![อ่านเอาเรื่อง ผักกาดหอมcontent](https://storage-wp.thaipost.net/2021/10/อ่านเอาเรื่อง-ผักกาดหอมcontent-.jpg)
ไหน...ใครบอกว่าเป็นติ่งลุงตู่!
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) โดย "นพดล กรรณิกา" วิจัยเชิงปริมาณ และคุณภาพ จาก ๑,๖๔๓ ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ ๑-๕ พฤศจิกายน ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พรรคไหนเข้าวิน
ผลโพลเล่นเอาคอการเมืองถึงกับต้องขยี้ตาดูแล้วดูอีก
ใช่แน่นะ?
ซูเปอร์โพลโดนกระแนะกระแหนบ่อยว่า เป็นโพลเชียล์ลุง
สำรวจทีไร ลุง ชนะทุกที
ไม่เคยเป็นใจกับพรรคเพื่อไทยสักครั้งเดียว
แต่วานนี้ ( ๖ พฤศจิกายน) เพื่อไทยคงฉลองใหญ่ไปแล้ว
มาดูผลสำรวจกันครับ
ถ้าเลือกตั้งวันนี้ ซูเปอร์โพล สำรวจ คะแนนพรรค ซึ่งก็คือส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พบว่า
พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ได้เก้าอี้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๒๕-๓๐ ที่นั่ง
รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย ได้ ๒๑-๒๖ ที่นั่ง
ตามด้วยพรรคพลังประชารัฐ ได้ ๑๖-๒๑ ที่นั่ง
กรณีของพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีปัจจัยย้ายพรรคของ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐและความขัดแย้งจนแพแตกแยกทางกันเดินระหว่าง "ลุงตู่" กับ "ลุงป้อม" ที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ ๑๑ ที่นั่ง
พรรคก้าวไกล ได้คาดว่าจะได้ ๙ ที่นั่ง
พรรคชาติไทยพัฒนา ๓ ที่นั่ง
พรรคการเมืองอื่น ๆ อีกจำนวน ๑๐ ที่นั่ง
มีอีกจำนวนที่นั่งที่อาจจะเทไปให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งอีกจำนวน ๕ ที่นั่ง
ทีนี้มาดูการจำแนกตามภูมิภาค
พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ในภาคอีสาน ร้อยละ ๔๕.๖ รองลงมาคือภาคเหนือ ร้อยละ ๓๒.๙ ในกรุงเทพมหานคร ร้อยละ ๒๙.๖ ในภาคกลางร้อยละ ๘.๐ และในภาคใต้ร้อยละ ๖.๓ ตามลำดับ
พรรคภูมิใจไทย ได้ในภาคกลางมากที่สุดคือร้อยละ ๒๖.๒ ภาคใต้ได้ร้อยละ ๒๔.๐ ภาคอีสานได้ร้อยละ ๒๑.๒ กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ ๑๙.๓ และภาคเหนือได้ร้อยละ ๗.๘ ตามลำดับ
พรรคพลังประชารัฐในเงื่อนไขเดิม ภาคใต้ได้ร้อยละ ๒๖.๐ ภาคกลางได้ร้อยละ ๒๕.๘ กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ ๑๓.๓ ภาคเหนือได้ร้อยละ ๗.๘ และภาคอีสานได้ร้อยละ ๕.๘ ตามลำดับ
พรรคประชาธิปัตย์ ภาคใต้ได้ร้อยละ ๒๔.๓ ภาคกลางได้ร้อยละ ๑๑.๕ ภาคเหนือได้ร้อยละ ๑๑.๒ กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ ๗.๔ และภาคอีสานได้ร้อยละ ๓.๗ ตามลำดับ
ส่วนพรรคก้าวไกล กระจายไปได้ภาคเหนือมากสุดร้อยละ ๑๔.๐ กรุงเทพมหานครได้ร้อยละ ๙.๖ ภาคอีสานได้ร้อยละ ๘.๗ ภาคกลางได้ร้อยละ ๘.๒ และภาคใต้ได้ร้อยละ ๔.๙ ตามลำดับ
นี่โพลนะครับไม่ใช่นั่งเทียนเขียนเอง!
ตี๊ต่างว่าผลโพลนี้แม่นยำราวตาเห็น การเมืองจะเปลี่ยนโฉมอีกครั้งในรอบ ๘ ปี
"อุ๊งอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ ของประเทศไทย
เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ ๒ ต่อจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็น ชินวัตร คนที่ ๓ ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๕ ในรอบ ๒๒ ปีของระบอบทักษิณ ต่อจาก ทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งลัษณ์
ส่วนสถิติเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓ ที่ต้องหนีออกนอกประเทศเพราะคอร์รัปชั่นหรือไม่ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึง
ทำไมถึงฟันธงเช่นนั้น
ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน บนเงื่อนไขของ ซูเปอร์โพล สามารถทำนายได้ทันทีว่าโฉมหน้ารัฐบาลใหม่จะประกอบด้วยพรรคอะไรบ้าง
หากพิจารณาฐานจากการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ การคำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะใช้สัดส่วนจำนวนคำแนนที่ประชาชนมาใช้สิทธิ ๓.๕ แสน คะแนน ต่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑ ที่นั่ง
เท่ากับเพื่อไทยได้ประมาณ ๑๐ ล้านคะแนน
พรรคภูมิใจไทยได้ ๙.๑ ล้านคะแนน
พรรคพลังประชารัฐได้ ๗.๓ ล้านคะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ได้ ๓.๘ ล้านคะแนน
พรรคก้าวไกลได้ 3.1 ล้านคะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ๑ ล้านคะแนน
เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี ๒๖๕๒ มีบางพรรคได้คะแนนเพิ่ม บางพรรคลดลง
พรรคพลังประชารัฐ ได้ ๘.๔ ล้านคะแนน
พรรคเพื่อไทย ได้ 7.8 ล้านคะแนน
พรรคอนาคตใหม่ ได้ ๖.๓ ล้านคะแนน
พรรคประชาธิปัตย์ได้ ๓.๙ ล้านคะแนน
พรรคภูมิใจไทยได้ ๓.๗ ล้านคะแนน
พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ ๗.๘ แสนคะแนน
ระบบการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ กับการเลือกตั้งครั้งถัดไปใช้คนละระบบ แต่หากนับเฉพาะคะแนนพรรคไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก เพราะค่าเฉลี่ยการลงคะแนนส่วนใหญ่พรรคประชาชนจะเลือกพรรคและคนไปในทิศทางเดียวกัน
กาส.ส.เขตเบอร์หนึ่ง แล้วไปกาให้พรรค อีกเบอร์หนึ่ง มีไม่มากนัก
เมื่อนำผลซูเปอร์โพลเทียบกับผลการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ พบว่าต้องขยี้ตาอีกครั้ง เพราะไม่มีคำว่าชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์
ไม่มี ๑๙ ล้านเสียงเหมือนที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งปี ๒๕๔๘
ขยี้ตาอีกที รัฐบาลหน้าอาจเป็นเพียงรัฐบาล ๒ พรรค
คือเพื่อไทยกับภูมิใจไทย
เฉพาะส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๒ พรรคนี้ปาเข้าไป ๕๖ คนแล้ว
เกินครึ่ง
ฉะนั้นส.ส.เขต ๒ พรรครวมกันก็น่าจะเกินครึ่งเช่นกัน
แต่เพื่อให้ "อุ๊งอิงค์" เป็นนายกฯโดยขวัญไม่ผวามากเกินไป ก็ดึงพลังประชารัฐ เข้ามาอีกพรรค เป็นอันปิดบัญชี
เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาดสมใจ
"อุ๊งอิงค์"เป็นนายกฯ
"เสี่ยหนู-ลุงป้อม" เป็นรองนายกฯ ก็เป็นภาพที่น่ารักดี
ส่วนฝ่ายค้าน จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ พรรคอนุรักษ์นิยมอย่างประชาธิปัตย์ ต้องทำงานร่วมกับพรรคซ้ายตกขอบอย่างก้าวไกล
"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" จะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
ส่วน "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จะเป็นฝ่ายค้านในฝ่ายค้านนำทีม แก้ ม.๑๑๒ ปฏิบัติสถาบันพระมหากษัตริย์ คุมกำเนิดกองทัพต่อไป
ครับ...โพลล้มเซียนมาเยอะแล้ว
ขอตัวไปซักผ้าก่อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าปล่อยให้เหลิง
นักร้องยังไม่ทำงาน... จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำร้องเกี่ยวกับการปราศรัยของ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปยัง กกต.เลยครับ
เจอตอ ชั้น ๑๔
งวดเข้ามาทุกทีครับ... หากไม่มีอะไรผิดพลาด วันที่ ๑๕ มกราคมนี้ พยานหลักฐานกรณีนักโทษเทวาดาชั้น ๑๔ น่าจะอยู่ในมืออนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจแพทยสภา ชุดที่ คุณหมออมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ครบถ้วนสมบูรณ์
'ทักษิณ' ตายเพราะปาก
แนวโน้มเริ่มมา... ปลาหมอกำลังจะตายเพราะปาก เรื่องที่ "ทักษิณ ชินวัตร" ไปปราศรัยใหญ่โต เวทีเลือกตั้งนายก อบจ.หลายจังหวัด ทำท่าจะเป็นเรื่องแล้วครับ
พ่อลูกพาลงเหว
มันชักจะยังไง.... พ่อลูกคู่นี้จะไปได้สักกี่น้ำกันเชียว ก่อนนี้ "ทักษิณ" ริ "ยิ่งลักษณ์" ยำ
นี่แหละตัวอันตราย
การเมืองปีงูเล็กจะลอกคราบ เริ่มต้นใหม่ ไฉไล กว่าเดิม หรือจะดุเดือดเลือดพล่าน ไล่กะซวก เลือดสาดกันไปข้าง
แก้รัฐธรรมนูญแกงส้ม
ก็เผื่อไว้... อาจจะมีการลักไก่ ลัดขั้นตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ