โปรดทราบ : สี จิ้นผิง ยังเดินหน้า‘โควิดต้องเป็นศูนย์’ อย่างเข้มข้นต่อ

ห้ามทั้งเข้าไปและออกมา คนที่อยู่ในนั้นจะออกมาได้ ต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และผู้ที่เข้าไปตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม จะต้องตรวจหาโควิด-19 ทั้งหมด 3 รอบใน 3 วัน...”

คำสั่งด่วนนี้ออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา...จากฝ่ายบริหาร Shanghai Disneyland ที่เซี่ยงไฮ้

สร้างความตะลึงพรึงเพริดพอสมควร เพราะคนส่วนใหญ่ไม่นึกว่าจะมีการล็อกดาวน์อย่างฉับพลันเช่นนี้อีก

ข่าวจากเมืองจีนแจ้งว่า ในรอบ 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมนั้น คนเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อโควิดไม่มีอาการหนัก และเป็นหลักหน่วยไปถึงสิบกว่าคนเท่านั้น

แต่การล็อกดาวน์เป็นจุดๆ ก็ยังเกิดขึ้นเช่นเดิม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ต้องถูกสั่งให้ปิดชั่วคราว

เมื่อประมาณ 1 ปีก่อนหน้านี้ก็ต้องปิดตัวลงเพราะโควิดเช่นกัน

ตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวติดอยู่ในนั้นกว่า 30,000 คน เพียงเพราะเจอนักท่องเที่ยงติดโควิด 1 คน

อีกจุดหนึ่งที่กลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” ของท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คือที่โรงงาน Foxconn ซึ่งเป็นแหล่งผลิต iPhone สำคัญที่เมืองเจิ้งโจว

ที่นั่นมีคนงานกว่า 300,000 คน และถูกสั่งให้ต้องกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด

สร้างความปั่นป่วนในหมู่คนงานที่ติดอยู่ในนั้นไม่น้อย

เรื่องของเรื่องเกิดตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม Foxconn ถูกสั่งให้ตั้งป้อมสู้กับการระบาดของโควิดอย่างเป็นระบบ

โรงงานยักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเจิ้งโจว เมืองหลวงของมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน

คนงานถูกกักบริเวณเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิดไปยังโลกภายนอก

หนึ่งในคนงานที่หลบหนีออกมาบอกกับสื่อตะวันตกว่า

“เราถูกกักบริเวณเมื่อวันที่ 14 ต.ค. และเราต้องถูกตรวจ PCR อย่างไม่รู้จบรู้สิ้น และหลังจากนั้นตลอดเวลาประมาณ 10 วัน เราต้องสวมหน้ากาก N95 และได้รับยาแผนจีน”

สื่อตะวันตกรายงานว่า การควบคุมเป็นไปอย่างเคร่งครัด...หากเจอคนงานตรวจแล้วเป็นบวกหรือเข้าข่ายต้องสงสัยก็จะถูกเรียกออกไปกลางงาน และวันรุ่งขึ้นก็จะไม่เห็นตัวตนอีก แปลว่าถูกกักตัวแล้ว...แต่งานการผลิตของโรงงานยังต้องเดินหน้าต่อไป...

ไม่มีรายงานเป็นทางการ มีแต่เสียงซุบซิบว่าคนงานที่ถูกกักบริเวณเพราะเข้าข่ายติดเชื้อหรือต้องสงสัยมีประมาณ 20,000 คน

แต่ไม่แน่ใจว่าที่ติดเชื้อมีกี่คน เพราะฝ่ายบริหารไม่ได้ให้ข้อมูลกับคนงานให้รู้สถานการณ์ที่แท้จริงแต่อย่างใด

Apple ออกแถลงการณ์ต่อมาว่า ข่าวเรื่องพนักงาน 20,000 คน ถูกกักบริเวณเพราะติดเชื้อไม่เป็นความจริง แต่ความจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครบอก

บริษัทยืนยันว่าพนักงานได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้หากต้องการ

แต่พนักงานจำนวนหนึ่งอ้างว่าถูกกักตัวในที่พัก ออกไปไหนไม่ได้

ข้อความและคลิปที่คนงานและคนอื่นๆ ที่เอาขึ้นโซเชียลมีเดียของจีนถูกลบออกอย่างรวดเร็ว

คนงานบางคนที่หลบหนีออกมาจากโรงงานแห่งนี้ให้ข่าวที่สะท้อนว่า มาตรการควบคุมเข้มข้นเกินเหตุ

แต่ทางการจีนและบริษัทเองออกมาโต้ว่า เป็นการกล่าวหาที่เกินเลยความจริงไปมาก

ข่าวตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์นี้บอกว่า ประเทศจีนพบผู้ป่วยใหม่กว่า 1,000 คนทั่วประเทศ เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

แต่หากเทียบกับตัวเลขผู้ป่วยรายวันที่เป็นช่วงล็อกดาวน์ที่นครเซี่ยงไฮ้ 2 เดือน คือเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีนี้ก็ไม่ถือว่าสูงมากนัก

รัฐบาลจีนสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นยกระดับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายเมืองทั่วประเทศ

นั่นหมายรวมถึงเมืองอู่ฮั่น (มณฑลหูเป่ย) ในภาคกลางไปจนถึงเมืองซีหนิง (มณฑลชิงไห่) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

มาตรการเข้มข้นถูกกลับมาใช้อีก

เช่น ให้ปิดอาคารพักอาศัยที่พบผู้ติดเชื้อ

ห้ามเข้า-ออกอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการระบาดระลอกใหม่

ไม่ต้องสงสัยว่าความเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหลายล้านคนทั่วประเทศ

ที่ถูกสั่งให้ล็อกดาวน์ด้วยก็คือเมืองกวางเจา มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางภาคใต้ของประเทศ

อีกทั้งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญยิ่งเพราะมีอัตราการเติบโตของจีดีพีใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ

เจ้าหน้าที่สั่งให้ปิดถนนและระบบขนส่งกับคมนาคม

ทางการเรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้าน

เพราะพบการระบาดระลอกใหม่เป็นสัปดาห์ที่ 4

เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นเมืองที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรกในโลกช่วงปลายปี 2562 พบผู้ป่วยใหม่ 20-25 คนต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

แม้เราจะเห็นว่าเป็นตัวเลขคนติดเชื้อที่ต่ำมาก แต่สำหรับมาตรฐานของจีนวันนี้ นั่นถือว่าเป็นสถิติที่รับไม่ได้

หากปล่อยไปจะทำให้การระบาดกว้างขวางกว่านี้...และนโยบายทางการกำหนดว่าเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะถูกลงโทษหากไม่สามารถระงับยับยั้งการแพร่ระบาดตั้งแต่ต้น

เขาเอาจริงเอาจังถึงกับให้โรงพยาบาลเมืองอู่ฮั่น สั่งหยุดบริการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยนอกชั่วคราว

เพราะพบเจ้าหน้าที่หลายคนประจำโรงอาหารของโรงพยาบาลมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก

มหาวิทยาลัยเมืองอู่ฮั่นประกาศให้มีการเรียนการสอนทางระบบออนไลน์

บางข่าวบนโซเชียลมีเดียอ้างว่า รัฐบาลเมืองอู่ฮั่นสั่งให้ร้านค้าหยุดขายเนื้อหมูในเมืองอู่ฮั่นชั่วคราวหลังพบคนติดเชื้อรายหนึ่งที่มีกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับพ่อค้าขายหมูที่นั่น

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังยืนยันที่จะเดินหน้ากับนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” อย่างแน่วแน่

และแม้ความเข้มข้นของมาตรการนี้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนบ้าง ทางการจีนก็พร้อมจะตั้งรับ

เพราะสีประกาศในรายงานต่อที่ประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิส์จีนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า

สุขภาพของคนจีนต้องมาก่อน

แม้ประเทศอื่นๆ ในโลกจะเริ่มผ่อนคลายด้วยนโยบาย “ต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้” แต่สำหรับจีนวันนี้...เราขอทำอะไรที่แตกต่างเพื่อพิสูจน์ว่า

“สีทำได้!”.         

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ