพร้อมขาย” และ “สนามทดลอง” ที่แข่งกันทางด้านเทคโนโลยีโดรนล่าสุดจากประเทศต่างๆ
นักวิเคราะห์ทางทหารบอกว่า รัสเซียใช้โดรนของอิหร่าน รวมถึงซีรีส์ Shahed ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธขนาดเล็กเพื่อไปถล่มฝ่ายตรงกันข้ามได้
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ได้จัดหาโดรนของตัวเองให้กับกองกำลังยูเครนอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน
คำถามที่น่าสนใจก็คือ อิหร่านสามารถผลิตโดรนในปริมาณมากได้อย่างไรในขณะที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มงวดจากโลกตะวันตกอันสืบเนื่องมาจากการที่อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์
คำตอบอาจจะอยู่ที่ว่าอิหร่านมีวิธีการที่จะหลบหลีกการตรวจสอบได้
อีกทั้งก็ยังสามารถผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น เครื่องยนต์จากรุ่นพลเรือนที่หาได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องอาศัยชิ้นส่วนจากอุปกรณ์ทางทหารเหมือนตอนต้นๆ
ที่มีเหตุผลอ้างอิงเช่นนี้เพราะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมามีการพบส่วนประกอบของญี่ปุ่น รวมถึงกล้องและสายเคเบิลใน “โดรนสอดแนม” Russian Orlan-10 ที่กองทัพยูเครนยึดได้
ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้
เพราะเท่ากับว่าอาจจะมีวิธีการซื้อชิ้นส่วนอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางที่หลงหูหลงตาของฝ่ายประกาศคว่ำบาตรได้
มีการตั้งข้อสงสัยว่าอิหร่านอาจจะจัดหาวัสดุที่สุ่มเสี่ยงกับการถูกคว่ำบาตรและหายากสำหรับอาวุธทำลายล้างสูงจากตลาดมืดระหว่างประเทศ
ด้วยวิธีนี้เอง อิหร่านก็อาจเสาะแสวงหาวัสดุเพื่อการสร้างโรงงานนิวเคลียร์ และขีปนาวุธผ่านตลาดใต้ดินระหว่างประเทศ
หรือไม่ก็ใช้ตลาดซื้อขายชิ้นส่วนอาวุธในเวทีสากลภายใต้เกราะกำบังทางการค้าอย่างชาญฉลาด
อาจจะอ้างว่าเป็นชิ้นส่วนพลเรือน แต่ที่สามารถแปลงไปใช้เพื่อการทหารได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
คำถามของนักวิเคราะห์ทางทหารคือ โดรนของอิหร่านจะยังคงสร้างความเสียหายในยูเครนหรือไม่
คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้บอกว่าทั้งนั้นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
หนึ่งคือระยะเวลาความคงทนของวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งก็ไม่ต่างจากอาวุธของตะวันตกที่ส่งไปยังยูเครนนั่นแหละ
อิหร่านยอมส่งโดรนให้รัสเซียทั้งๆ ที่เสี่ยงกับการถูกจับได้ก็เพราะใกล้ชิดกับรัสเซียซึ่งต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน
อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของอิหร่านที่อ่อนไหวกับอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย
ประเด็นต่อมาคือการใช้อาวุธอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด
การจะใช้โดรนถล่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำต้องใช้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบนำทางของโดรน
ข่าวบางกระแสบอกว่าประเด็นนี้กลายเป็น “ความท้าทาย” สำหรับกองทหารรัสเซียพอสมควร
อีกทั้งหากฝ่ายตรงกันข้ามมีระบบต่อต้านอากาศยานที่มีประสิทธิภาพสูง ก็อาจจะสอยโดรนลงจากท้องฟ้าได้ไม่ยากเช่นกัน
ยูเครนจึงได้เรียกร้องสหรัฐฯ และนาโตช่วยจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน
ไม่ต้องแปลกใจหากอิสราเอลก็ได้รับการร้องขอจากยูเครนในเรื่องนี้เช่นกัน
แม้ว่าอิสราเอลจะประกาศว่าไม่สามารถจะช่วยยูเครนในการสร้าง Iron Dome ซึ่งเป็นระบบต่อต้านขีปนาวุธอย่างได้ผล แต่ก็มีข่าวว่าประเทศนั้นอาจส่งครูด้านทหารมาช่วยฝึกปรือให้ทหารยูเครนมีความคล่องตัวในเรื่องการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์หลายๆ ประเภท
จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นสมรภูมิยูเครนกลายเป็นเวทีแห่งการประลองกำลังด้าน “โดรนสงคราม” อย่างร้อนแรงมากยิ่งขึ้นทุกวัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว