2 คาบสมุทรอันตราย : เกาหลีกับไครเมีย!

ผมตื่นเช้าขึ้นมาเมื่อวันพุธ ข่าวร้อนๆ ก็มาจากสอง “คาบสมุทร” ที่กำลังกลายเป็นจุดเปราะบางที่อาจจะนำไปสู่สงครามขยายวงอย่างน่ากังวล

นั่นคือคาบสมุทรเกาหลีในเอเชีย

และคาบสมุทรไครเมียในยุโรป

เช้าวันนั้น เกาหลีเหนือสร้างความตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะเล่นยิงขีปนาวุธ 10 ลูก...และหนึ่งในนั้นไปลงใกล้กับน่านน้ำของเกาหลีใต้อย่างน่าหวาดเสียวเป็นครั้งแรก

ตกบ่ายและเย็นเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธอีก 10 ลูก จึงสรุปได้ว่า

- เมื่อวันพุธวันเดียว เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธทั้งหมด 23 ลูกลงทะเล

 - เพื่อตอบโต้การซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้

- เป็นการยิงขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1953 (สงครามเกาหลีตกลงหยุดยิงถึงวันนี้ 69 ปี โดยยังไม่มีข้อตกลงยุติสงครามอย่างเป็นทางการแต่ประการใด)

 - ไซเรนโจมตีทางอากาศในเกาหลีใต้

 - นอกจากยิงขีปนาวุธ เกาหลีเหนือก็ยิงปืนใหญ่ 100 นัดเข้าเขตกันชนของ 2 ประเทศ

 - เกาหลีใต้ยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเพื่อตอบโต้

ครั้งนี้เกาหลีใต้ไม่เพียงแค่ออกแถลงการณ์ต่อว่าต่อขานเกาหลีเหนือเท่านั้น

กองทัพเกาหลีใต้แจ้งทันทีว่า เครื่องบินขับไล่ของเกาหลีใต้ได้ปล่อยขีปนาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำจำนวน 3 ลูก ใกล้ๆ กับชายแดนด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือ

และสำทับด้วยว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ เป็นการตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวอย่างน้อย 18 ลูกในวันเดียวกันก่อนหน้านี้

ศูนย์บัญชาการเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งของเกาหลีเหนือได้ตกลงใกล้กับทะเลที่เป็นพรมแดนทางทะเลห่างจากเกาหลีใต้แค่ 57 กิโลเมตร

ถือว่าเป็นการ “ยั่วยุ” จากทางเหนือต่อทางใต้อย่างที่ไม่เคยสร้างความสุ่มเสี่ยงระดับนี้มาก่อน

นับรวมทั้งเช้าวันพุธแล้ว เปียงยางยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 10 ลูก พอถึงบ่ายก็ยิงอีก 10 ลูก ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธที่เข้าใกล้น่านน้ำของเกาหลีใต้

ทำให้มีการส่งไซเรนเตือนภัยให้ผู้คนบนเกาะหลบภัยในบังเกอร์

“การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ผิดปกติมาก และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะมันตกลงมาใกล้กับน่านน้ำของเกาหลีใต้ ทางใต้ของแนวพรมแดนทางเหนือเป็นครั้งแรก” ตั้งแต่คาบสมุทรถูกแบ่งเป็นเหนือและใต้ที่เส้นขนาน 38

นั่นคือคำแถลงทางการของกองกำลังเกาหลีใต้ที่ใช้ภาษาที่ดุดันกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

หน่วยงานทางทหารของเกาหลีใต้ที่รับผิดชอบเรื่องนี้คือ Joint Chiefs of Staff (JCS) ซึ่งออกคำเตือนโดยพลันว่าการโจมตีทางอากาศที่เกาะอุลลึงโด ซึ่งเผยแพร่ผ่านโทรทัศน์แห่งชาติ และบอกให้ชาวบ้าน "อพยพไปยังที่พักพิงใต้ดินที่ใกล้ที่สุด"

“เราขอประกาศว่ากองทัพของเราจะตอบโต้เรื่องนี้อย่างเด็ดขาด”

รายงานขั้นต้นของ JCS ระบุว่า ตรวจพบการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 3 ลูก

แต่ต่อมาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็มีคำประกาศต่อมาว่า เกาหลีเหนือได้ยิง “ขีปนาวุธประเภทต่างๆ อย่างน้อย 10 ลูกในวันนี้ไปทางตะวันออกและตะวันตก”

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน ซุกโยล เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติทันที และสั่งหน่วยงานความมั่นคงให้ออก "มาตรการที่รัดกุมและเข้มงวดเพื่อให้การยั่วยุของเกาหลีเหนือต้องตระหนักว่าเปียงยางต้องรับผลกรรมที่ตามมา"

ญี่ปุ่นก็ร้อนใจเช่นกัน เพราะการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของตนอย่างชัดเจน

นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาวางแผนที่จะเรียก "การประชุมความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็วที่สุด"

ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า เปียงยางจะไม่อยู่เฉยๆ ต่อการที่สหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ดำเนินการซ้อมรบอย่างต่อเนื่อง

ครั้งนี้การซ้อมรบของ 2 ประเทศเป็นการฝึกความพร้อมทางอากาศร่วมกันที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

รหัสของการซ้อมรบครั้งนี้คือ Vigilant Storm หรือ "พายุเฝ้าระวัง" ซึ่งมีเครื่องบินมาร่วมการซ้อมถึง 240 ลำ

เกาหลีเหนือมองว่า แม้ชื่อของการซ้อมรบก็ยังมีความละม้ายกับ Operation Desert Storm ซึ่งเป็นการโจมตีทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ต่ออิรัก ในปี 1990-1991 หลังจากบุกโจมตีคูเวต

โฆษกเกาหลีเหนือบอกว่า “หากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้พยายามใช้กองกำลังติดอาวุธโจมตี (เกาหลีเหนือ) ก็ขอให้รู้ว่ากองกำลังพิเศษของเกาหลีเหนือจะปฏิบัติภารกิจเชิงยุทธศาสตร์โดยไม่ชักช้าเช่นกัน”

และสำทับว่าสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาที่เลวร้าย และ “ต้องจ่ายราคาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์”

ย้อนกลับไปดูการตอบโต้ของ 2 เกาหลีในอดีตเพื่อเปรียบกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน จะเห็นว่าในเดือนมีนาคม 2010 เรือดำน้ำของเกาหลีเหนือได้ยิงตอร์ปิโดของเรือ Cheonan ของกองทัพเรือเกาหลีใต้

คร่าชีวิตลูกเรือ 46 คน รวมถึง 16 คนที่อยู่ประจำการกองทัพเกาหลีใต้

เดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เกาหลีเหนือโจมตีเกาะชายแดนเกาหลีใต้ สังหารนาวิกโยธิน 2 นาย ทั้งคู่เป็นทหารเกณฑ์

                    สถานการณ์วันนี้ก็เข้าข่ายที่มีความสุ่มเสี่ยงไม่แพ้กัน

การทดสอบปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันพุธมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เปียงยางขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐและเกาหลีใต้หากเกาหลีเหนือถูกโจมตี

“สมุดปกขาว” ว่าด้วยยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ต่ออินโด-แปซิฟิกเล่มล่าสุดที่เพิ่งเผยแพร่จากวอชิงตันระบุว่า หากเกาหลีเหนือใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อสหรัฐฯ หรือพันธมิตร “ก็จะหมายถึงจุดสิ้นสุดของระบอบการปกครองเกาหลีเหนือ”

นั่นคงจะมีผลต่อการที่ คิม จองอึน ต้องแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างที่เห็นเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา

คาบสมุทรไครเมียก็กำลังมีความตึงเครียดในระดับที่สูงขึ้นเช่นกัน

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนส่งกองทัพโดรนโจมตีฐานทัพในไครเมีย และเรือรบลำหนึ่งในทะเลดำได้รับความเสียหาย

ผ่านมาเพียง 2 วัน รัสเซียก็ถล่มเมืองใหญ่ๆ ของยูเครนด้วยขีปนาวุธและกองทัพโดรน

โดยมุ่งหนักไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและน้ำ

กับประกาศระงับข้อตกลงกับยูเครนว่าด้วยการเปิด “ระเบียงทางน้ำในทะเลดำ” ให้เรือสินค้าขนส่งธัญพืชและวัตดุดิบด้านอาหารอื่นๆ ออกจากบริเวณการสู้รบเพื่อส่งมอบให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้องอย่างหนัก

แต่ยูเครนก็ยังให้เรือสินค้าที่ติดอยู่ที่ท่าเรือทางใต้เดินหน้าแล่นออกนอกท่าเรือของตนอยู่ดี

รัสเซียเตือนว่าจะไม่รับรองความปลอดภัยหากไม่ฟังมอสโก

โอกาสจะเกิดการสู้รบหนักหน่วงและขยายวงสงครามจึงมีสูงขึ้นตลอดเวลา

 2 คาบสมุทร, 2 วิกฤตที่กำลังเขย่าขวัญคนทั้งโลกขณะนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ