"เหยื่อการเมือง".....
ที่ "นักกินเมือง" ยุคนี้ชอบที่สุด คือพวกอ่านหนังสือไม่เกินวันละ ๘ บรรทัด
พื้นที่ในสมองจึง "ว่าง"
หลอกง่าย เชื่อง่าย ปั่น "วาทกรรม" อะไรมาก็ "งับหมด" เพราะไม่ชอบอ่านอะไรที่ยาวๆ นั่นแหละ ข้อมูลที่เป็นภูมิคุ้มกัน จึงไม่มี!
พอรัฐบาลปัดฝุ่นกฎกระทรวงเรื่องให้ต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ซื้อที่ดินได้ไม่เกิน ๑ ไร่ ภายใต้เงื่อนยุบยับ (ก็ไม่นำมาพูดให้ครบ)
พวกชังชาติเกิด "หวงที่ดิน" ขึ้นมาทันที ปั่น "วาทกรรม" บิดเบือนกันขนานใหญ่
"รัฐบาลขายชาติ"!
พอเขาแจกแจงเงื่อนไขให้ทราบ และบอก "กฎหมายนี้ออกมาตั้งแต่สมัยทักษิณเป็นนายกฯ" โน่นแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาออก
ก็หน้าด้านแถ ยุคนั้น ยุคต้มยำกุ้ง กู้เงิน IMF มา ต้องทำตามเงื่อนไขเขา แต่ตอนนี้ใช้หนี้หมดแล้ว ต้องยกเลิกกฎหมายนั้น
ถ้าไม่ยกเลิก "ประยุทธ์ขายชาติ"!
พวก ๘ บรรทัด ก็เหรอ..เหรอ ตามกันไป
เหมือนที่เคยติดเบ็ดให้ทักษิณลาก "ผมใช้หนี้ IMF หมดแล้ว" นั่นแหละ จากนั้น ขบวนการสร้างแม้วเป็น "เจ้ามูลเมือง" ก็ปั่นวาทกรรมยอกระดก
"ทักษิณกู้ชาติ"!
น่าเบื่อ อ้างใช้หนี้ IMF หมด ต้องยกเลิกกฎหมาย ก็ทำไมทักษิณไม่ยกเลิกซะตอนที่ใช้หนี้หมดแล้วนั่นล่ะ?
ถึงยุค ๓ นายกฯ นอมินี "สมัคร-สมชาย-ยิ่งลักษณ์" ก็ยังใช้กฎหมายนั้นอยู่
พอตอนนี้ รัฐบาลหยิบมา "ตีกรอบ" ให้กระชับขึ้นในการถือครอง ดันบอก "รัฐบาลขายชาติ" ให้เขายกเลิก!?
เอียนกะ "สัตว์การเมือง" ย้อมสีแดงส้มพวกนี้ซะจริงๆ
เคยคุยเรื่อง "ใครใช้หนี้ IMF" ไปแล้วหลายครั้ง เบื่อคุยอีก
ขอเก็บความจากโพสต์คุณ "สิงห์นอกระบบ" เมื่อ ๙ เม.ย.๕๖ ที่เขาบอก เอามาจาก FB "คุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร" อีกทีก็แล้วกัน
****IMF ใครกู้ ความเป็นมา
ปี 2540 สมัยรัฐบาล "พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ" เป็นนายกฯ ได้ถูก "จอร์จ โซลอส" โจมตีค่าเงินบาท
ทุ่มเงินกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสู้ เพื่อพยุงค่าเงินบาท
ปรากฏว่า "แพ้ราบคาบ" จนเงินทุนสำรองเหลือเพียง 800 ล้านเหรียญ
ทำให้เครดิตประเทศ "ไม่เป็นที่ยอมรับ" เพื่อจะทำการค้าระหว่างประเทศ
รัฐบาลชวลิต ต้อง "ลอยค่าเงินบาท" เป็นผลให้ค่าของเงินตกต่ำอย่างสุดขีด เดิม 25 บาท ร่วงไปถึง 56 บาท/1 ดอลลาร์
รัฐบาลชวลิต ต้องกู้เงินจาก IMF มาพยุงสถานะประเทศ เมื่อ 22 ก.ค.40 จำนวน 17,200 ล้านเหรียญ
การกู้ ประเทศต้องอยู่ในเงื่อนไข IMF ที่เรียกกันว่า LOI ในทุกครั้งที่ไปเบิกเงินกู้
หลังจากทำสัญญาเงินกู้ได้ 2 วัน "ทักษิณ ชินวัตร" ก็เข้าร่วมเป็นรองนายกฯ ดูแลด้านเศรษฐกิจ LOI ฉบับที่ 1 ทำขึ้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2540
ส่วนประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาล หลังพลเอกชวลิต ประกาศลาออก เมื่อ พ.ย.40
ถึงกระนั้น ก็มิใช่เรื่องที่จะกล่าวโทษแก่รัฐบาลที่ทำ LOI ฉบับนั้น เนื่องจากในเวลาวิกฤติ ทางเลือกมีอยู่ไม่มาก
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย
รัฐบาลชวลิต เบิกเงิน IMF 2 งวดแล้ว จำนวนเงิน 4,000 ล้านเหรียญ
แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องยอม "ลาออกไป" ปลายปี 2540
ปี 2541 "รัฐบาลชวน" เข้ามาบริหาร เบิกเพิ่ม 9 ครั้ง จำนวนเงินรวม 10,000 ล้านเหรียญ
สรุป รัฐบาลชวลิต รวมกับรัฐบาลชวน กู้เงิน IMF รวมทั้งสิ้น 4,000+10,000 = 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (น้อยกว่าที่ทำสัญญากู้กับ IMF 3,200 ล้านเหรียญ)
ตั้งแต่ปลายปี 2543-2545 เงินกู้จำนวนดังกล่าวได้ถูกทยอยใช้หนี้มาโดยตลอด จนเหลือหนี้ 4,800 ล้านเหรียญ
ถ้าไทย "ไม่ใช้หนี้ก่อนกำหนด" จะเป็นยังไง?
หนี้ก้อนสุดท้าย 4,800 ล้านเหรียญ คูณ 41 = 196,800 ล้านบาท
เสียค่าปรับ 2% = 3,936 ล้านบาท ลดดอกเบี้ยจากการจ่ายหนี้ก่อนกำหนด 2 ปี = 984 ล้านบาท
รวมประเทศเสียเงินจากการใช้หนี้ก่อนกำหนด = 2,952 ล้านบาท
ถ้า "ไม่ใช้หนี้ก่อนกำหนด" แต่บริหารหนี้ให้เกิดรายได้
หนี้ก้อนสุดท้าย 4,800 ล้านเหรียญ คูณ 41 = 196,800 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยไอเอ็มเอฟ 0.25% 2 ปี = 984 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศ 1.5% มากกว่าไอเอ็มเอฟ 1.25%
นำหนี้ก้อนสุดท้ายมาฝากในประเทศ 2 ปี ได้ดอกเบี้ย = 2,460 ล้านบาท
หักดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไอเอ็มเอฟ = 984 ล้านบาท
ประเทศไทยจะมีรายได้จากการบริหารหนี้ก้อนนี้ = 1,476 ล้านบาท
ระหว่างสร้างรายได้ให้ประเทศ 1.4 พันล้าน กับเสียเงินเกือบ 3 พันล้าน รัฐบาลที่ดีควรเลือกอะไร?
**ข้อสังเกต
ได้ยินกันเป็นประจำ จากฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณ ว่าทักษิณเป็นคนใช้หนี้ IMF
และยังมีข้อกล่าวอ้างว่า ประชาธิปัตย์ เป็นผู้กู้
จากข้อมูล "ธนาคารแห่งประเทศไทย" ชี้ให้เห็นว่า ในปี 2541 ไทย "เกินดุลการค้า" เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2522
คือ เกินดุลถึง 12,200 ล้าน US$ ซึ่งเป็นสมัย รัฐบาล ชวน หลีกภัย
ปี 48 (สมัยทักษิณ) ด้วยซ้ำไป ที่ไทยขาดดุลถึงกว่า 8,000 ล้าน US$
มาดูปัจจัย ดอกเบี้ยต่ำ
ก่อนปี 2544 ภาระหนี้ต่างประเทศนั้น ได้ลดลงในระดับ 105.1 พันล้าน US$ เมื่อปี 2541
****การหยุดกู้เงิน IMF ก่อนกำหนดถึง 1 ปี
ข้อเท็จจริงอีกประการคือ เงินกู้ IMF เป็นเงินกู้แบบ Stand-by ที่มีระยะเวลาเบิกถอน 2 ปี 10 เดือน คือตั้งแต่ สิงหาคม 2540 จนถึงมิถุนายน 2543
แต่เนื่องจากฐานะดุลการชำระเงินดีขึ้นมาก รัฐบาลในขณะนั้นที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ จึงตัดสินใจ "หยุดเบิกถอนเงินกู้" ตั้งแต่ มิ.ย.42
**จากข้อมูลดังกล่าว หากกล่าวตามความเป็นจริงแล้ว ทักษิณไม่ได้ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟอย่างแท้จริง
หากแต่เป็นเพราะ เหตุการณ์และสถานการณ์ขณะนั้น เอื้ออำนวย และเป็นการช่วงชิงมวลชน ใช้การโปรโมต และการชวนเชื่อ การตลาด ได้อย่างสำเร็จ**
-------------------
เก็บมาเสริมอีกเจ้า จาก Dek-D.com
ก่อนจะพูด "ใครเป็นผู้ใช้หนี้ IMF"
มาดูกันก่อน "ใครเป็นผู้ก่อหนี้ IMF ขึ้นมา"
รัฐบาลพลเอกชวลิต เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย
ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชวลิต ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการณ์แต่อย่างใด
ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลทั่วไป ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายจำนวนมาก
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังล้มละลาย เมื่อปี 2540 "ทักษิณ" ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจและกู้หนี้ IMF สมัยนั้น
แต่กลับเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากค่าเงินบาทลอยตัว
"ใคร คือ ผู้ใช้หนี้ IMF"
1.เงินที่ใช้เป็นเงินภาษีประชาชนที่รวบรวมมาจากสมัยคุณชวนเป็นนายกฯ
เงินที่มาจาก "ผ้าป่าช่วยชาติ" ของหลวงตามหาบัว และมาจาก "กองทุนวายุภักษ์" ที่เป็นความคิดในสมัยคุณทักษิณ
แต่หลักๆ มาจากภาษีที่เก็บในสมัยคุณชวน และผ้าป่าของหลวงตาบัว
ท่านอริยสงฆ์นาม "พระหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ท่านได้ออกเทศน์เพื่อชาติ และรับเงินบริจาคมากมาย
ตอนนั้น ทองคำแท่งเป็น มูลค่าหลายล้านบาท และท่านหลวงตาได้มอบเงินให้รัฐบาลเพื่อนำไปคืน IMF นะครับ
2.การที่รัฐบาลคุณทักษิณรีบใช้หนี้ ผมคงไม่รู้
แต่ที่รู้คือ หากยังไม่รีบใช้
IMF สามารถเข้ามากำกับการใช้งบประมาณของรัฐ ซึ่งคุณทักษิณคงไม่ค่อยอยากให้ใครมาตรวจสอบการใช้งบประมาณของชาติ
เพราะอะไรไม่รู้ (โกงมาตั้งแต่เป็นนายกใหม่ๆ)
ก็อย่างที่เป็นอย่างทุกวันนี้นั่นแหละ สุดท้ายเงินที่คุณทักษิณใช้หนี้นั้น มันมีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่คุณทักษิณจะเป็นนายกฯ อีก
แต่ที่ไม่ใช้ เพราะต้องการใช้เงินส่วนนี้ "สำรองไว้ก่อน" และอีกอย่าง "ไม่ใช่เงินของคุณทักษิณ"
เห็นบอกกันแต่ทักษิณล้างหนี้ให้ IMF ผมไม่เห็นเลยว่าทักษิณจะบริจาคเงินช่วยเลยตอนนั้น
มีแต่องค์ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" กับองค์ "สมเด็จพระบรมราชินีนาถ" ของเรา ที่พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยบริจาค
แล้วถ้าไม่มีเงินและทองของหลวงตามหาบัวที่พวกเราคนไทยทุกคนช่วยกันบริจาค จะช่วยให้หนี้หมดกันเร็วขึ้นไหม?
ผมไม่เห็นว่าทักษิณจะออกเงินส่วนตัวช่วยพวกเราตรงไหนเลย
อย่าสร้างคนคนหนึ่งให้เป็นฮีโร่สิครับ
อย่าเข้าใจผิดว่าทักษิณเป็นคนปลดหนี้ คนปลดหนี้คือ "เราคนไทยทุกคน"
.......................
ว่างๆ จะนำ "หลวงตาพูดภาษาธรรม" กับศิษย์ชื่อทักษิณมาให้อ่าน
ชาตินี้ไม่มีวัน "ได้ผุด-ได้เกิด" มึงเอ๊ยยย!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หลวงพ่อทวด' สำเร็จแล้ว
คุยเรื่องบาปมาหลายวัน วันนี้คุยเรื่องบุญกันนิด! แต่ขอเตือนความจำกันก่อน
2 สว. 'พิสิษฐ์-ชาญวิศว์' ปักธงพิทักษ์ รธน. ปกป้องสถาบันฯ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567
เรื่องนี้ 'ทักษิณ' ต้องอ่าน
ใครไม่อ่านวันนี้ ห้ามคุยเป็นแฟนคลับ "เปลว สีเงิน! เนื้อหาทั้งหมด นำมาจาก The room 44 ประทับใจหาดูได้ในช่องยูทูบ
'ให้มันรู้ไปว่าเหนือกรรม'
เข็มยาว "นาฬิกากรรม" กระดิกไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน เข็มสั้น "นาฬิกาเวร" บนข้อมือทักษิณ ริกๆ รออยู่ "แดน ๔" พื้นที่คุมขังและเรือนนอนของผู้ต้องขังชาย!
สัประยุทธ์ 'ธรรมะ-อธรรม'
"กฎหมาย" มีไว้สร้างสมดุลทาง "สังคมเป็นธรรม" แต่ทุกวันนี้ คนใน "๓ สถาบันอำนาจ" คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ "บางคน"
ปริศนา 'ที่ปรึกษาทักษิณ'
คลื่นไส้...อยากอ้วก! พอดีได้อ่านที่ "นายภูมิธรรม" ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่อง "นายอันวาร์" นายกฯ มาเลย์