หมาดำชื่อลูนายังนอนขดอยู่บนที่นอนของเธอในห้องนั่งเล่น ผมตื่นประมาณ 8 โมงเช้า เปิดประตูระเบียงออกไปเช็กอากาศแล้วก็ต้องรีบกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น เนื่องจากไม่ได้ใส่แจ็กเกต เช้าๆ ของเดือนกรกฎาคมในกรุงบัวโนสไอเรส อากาศหนาวกว่าเดือนอื่น
เมื่อคืนนี้ก่อนจะหลับเกิดเหตุการณ์แปลกๆ เนื่องจากห้องนอนของผมไม่มีฮีตเตอร์ เลยเปิดประตูแง้มไว้เป็นช่องเล็กๆ เพื่อรับความอุ่นจากฮีตเตอร์ห้องนั่งเล่น หลังเซลีนออกไปราว 15 นาที ผมได้ยินเสียงไขประตู คิดว่าเธออาจเปลี่ยนใจไม่เดินฝ่าอากาศหนาวไปหาเพื่อนที่บาร์
สักพักเสียงไขประตูดังขึ้นอีก ผมเลยสงสัยว่าแล้วเสียงก่อนหน้านี้มาจากไหน ออกไปดู ประตูยังปิดสนิท ส่วนห้องนอนของเธอเปิดกว้างไม่มีใครอยู่ หลังกลับเข้าห้องยังได้ยินเสียงไขประตูดังขึ้นอีกหลายครั้ง ผมไม่ออกไปดูอีกแล้ว
จนราวๆ ครั้งที่ 10 ชัดเจนมากว่าต้องเป็นเซลีน เพราะมีเสียงเท้าย่ำบนพื้นห้องนั่งเล่น แต่ผมไม่ออกไปพิสูจน์ เพราะถ้าผลออกมาอีกแบบก็คงต้องนอนเปิดไฟทั้งคืน ตอนนั้นเวลาใกล้ตี 2 ไม่นานต่อมาผมก็หลับไปด้วยความง่วงและเพลียเต็มพิกัด
เช้านี้เธอเปิดประตูแง้มไว้พอให้มองออกมาเห็นข้างนอก และพอให้คนข้างนอกมองเข้าไปเห็นด้านใน ผมเห็นว่าเธอยังนอนอยู่จึงเดินเลี่ยงไปทางอื่น ได้ยินเสียงเธอลุกเดินมาที่ประตู ผมหันไปมอง เธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่ ชายเสื้ออยู่บริเวณหน้าขา ไม่ใส่กางเกง เปิดประตูให้กว้างขึ้น เหมือนจะรอคำถาม
“เมื่อคืนคุณกลับมากี่โมงเอ่ย?” ผมถาม
“ตี 5” คำตอบนี้ชวนขนหัวลุก
ผมบอกเธอว่าได้ยินเสียงไขประตูเข้ามาก่อนตี 5 ตั้งหลายครั้ง เธอว่าคงเป็นห้องอื่น ผมคิดในใจ "ทั้งชั้นมีแค่ 8 ห้อง ผมได้ยินเสียงไขประตูมากกว่า 10 ครั้ง" แต่ไม่ได้พูดออกไป
ราว 10 โมง เซลีนแต่งตัวสำหรับออกไปข้างนอก เธอบอกว่าจะพาลูนาไปเดินตามกิจวัตร ผมยังไม่พร้อมจะเช็กเอาต์เลยต้องรอให้เธอกลับมาก่อนเพื่อคืนกุญแจ เพราะห้องพักต้องใช้กุญแจล็อกจากด้านนอก จะออกจากตึกก็ต้องใช้กุญแจเปิดประตูหน้า
ผมใช้เวลาช่วงนี้จองที่พัก ได้โฮสเทลแห่งหนึ่งใกล้ๆ เสาหิน Obelisco ใจกลางสุดของกรุงบัวโนสไอเรส ต้องการทำเลนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากท่ารถบัสปวยโตมาเดโร ที่จะต้องใช้บริการในบ่ายวันรุ่งขึ้น และอยู่ในระยะที่พอเดินไปไม่ยากสำหรับวันนี้
ที่ต้องเดิน เดิน และเดิน ผมได้อธิบายไว้เมื่อตอนที่แล้วว่าไม่สามารถหาซื้อบัตรโดยสารรถไฟใต้ดินได้ ไม่เรียกแท็กซี่เพราะกลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง และผมก็ลืมเสียสนิทว่าตัวเองมีแอปอูเบอร์ ความจริงแล้วแอปเรียกแท็กซี่นอกจากอูเบอร์แล้วยังมีอีกสองสามแอป ได้ยินมาว่าสะดวก ราคาถูก และปลอดภัย
เซลีนกลับมาในอีก 1 ชั่วโมงให้หลัง เช็ดเท้าทั้งสี่ให้ลูนาด้วยผ้าชุบแอลกอฮอล์ เธอจำเป็นต้องลงไปส่งผม ระบบรักษาความปลอดภัยดูรัดกุมและทันสมัย แต่ลิฟต์ยังเป็นแบบโบราณ ต้องเปิดประตูแบบดึงออก จากนั้นสไลด์เปิดประตูเหล็กเหวี่ยงไปทางซ้ายเพื่อเข้าลิฟต์ ดึงปิดประตูนอกแล้วสไลด์ปิดประตูเหล็กให้เข้าล็อก ไม่งั้นกดเลขชั้นไม่ได้
ออกจากลิฟต์ เซลีนเปิดประตูหน้าตึกแล้วเอาหมัดมาชนเหมือนตอนพบกัน เธอขอให้ผมเขียนรีวิวในออนไลน์เอเยนซี และให้คะแนนเต็มกับที่พักของเธอ “มันจะช่วยฉันได้มาก” เธอว่า ซึ่งผมให้สัญญาและทำตาม
จากอพาร์ตเมนต์ของเซลีนบนถนน Peru เดินไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแยกที่ถนน Defensa ตัดกับถนน San Juan (Defensa y San Juan) นี่คือจุดเริ่มต้นทางฝั่งทิศใต้ของเขตเมืองเก่า San Telmo (ซาน เตลโม) ถนน Defensa และถนนในละแวกเดียวกันล้วนปูด้วยหินรูปก้อนอิฐแบบคอบเบิลสโตน บ่งบอกความเก่าแก่ของซาน เตลโม
ชื่อของเขตหรือย่าน "ซาน เตลโม" ตั้งขึ้นตาม San Pedro Gonzalez Telmo นักบุญผู้คุ้มครองชาวเรือ ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกที่ชาวยุโรปเดินเรืออพยพย้ายถิ่นเข้ามายังดินแดนปากแม่น้ำ Rio de la Plata (บัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาและโคโนเนียเดลซาคราเมนโตของอุรุกวัย) ซาน เตลโม ถือเป็นย่านแรกๆ (หลายแหล่งข้อมูลยืนยันว่าเป็นย่านแรก) ของบัวโนสไอเรส และมีความหลากหลายของเชื้อชาติผู้อพยพสูงที่สุดของเมือง นำโดยชาวสเปนและอิตาเลียน ต่อมาจึงเป็นไอริช รัสเซีย โปล เยอรมัน และทาสแอฟริกันที่ได้รับการปลดปล่อย
ซาน เตลโม เติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะเขตของคนทำงานท่าเรือ โรงเผาอิฐ และสถานที่เตรียมและเก็บสินค้าจำพวกขนสัตว์และหนังสัตว์เพื่อการส่งออก หลังปี ค.ศ.1852 การพัฒนาเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดด มีการติดตั้งทั้งท่อน้ำเสีย น้ำประปา ท่อส่งแก๊ส ไฟถนน เปิดตลาดขายส่งขนาดใหญ่ ทำให้คนมีฐานะสนใจย้ายเข้ามาสร้างบ้านและแมนชั่นหรูเป็นจำนวนมาก ทว่าการระบาดอย่างหนักของไข้เหลืองในปี ค.ศ.1871 ซึ่งส่งผลให้มีคนตายเรือนหมื่น เกิดการย้ายหนีขึ้นไปยังทิศเหนือ โดยเฉพาะเขตเรโคเลตา ซาน เตลโมกลายเป็นย่านซบเซา อาคารบ้านเรือนถูกทิ้งร้าง แมนชั่นหรูถูกปรับเป็นห้องแบ่งให้เช่ากับกลุ่มผู้ใช้แรงงานและผู้อพยพต่างถิ่นที่เข้ามาใหม่
อย่างไรก็ตาม หลังคุมการระบาดได้แล้ว ชาวยุโรปอพยพเข้ามายังอาร์เจนตินาอีกระลอกใหญ่ระหว่าง ค.ศ.1875-1930 ทั้งอิตาเลียน สเปน และอังกฤษ รวมถึงชาวรัสเซียที่ต่อมาสร้างโบสถ์รัสเซียนออร์โธดอกซ์ขึ้นเป็นแห่งแรกในอาร์เจนตินา (ค.ศ.1901) อีกทั้งเชื่อกันว่าซาน เตลโม น่าจะเป็นถิ่นกำเนิดของดนตรีและการเต้นรำ "แทงโก" ในคริสต์ทศวรรษที่ 1880 ถึงจะพิสูจน์ค่อนข้างยากในประเด็นต้นกำเนิด แต่หลักฐานความนิยมนั้นเป็นที่แน่ชัดจนถึงทุกวันนี้ เคียงคู่กับย่าน "ลาโบคา" และ "โบเอโด" ที่อยู่ใกล้ๆ กัน
เมื่อที่อยู่ราคาถูกสามารถหาได้ง่ายขึ้น โครงสร้างสาธารณูปโภคที่มีอยู่แล้ว รวมไปถึงการบูมของแทงโก ได้หนุนส่งให้ซาน เตลโมเป็นศูนย์กลางของผู้สร้างงานศิลปะแขนงอื่นๆ ผู้คนชอบมารวมตัว เกิดสถานบันเทิงขึ้นมากมาย ทำให้ย่านนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง บ้านของบรรดาเศรษฐีได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ หนึ่งในนั้นคือแมนชั่นของตระกูลเอเซซา (Ezeiza) ครอบครัวมั่งคั่งที่มีบทบาทสูงในสังคมบัวโนสไอเรส ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Galeria de la Defensa ใกล้กับหัวถนน Defensa ฝั่งทิศใต้ เปิดในลักษณะกึ่งๆ พิพิธภัณฑ์ แบ่งพื้นที่ให้คนเช่าแสดงงานศิลปะและขายงานฝีมือ
จากบ้านแมนชั่นเก่าของตระกูลเอเซซา เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร ถึงจัตุรัส Plaza Dorrego อยู่ฝั่งซ้ายมือของถนน วันนี้วันอาทิตย์มีตลาดนัดประจำสัปดาห์สำหรับขายของโบราณสารพัดอย่าง ตลาดนี้มีชื่อเรียกว่า Feria de San Telmo เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ.1970 นอกจากขายกันในจัตุรัสแล้วก็ยังตั้งแผงค้าอยู่โดยรอบ กำหนดแผงค้าไว้ 270 ร้าน มีป้ายกำกับ ตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน สร้างบรรยากาศของความเป็นเทศกาลหรืองานแฟร์ (Feria)
อาคารบ้านเรือนในย่านนี้ส่วนนอกของตัวตึกยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมโคโลเนียลไว้ทุกกระเบียดนิ้ว แต่ภายในแปลงร่างเป็นร้านขายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ร้านอาหาร โรงเต้นรำแทงโก คาเฟ่ และบาร์ อาคารที่เป็นแมนชั่นเก่าหลายแห่งเปลี่ยนเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม ขายอัญมณี เครื่องประดับ ของโบราณ ของที่ระลึก ร้านค้าหลายร้านเลือกที่จะปิดในวันอาทิตย์ เพราะผู้คนตั้งใจมาซื้อของถูกในตลาดมากกว่า
หากจะให้แนะนำสินค้าตัวแทนความเป็นอาร์เจนตินาที่ควรซื้อกลับบ้าน ผมขอยกให้ถ้วยและชุดดื่มชามาเต, ขวดโซดากาลักน้ำโบราณ, “ฟิเลเตอาโด” แผ่นป้ายข้อความบรรจงแต่มากสีสันแบบฉบับบัวโนสไอเรส, รองเท้าลำลองที่เรียกว่า “อัลปาร์กาตา”, เครื่องหนัง, หินสีชมพู Inca roca หรือ “โรโดโครไซต์” อัญมณีประจำชาติของอาร์เจนตินา ของฝากเหล่านี้ล้วนมีขายในย่านซาน เตลโม
วานนี้ผมได้เข้าตลาดภายในอาคาร Mercado San Telmo มาครั้งหนึ่งแล้วพร้อมกับคู่รักชาวไทยที่พำนักในกรุงบัวโนสไอเรส ตลาดแห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ค.ศ.1897 หรือเมื่อ 125 ปีก่อน ปัจจุบันได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์ชาติ เปิดทุกวัน ไม่เหมือนกับตลาดบนถนนคนเดินที่มีเฉพาะวันอาทิตย์ วันนี้ผมเดินเข้าไปชมอีกครั้ง คนมากกว่าเมื่อวาน หากเป็นร้านอาหารและร้านเบียร์คราฟต์คนแน่นจนไม่มีที่นั่ง ส่วนร้านขายอาหารแห้ง ผักผลไม้ ร้านกาแฟ พอมีที่ว่าง
ผมเคยได้ยินจากปากคนไทยที่อยู่ที่นี่ว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอาร์เจนตินา เศรษฐกิจจะเป็นยังไง เงินในกระเป๋ามีมากหรือน้อยแค่ไหน ขอกินไว้ก่อน
เวลาบ่ายโมงแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง ผมเดินออกจากตลาด Mercado San Telmo หาร้านกาแฟที่ลูกค้าไม่แน่น ได้ร้าน Cosecha ที่หัวมุมถนนใกล้ตลาด ได้ดื่มดับเบิลเอสเปรสโซ และกินครัวซองต์จริงๆ เป็นครั้งแรกในอาร์เจนตินา ไม่ใช่ "มีเดียลูนา" ครัวซองต์แบบท้องถิ่น
บัวโนสไอเรสคือเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในอเมริกาใต้ และเป็นอันดับ 2 ในละตินอเมริกา รองจากเมืองแคนคูนของเม็กซิโก ไม่ว่าอยากกินอะไรก็คงได้กินทั้งหมด (ยกเว้นอาหารไทยในร้านอาหารของคนไทย)
นั่งชมความเคลื่อนไหวของซาน เตลโมอยู่ที่โต๊ะนอกร้านอีกพักใหญ่ จึงค่อยลุกยกเป้ขึ้นหลัง ออกเดินไปบนถนน Defensa ขึ้นไปทางทิศเหนือ การแสดงศิลปะมีให้ชมอยู่ทั่ว ทั้งดนตรีและการแสดงบันเทิงอื่นๆ หลากรูปแบบ แผงค้าที่อยู่นอกเขต Feria de San Telmo คลุมหลังคาด้วยผ้าสีขาว ผู้คนเดินมาจากทิศเหนือสวนมาไม่ขาดสาย ยิ่งบ่ายยิ่งเยอะ ตัวเลขเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแต่ละอาทิตย์ตกอยู่ที่ประมาณ 12,000 คน ในถนนย่อยบางเส้นยังมีตลาดนัดเล็กๆ แยกออกไปจากถนน Defensa
ผมเดินต่อไปจนถึงแยกใหญ่ที่ถนน Defensa ตัดกับถนน Av. Independencia รวมระยะทางจากแมนชั่นตระกูลเอเซซาถึงแยกนี้ประมาณ 500 เมตร หากเดินบนถนน Defensa ไปเรื่อยๆ อีก 1.2 กิโลเมตรก็จะถึงจัตุรัส Plaza de Mayo สถานที่สำคัญอีกแห่งของกรุงบัวโนสไอเรส ผมอยากแวะที่นี่ก่อนเดินอีก 800 เมตรไปยังโฮสเทล
เขตซาน เตลโมจะไปสุดที่ถนน Defensa ตัดกับถนน Chile อีก 200 เมตรข้างหน้า เลยไปคือเขตมอนเซร์รัต (กรุงบัวโนสไอเรสมี 48 เขต หรือ 48 Barrio) แต่ผมยังเห็นแผงค้าทอดยาวไปทางทิศเหนือทั้งฝั่งซ้าย-ขวาสุดลูกหูลูกตา เช่นเดียวกับคนเดินตลาด เข้าใจว่าแผงค้าตั้งเลยสี่แยก Defensa y Chile ไปจนถึง Plaza de Mayo จึงคิดว่าไม่น่าจะเดินฝ่ากระแสคลื่นนักช็อปไปอย่างสะดวกคล่องตัว ตัดสินใจเดินอ้อมไปทางซ้ายบนถนน Av. Independencia ผ่านไป 2 บล็อก เลี้ยวขวาเข้าถนน Peru มุ่งหน้าทิศเหนือ
หากลมไม่แรง ฤดูหนาวในกรุงบัวโนสไอเรสตอนกลางวันคือสวรรค์ของนักเดิน อากาศไม่หนาวจนเกินไป เดินได้และไม่ค่อยเหนื่อย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย