หวนกลับไปสู่การต่อสู้ตามวิถีทางปกติ

คือจะเพื่อ เรียกแขก หรือ ส่งแขก ก็ตามที เฉพาะแค่การไปหยิบเอารูปเครื่องประหาร  กิโยติน มาวางแปะไว้กับเหตุผล ข้ออ้าง ว่า ปฏิรูป ไม่ใช่  ล้มล้าง อะไรทำนองนั้น ก็ต้องเรียกว่า...เล่นเอาขนลุก ขนพอง น่าสยดสยอง ไปจนน่าเวทนาและน่าเป็นห่วงซะเหลือเกิน...

                                                            ------------------------------------------------

ด้วยเหตุนี้...ใครก็ตามที่ชอบแอบอยู่ข้างๆ เด็ก หรือแอบซุกอยู่แถวๆ ทวาร อยู่ข้างหลังเด็กๆ ก็ตาม คงต้องพยายามหาทางอยู่ห่างๆ เอาไว้มั่งนั่นแหละดี อย่าไปเจ๋อ อย่าไปประชิดติดตัวมากมายเกินไปนัก เพราะการกระทำการๆ ก็ตาม ถ้าหากต้องเริ่มด้วยการ ขาดสติ หรือไม่หลงเหลือสติติดปลายนวมเอาไว้มั่งแล้ว โอกาสที่จะ ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง ไม่ก็ ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย กันไปข้าง ย่อมเป็นไปได้อยู่แล้วแน่ๆ และนั่นเอง...ที่อาจส่งผลให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หรือแอบอยู่ข้างๆ ก็แล้วแต่ เผลอๆ...อาจมีสิทธิ์ฉิบหาย มีสิทธิ์ตายกับตาย ตามไปด้วย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ...

                                                          -------------------------------------------------

คืองานนี้...อย่างน้อยก็น่าจะหัดเรียนรู้ ศึกษาบทเรียน จากผู้ที่สุดแสนจะทนทานต่อการหัก การโค่น สามารถ อยู่ยาวว์ว์ว์ มาได้ระดับ 7 ปีเกือบ 8 ปี อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮาเอาไว้มั่ง หรือคงต้องหัดเรียนรู้ในการเด้งเชือก ฉากหลบ การมุดจั๊กกะแร้ฝ่ายตรงกันข้าม มันถึงจะมีโอกาสหวนกลับมาเต้นย็อกๆ แย็กๆ อยู่กลางเวทีได้เหมือนเดิม แต่ถ้าหากยังดันไปประกบติด ประชิดตัว เพื่อหวังผลัก หวังดัน หวังอาศัยพวกเด็กๆ เป็น เครื่องมือ ให้ออกหน้าเหมือนเคย แทนที่จะอยู่ในฐานะผู้ที่จูงจมูกพวกเด็กๆ ดี-ไม่ดี...อาจถูกพวกเด็กๆ เองนั่นแหละ สนตะพายให้กลายเป็นวัว-เป็นควายเอาง่ายๆ...

                                                          -----------------------------------------------

เพราะโดยคำวินิจฉัย ชี้ขาด ของ ศาลรัฐธรรมนูญ ทั่น ไม่ว่าจะก่อให้เกิดความผูกพัน เชื่อมโยง ไปถึงองค์กรใดๆ  หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ แต่คงต้องถือเป็น มาตรฐานทางกฎหมาย ชนิดหนึ่ง ที่ไม่ว่าใครก็เถอะ...มิบังควรที่จะไหลไปเข้าทางเท้า เข้าทางตีน เอาง่ายๆ การเด้งเชือก ฉากหลบ  ถอยออกมายืนห่างๆ กะระยะห่าง-ระยะเคียง ให้อยู่ในรัศมีแห่งการอยู่รอด ปลอดภัย เข้าไว้ น่าจะถือเป็นการ รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา-รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี ตามคำชี้แนะ ชี้นำ ของ อภิมหาโยคี ผู้ขี่รุ้งพุ่งออกมาจากนิทานคำกลอน สุนทรภู่ ว่าด้วยเรื่อง พระอภัยมณี นั่นเอง...

                                                         -----------------------------------------------------

โดยเฉพาะใครต่อใครในพรรค เผาไทย เขานั่นแหละ!!! ที่หวังจะแอบๆ อิงๆ พวกเด็กๆ ทั้งหลาย เพราะไม่ว่าจะเป็นเจนเอกซ์ เจนวาย เจนแซด เจนอัลฟา ฯลฯ หรือเจนอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่...มันยังพอมี ประเด็น ที่จะหาทางสร้าง คะแนนนิยม เพื่อนำไปสู่ความถล่มทลาย ความแลนด์สไลด์ แอฟวะลานช์ ได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเปิดเสรีให้กับการดูหนังโป๊ การเปิดช่อง เปิดทาง ให้กับการขายอวัยวะเพศเทียม ฯลฯ หรือการอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ที่พวกเด็กๆ เขาเคยเรียกร้องต้องการ เคยแสดงออกถึงความปรารถนาทำนองนี้ ไม่ถึงกับต้องไปลากเอาสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง อัตราเสี่ยง มากมายเกินไปนัก...

                                                         --------------------------------------------------

ยิ่งเมื่อตัวบท กฎหมาย ได้ถูกแปลความ ตีความ ได้รับการวาง มาตรฐาน เอาไว้ค่อนข้างชัดเจน...ว่าอะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร อะไรล้มล้าง-ไม่ล้มล้าง การฉวยจังหวะถอยออกมาห่างๆ กะระยะห่าง-ระยะเคียงให้มากๆ เข้าไว้ ยังไงๆ...ย่อมต้องดีกว่าการ สู้ไป-กราบไป อยู่แล้วแน่ๆ โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการศึกษา อบรม แบบชนิดฝังราก ฝังลึก อยู่ในจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก มาจากโรงเรียนนายร้อย จปร.ด้วยแล้ว ยิ่งน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก ว่าอะไรที่ควร สู้...และอะไรที่ควร กราบ จะไปเดินตามเด็ก ดมก้นเด็ก หรือปล่อยให้เด็กจูงจมูก สนตะพาย ย่อมไม่น่าจะถูกเรื่องกันซักเท่าไหร่นัก...

                                                         ------------------------------------------------

และถ้าหากผู้ที่ชอบดมก้นเด็ก หรืออยู่เบื้องหลังพวกเด็กๆ เริ่มรู้จักวางตัว หรือเริ่มหันมาเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ กันมั่งแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันน่าจะค่อยๆ ลดระดับลงไปสู่  ความเป็นปกติ ได้มั่ง!!! เพราะโดย ธรรมชาติ ของพวกเด็กๆ นั้น เขาคงไม่ถึงกับติดอก ติดใจ ต่อการเดินขึ้นโรง-ขึ้นศาลไปตลอดชีพ ตลอดชีวิต แต่อย่างใด ยิ่งเป็นเด็กๆ ยุคนี้ สมัยนี้ด้วยแล้ว ออกจะเบื่อง่าย เปลี่ยนใจง่าย อย่างเป็นพิเศษ  อีกทั้งโดยอายุ-อานาม เมื่อหนีไม่พ้นต้องเจริญเติบโตขึ้นเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ อะไรที่หนักไปทางแว้นๆ เวรๆ มันย่อมมีสิทธิ์หายของมันไปเอง โดยไม่จำเป็นต้องไปกดดัน ไปบีบบังคับ เอาเลยก็ย่อมได้...

                                                           ---------------------------------------------------

ถึงจังหวะนั้น...ไม่ว่าจะเป็นการ สู้ กันในทางการเมือง ณ เวทีไหนต่อเวทีไหน ในสภาฯ หรือนอกสภาฯ ก็แล้วแต่ ย่อมหนีไม่พ้นต้องหวนกลับไปสู่การต่อสู้ตามวิถีทางอันเป็นปกติ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ใครยังอยากหักอยากโค่น บิ๊กตู่ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป เพราะยังมีเวลาเหลืออีกตั้ง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ ไม่จำเป็นต้องไปดึง ไปโหน อะไรต่อมิอะไรที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย เพียงเท่านี้...การ อยู่ร่วมกันโดยสันติ ภายใต้ความ เสมอภาคทางกฎหมาย ย่อมน่าจะนำมาซึ่งความสงบ-เรียบร้อย ในระดับใด ระดับหนึ่ง ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...

                                                        ------------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Napoleon Bonaparte... “We can only escape the arbitrariness of the judge by  placing ourselves under the despotism of the law. - เราจะหลีกหนีการตัดสินของผู้พิพากษาได้อยู่ทางเดียว นั่นคือ...การยอมอยู่ใต้กฎหมาย”...

                                                       ------------------------------------------------------------